‘อุ๊งอิ๊ง’แก้เกมหยุดปฏิบัติหน้าที่ควบ‘วธ.’
หึ่ง "แพทองธาร" ทูลเกล้าฯ ถวายโผ ครม.แล้ว “พ่อมดดำ” นั่ง รมต.สำนักนายกฯ “หลานสุริยะ” รมว.แรงงาน “เสี่ยเฮ้ง” ได้แค่ รมช.มท. “ชัยเกษม” ลั่นถ้าจำเป็นพร้อมนั่งนายกฯ เปิดเอกสาร “พีระพันธุ์” โอนหุ้นไม่สำเร็จ ส่อกระทบคุณสมบัติรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีนำโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายหรือยัง เพียงแต่ยิ้มเท่านั้น
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีการทูลเกล้าฯ ถวายหรือยัง เนื่องจากเป็นกระบวนการภายใน และนายกฯ ยังไม่แจ้งว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ใครจะอยู่ตรงไหน รวมถึงตนก็ไม่ทราบว่าจะได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ตรงไหน แต่ถึงจะอยู่ที่ไหน คิดว่านายกฯ คงดูความเหมาะสม สำหรับตนยินดีทำงานทุกตำแหน่งที่นายกฯ มอบหมาย
เมื่อถามอีกว่า มองว่าเมื่อเห็นหน้าตา ครม.ชุดใหม่แล้ว ภายในพรรคเพื่อไทยจะรับได้ ไม่มีแรงกระเพื่อมใช่หรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ไม่มี ตนคิดว่าการปรับ ครม.นายกฯ คงจะมีเหตุมีผลในเรื่องของการวางบุคคลลงในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งตรงนี้เป็นอำนาจของนายกฯ
ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. ลำดับที่ 3 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงสุขภาพตอนนี้หลังมีภาพออกรอบตีกอล์ฟว่า ไม่มีปัญหาแล้ว ส่วนอาการสโตรกที่ผ่านมาสลายตัวเรียบร้อย วันนี้ตนจึงตีกอล์ฟได้สบาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ นายชัยเกษมกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องให้ตนเป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ก็ให้คนอื่นเขาทำ ทำมาเยอะแล้ว เราสุขกายสบายใจแล้ว เมื่อถามย้ำว่าหากจำเป็นพร้อมใช่หรือไม่ นายชัยเกษมระบุว่า ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าจำเป็นจะทำเพื่อชาติบ้านเมือง ให้ทำอะไรตนทำได้ทั้งนั้น ไม่มีปัญหา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า นายชัยเกษมตีกอล์ฟทุกสัปดาห์อยู่แล้ว เหมือนกับพวกเราทุกคน หากมีเวลาจะออกกำลังกายในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งคนที่เล่นกอล์ฟทำอย่างนี้กันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า นายชัยเกษมให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมเป็นนายกฯ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ถือเป็นไพ่ของพรรค พท.ที่จะเดินต่อให้ครบวาระใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่ได้คิดที่จะเดินอะไรต่อ แต่คิดที่จะให้นายกฯ เดินต่อในรัฐบาล และตั้ง ครม.ให้เสร็จโดยเร็ว ไม่มีประเด็นอื่น อย่าจับแพะชนไก่
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงการทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อ ครม.ว่า เป็นเรื่องของนายกฯ ซึ่งใจของนายกฯ อยากทำให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อที่รัฐมนตรีจะได้เข้าไปรับหน้าที่ และทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ตนเชื่อว่าเร็ว
เมื่อถามว่า ขณะนี้นายภูมิธรรมทราบหรือยังว่ายังอยู่ที่เดิมหรือย้ายกระทรวง นายภูมิธรรมปฏิเสธว่า ไม่ทราบ แต่รู้แค่ว่ายังเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เพราะยังมีงานต่อเนื่องที่ตั้งขึ้นมาเพื่อมอบหมายดูแล ตรงนี้มีความชัดเจน ส่วนในเรื่องของกระทรวงหรือการเป็นรองนายกฯ อย่างเดียว อันนี้ไม่ทราบ ต้องถามนายกฯ คนอื่นก็อยู่ในสภาวะเดียวกัน เรารู้แค่ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลง และทุกคนได้ยืนยันประวัติของตัวเองไป อยู่ที่นายกฯ ว่าจะหยิบใครไปอยู่ตรงไหน
เมื่อถามถึงกรณีนายอมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ พรรค พท. เสียชีวิตลง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่าง พรรค พท.เตรียมใครไว้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องเพิ่งเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.ในวันเดียวกันนี้ เราขอแสดงความเสียใจ และขอให้งานศพของท่านจัดเสร็จสิ้นก่อน ไม่ต้องเร่งรีบ ยังมีเวลา เมื่อถามย้ำว่ากังวลหรือไม่ เพราะพรรค พท.เป็นเป้า และจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีคู่แข่งคือพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่กังวล
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวมีพรรคการเมืองบางพรรคติดต่อซื้อตัว สส.ในพรรคร่วมรัฐบาลให้ไปร่วมงานด้วยการที่ซื้องูเห่าว่า ที่พรรคการเมืองบางพรรคเคยทำในอดีตน่าจะหมดยุคแล้ว อีกทั้ง สส.มีศักดิ์ศรีอยู่ คงไม่มีใครไปแน่ เพราะหากใครไปทำเช่นนั้น ต้องดูว่าประชาชนเขาจะคิดอย่างไร นอกจากนี้ส่วนใหญ่ที่ย้ายออกไปตามปัจจัยใดๆ ก็ตาม ในอดีตล้วนสอบตก
มีรายงานข่าวความคืบหน้าการปรับ ครม.ว่า นายกฯ ได้นำรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว โดยมีรายชื่อที่น่าสนใจ อาทิ นายสุชาติ ตันเจริญ มีรายชื่อว่าจะไปเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค พท. หลานชายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เป็น รมว.แรงงาน ขณะที่ในส่วนของรายนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเรียกร้องตำแหน่ง รมว.นั้น มีชื่อไปนั่งเป็น รมช.มหาดไทยแทน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. เป็น รมช.ศึกษาธิการ นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวออกมาว่า น.ส.แพทองธารจะควบ รมว.วัฒนธรรม อีกตำแหน่ง
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าสาเหตุที่ น.ส.แพทองธารควบเก้าอี้ รมว.วธ.นั้น เพื่อป้องกันกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะได้ใช้เก้าอี้ รมว.วธ.ในการเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้
วันเดียวกัน มีรายงานข่าวกรณีมีผู้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหานายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายรัฐมนตรี รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้น บริษัท รพีโสภาค จำกัด และถือหุ้นในบริษัทอื่น ได้แก่ บริษัท วีพีแอโร่เทค จำกัด, บริษัท พีแอนด์เอส แลนด์แอนด์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, บริษัท โสภา คอลเล็คชั่นส์ จำกัด อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ในมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 (การขัดกันแห่งผลประโยชน์)
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการกระทำที่น่าจะส่อปัญหาเกี่ยวกับคู่สมรสของนายพีระพันธุ์ คือ นางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค เนื่องจากในมาตรา 187 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กำหนดไว้ว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทต่อไปตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ
และต้องไม่เป็นลูกจ้างของบุคคลใด และรัฐมนตรีจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทตามวรรคสองไม่ว่าในทางใดๆ มิได้ โดยข้อห้ามของการเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นดังกล่าว ให้ใช้บังคับแก่คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีผลประโยชน์ที่ขัดกัน และไม่ให้มีการปิดบังหรือซ่อนเร้นบัญชีทรัพย์สินของรัฐมนตรีและคู่สมรส เนื่องจากนางสุนงค์ซึ่งเป็นคู่สมรสของนายพีระพันธุ์ ยังถือหุ้นในบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด จำนวนร้อยละ 21.68% ซึ่งเกินกว่าเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 5%
ต่อมานางสุนงค์จึงได้ดำเนินการโอนหุ้นให้แก่บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (MFC) เข้ามาเป็นผู้จัดการหุ้นดังกล่าวแทนตนเอง ตามสัญญาฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 ธ.ค.66 และฉบับที่ 2 ลงวันที่ 4 ก.ย.67 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายพีระพันธุ์ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และทำให้นางสุนงค์ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวก้าวก่าย หรือดำเนินการใดๆ ในฐานะผู้ถือหุ้น หรือผู้รับมอบฉันทะของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัดได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้นายพีระพันธุ์พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีทันที
อย่างไรก็ดี ในข้อบังคับข้อที่ 6 ของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ได้มีการกำหนด "ห้ามมิให้ถือหุ้นโอนหุ้นของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่จะโอนหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมหรือผู้สืบสันดานของผู้ถือหุ้นเดิม" ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.68 บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด มีหนังสือปฏิเสธการโอนหุ้นต่อนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ MFC ว่าไม่สามารถจดแจ้งการโอนหุ้นได้ เนื่องจากการโอนหุ้นให้ MFC ผิดข้อบังคับข้อที่ 6 ของบริษัท จากนั้นวันที่ 28 พ.ค.68 นางสุนงค์ได้เข้าประชุมและใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด
ถัดมาวันที่ 30 พ.ค.68 MFC แจ้งนางสุนงค์ว่า ขอยกเลิกการรับโอนหุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด และขอเพิกถอนหนังสือสัญญาโอนหุ้นทั้ง 2 ฉบับของบริษัทชนัตถ์และลูก จำกัด โดยให้การโอนหุ้นสิ้นสุดลงและมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.66 เสมือนไม่เคยมีการโอนหุ้นกันมาก่อน ทั้งนี้ ผู้จัดการหลักทรัพย์จะรายงานการเปลี่ยนแปลงรายการหุ้นของรัฐมนตรีตามสัญญาจัดการหุ้นต่อประธาน ป.ป.ช.เพื่อทราบต่อไป
“จากกรณีดังกล่าวมีประเด็นเกี่ยวกับคุณสมบัติของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของนายพีระพันธุ์” แหล่งข่าวระบุ.