เมฆา เครสเซนต์บ้านหรู 6 ยูนิตเจาะกลุ่มรายได้สูง -ซื้อให้ลูกหลาน
แม้ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 จะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ผู้พัฒนาอสังหาฯ อย่าง บริษัท มอเรส ดีเวลลอป จำกัด กลับมองเห็น “ดีมานด์เฉพาะกลุ่ม” ที่ยังแข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่รายได้สูง ซึ่งกำลังมองหาบ้านที่สะท้อนตัวตนและคุณภาพชีวิตเหนือระดับ
“เมฆา เครสเซนต์ สาทร–ถนนจันทน์” จึงถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Where Life Shines Bright, Beneath the Moonlight” เป็นบ้านเดี่ยว 4 ชั้น จำนวนจำกัดเพียง 6 ยูนิต บนพื้นที่ใช้สอย 750–950 ตร.ม. รองรับฟังก์ชัน 3–5 ห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับซูเปอร์ลักชัวรี ทั้ง Private Lift, EV Charger, หลังคาโซลาร์, ระบบแอร์ Streamer และที่จอดรถซูเปอร์คาร์ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 65 ล้านบาท
กลุ่มเป้าหมายเจ้าของธุรกิจ-นักเทรด
อรรณพ จิตติปัญญากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มอเรส ดีเวลลอป เผยว่า กลุ่มเป้าหมายหลักคือคนรุ่นใหม่ อายุ 35–45 ปี มีรายได้ตั้งแต่ 500,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป เป็นเจ้าของธุรกิจ ทำงานด้านเทคโนโลยี เป็นยูทูบเบอร์ นักเทรด หรือบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งให้ความสำคัญกับดีไซน์ คุณภาพ และทำเลมากกว่าราคา
ขณะเดียวกันยังมี กลุ่มลูกค้าวัย 60 ปีขึ้นไป ที่มองหา “บ้านหรูคุณภาพ” เพื่อซื้อเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ระยะยาวหรือส่งต่อให้ลูกหลานในอนาคต โดยกว่า 90% ของลูกค้าตัดสินใจจากความประทับใจในแบบบ้าน ฟังก์ชัน และงานดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน
จากแรงบันดาลใจ สู่ Craft of Living
จุดเริ่มต้นของ “เมฆา” ไม่ได้เกิดจากนักพัฒนาอสังหาฯ มืออาชีพ แต่จากความตั้งใจของผู้ใช้จริง โดยนายอรรณพ เล่าว่าเคยขับรถดูบ้านหรูหลายโครงการแต่ไม่พบแบบที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง จึงตั้งใจสร้างแบรนด์ที่สามารถ “ดีไซน์ชีวิต” ได้อย่างลงตัว
บริษัทก่อตั้งในปี 2564 โดยทีมผู้ร่วมก่อตั้ง 3 คน ที่มีประสบการณ์ในวงการอุตสาหกรรม, สถาปัตยกรรม และการก่อสร้างกว่า 30 ปี ภายใต้แนวคิด “MORES… Craft of Living” ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความละเอียด และความภูมิใจในการเป็นเจ้าของบ้าน
จาก “เมฆา รามอินทรา” สู่ “ซิกเนเจอร์ สาทร” และ “เครสเซนต์”
สำหรับความสำเร็จจาก2โครงการก่อนหน้า ได้แก่
- เมฆา รามอินทรา บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี บนถนนเลียบวงแหวน มียอดขายเกิน 50% ภายใน 3 เดือน
- เมฆา ซิกเนเจอร์ สาทร–เจริญราษฎร์ บ้านเดี่ยว 4 ชั้น พร้อม Private Pool และ Penthouse Office มียอดขายกว่า 90%
ทั้ง2โครงการตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังเปลี่ยนจากคอนโด มาเลือกบ้านเดี่ยวเพื่อความเป็นส่วนตัว และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ในทุกโครงการของมอเรสฯ ได้ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 Security ที่ผสาน AI เข้ากับทีมงานรักษาความปลอดภัยมืออาชีพ รวมถึงการจัดการบริหารนิติบุคคลและพื้นที่ส่วนกลางอย่างครบวงจร เพื่อยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัย
อนาคตอันใกล้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ “ทาวน์โฮมหรูย่านพระราม 3” ในช่วงต้นปี 2569 เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวลักชัวรีในราคาจับต้องได้มากขึ้น