เนทันยาฮูขอให้ศาลเลื่อนหมายเรียกคดีทุจริต อ้างภารกิจประเทศ
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลขอให้ศาลเลื่อนเรียกตัวขึ้นให้การในคดีทุจริตที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้ยกเลิกคดีนี้ทั้งหมด
แฟ้มภาพ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล (Photo by Menahem KAHANA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2568 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลร้องขอต่อศาลให้เลื่อนหมายเรียกตัวเขาไปขึ้นให้การในคดีทุจริตที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน
ในเอกสารที่ยื่นต่อศาล ทนายความของเนทันยาฮูกล่าวว่าคำให้การของนายกรัฐมนตรีควรเลื่อนออกไป เนื่องจากสถานการณ์ในระดับภูมิภาคและระดับโลกยังไม่เสถียร
"ศาลได้รับการร้องขออย่างนอบน้อมให้สั่งยกเลิกการไต่สวนที่นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าให้การในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า" ทนายความระบุ
เอกสารแจกแจงว่า เนทันยาฮูถูกบังคับให้ทุ่มเทเวลาและพลังงานทั้งหมดของเขาในการจัดการกับปัญหาระดับชาติ, การทูต และความมั่นคงซึ่งมีความสำคัญสูงสุด หลังจากเกิดความขัดแย้งระยะสั้นๆ กับอิหร่าน และระหว่างการสู้รบที่ยังคงดำเนินอยู่ในฉนวนกาซา รวมทั้งสถานการณ์ตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกจับ
ขณะที่ทรัมป์แสดงความคิดเห็นต่อการฟ้องร้องคดีต่อผู้นำอิสราเอล โดยกล่าวว่าเป็น "การล่าแม่มด"
ในข้อความบนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา ทรัมป์กล่าวว่า "การพิจารณาคดีเนทันยาฮูควรยกเลิกทันที หรือไม่เช่นนั้นก็ควรได้รับการอภัยโทษแก่วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากสงคราม 12 วันกับอิหร่านสิ้นสุดลง"
ในเวลาต่อมา เนทันยาฮูกล่าวขอบคุณทรัมป์สำหรับการสนับสนุนจากใจจริงที่มีต่อตนเองและการสนับสนุนอันเหลือเชื่อที่มีต่ออิสราเอลและชาวยิว
"ผมหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับคุณต่อไปเพื่อเอาชนะศัตรูร่วมของเรา, ปลดปล่อยตัวประกันของเรา และขยายวงจรแห่งสันติภาพอย่างรวดเร็ว" เนทันยาฮูเขียนบน X พร้อมแชร์สำเนาโพสต์ Truth Social ของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ผู้นำฝ่ายค้านของอิสราเอลเตือนทรัมป์ไม่ให้แทรกแซงกิจการภายในของอิสราเอล
"เราขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ แต่คุณไม่ควรแทรกแซงการพิจารณาคดีในประเทศเอกราช" ยาอีร์ ลาปิดกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าว Ynet
ทั้งนี้ เนทันยาฮูเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของอิสราเอล
ในการพิจารณาคดีที่ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้งตั้งแต่เริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม 2020 เนทันยาฮูปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดใดๆ
ในกรณีแรก เนทันยาฮูและซารา ภริยาของเขา ถูกกล่าวหาว่ารับสินค้าฟุ่มเฟือยมูลค่ากว่า 260,000 ดอลลาร์ เช่น ซิการ์, เครื่องประดับ และแชมเปญจากเหล่ามหาเศรษฐี เพื่อแลกกับการสนับสนุนทางการเมือง
ในอีกสองกรณี เนทันยาฮูถูกกล่าวหาว่าพยายามเจรจาต่อรองเพื่อให้สื่อของอิสราเอลสองแห่งรายงานข่าวที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้น.