สภาเดือด! ถก “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ล่มไม่เป็นท่า ส.ส.จี้รัฐแจงงบสร้างแอปฯ 10 ล้านหายไปไหน
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดของ ว่าที่ ร.ต.สมชาติ เตชถาวรเจริญ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาชน (ปชน.) ถึงนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับปัญหาในโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”
ว่าที่ ร.ต.สมชาติ เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศปีนี้ซบเซากว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอย่างมาก สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลไทย ด้านการจัดการปัญหาค้ามนุษย์ กระทบต่อเศรษฐกิจท่องเที่ยวโดยตรง
แม้รัฐบาลจะใช้งบจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท มาสนับสนุนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งวงเงิน 1.75 พันล้านบาท แต่กลับพบว่า มีการใช้งานสิทธิ์ไม่ถึง 1 หมื่นสิทธิ์ต่อวัน ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก สาเหตุหลักมาจากปัญหาแอปพลิเคชันใหม่ที่ใช้ยาก ระบบล่ม และขั้นตอนซับซ้อน
“รัฐบาลทำแอปฯ ไม่เป็น ขาดประสิทธิภาพ แอปฯ นี้ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท แต่ประชาชนส่วนใหญ่กลับใช้งานไม่ได้” ส.ส.สมชาติ กล่าว
เขายังชี้ว่า รัฐน่าจะใช้แอปฯ เดิมของธนาคารกรุงไทย เช่น “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ที่ประชาชนคุ้นเคยและเคยใช้งานมาแล้ว แต่กลับไม่ดำเนินการเช่นนั้น ทั้งยังไม่พบข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างในเว็บไซต์กระทรวง หรือรายละเอียดงบประมาณโครงการ
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงการทุจริต เพราะระบบอนุญาตให้ผู้ใช้แนบรูปภาพใด ๆ แทนสลิปโอนเงินได้ จนอาจมีการแอบอ้างขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐโดยไม่จองห้องพักจริง
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง ชี้แจงว่า โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งเป็นนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ สำหรับผู้มีบัตรประชาชนไทยเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับตลาดนักท่องเที่ยวจีน พร้อมขออภัยประชาชนในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น
รมว.ท่องเที่ยวฯ ยืนยันว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมแจงว่า ปัญหาเกิดจากระบบลงทะเบียนผ่านแอปฯ ThaiD ซึ่งใช้สำหรับยืนยันตัวตนและป้องกันการทุจริต เพราะโครงการในอดีตเคยพบคดีทุจริตกว่า 1,300 คดี
นอกจากนี้ ยังระบุว่า ในวันแรกที่เปิดให้ลงทะเบียน มีประชาชนกว่า 1.4 ล้านคนเข้าร่วม แต่เกิดปัญหาระบบส่ง OTP ผ่าน Gmail ถูก Google ปิดกั้นเพราะเข้าใจว่าเป็นสแปม ส่งผลให้ต้องปิดระบบลงทะเบียนชั่วคราว และดำเนินการเพิ่ม Cloud Space เพื่อรองรับผู้ใช้จำนวนมาก
สำหรับงบประมาณแอปพลิเคชันที่ใช้ 10 ล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งในงบกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถูกขอคืน เนื่องจากติดปัญหาไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ทันเวลา นายสรวงศ์ ย้ำว่า ไม่ได้ใช้งบกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หรือ ททท. ในส่วนนี้เพิ่มเติม
ทั้งนี้ โครงการยังเปิดให้ใช้สิทธิ์ถึงวันที่ 31 ต.ค. 2568 และอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินเฟส 2 หรือ 3 ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ว่าที่ ร.ต.สมชาติ ยังตั้งคำถามเพิ่มเติมถึงความชัดเจนในการจัดซื้อจัดจ้าง และความรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายจากแอปฯ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงระบบเพื่อให้โครงการในอนาคตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น