ตลาดเช่าผงาด! พลิกเกมอสังหาฯ หนีบ้านแพง-สินเชื่อตึง
ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมาตรการคุมเข้มสินเชื่อของธนาคาร ได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ “ตลาดเช่า” ในประเทศไทยผงาดขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาทางเลือกที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากกว่าการเป็นเจ้าของ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองความต้องการของตลาดเช่าได้อย่างตรงจุด
จากรายงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) และบทวิเคราะห์จาก SCB EIC พบว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเมืองท่องเที่ยวสำคัญ โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดเช่ามาจาก 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาบ้านและคอนโดมิเนียมในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงกว่ากำลังซื้อของคนรุ่นใหม่และกลุ่มผู้เริ่มต้นทำงาน ทำให้การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
มาตรการควบคุมสินเชื่อที่เข้มงวด ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ ส่งผลให้ผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้
ความยืดหยุ่นของไลฟ์สไตล์ คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มในการย้ายงานบ่อยครั้ง ต้องการความยืดหยุ่นในการเดินทางและใช้ชีวิต การเช่าจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ยังชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในตลาดซื้อ-ขาย และในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสสำหรับตลาดเช่า โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2567 พบว่ามี หน่วยคอนโดมิเนียมเหลือขายสะสมกว่า 80,000 หน่วย ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าเจ้าของโครงการและนักลงทุนที่ซื้อคอนโดมิเนียมไว้จำนวนมากกำลังหันมาปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้แทนการรอขาย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซัพพลายในตลาดเช่าเพิ่มขึ้น
อุปสงค์ในตลาดเช่าคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพอย่างใจกลางเมือง (CBD) และบริเวณใกล้เคียงรถไฟฟ้า ส่งผลให้ค่าเช่าในบางพื้นที่เริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของตลาดที่กำลังขยายตัว โดยข้อมูลของ Global Property Guide ระบุว่า อัตราผลตอบแทนจากการเช่ารวม (Gross Rental Yield) ในกรุงเทพฯ ปี 2568 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 6.05% ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 4.5% ในปี 2566
นอกจากนี้ ยังพบว่าในเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ ตลาดเช่าก็ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและกลุ่มผู้ทำงานระยะไกล (Digital Nomad) ที่ต้องการที่พักระยะยาว ทำให้ตลาดบ้านเช่าและคอนโดมิเนียมเพื่อการเช่ามีการเติบโตที่น่าจับตาไม่แพ้กัน
ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจึงชี้ให้เห็นว่า “การเช่า” ไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือกชั่วคราวอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นทางเลือกหลักของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะต้องปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนไปนี้ การหันมาพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ตลาดเช่าอย่างจริงจัง