สัญญาณเตือนส่งออกไทย ครึ่งปีหลังและปีหน้า เสี่ยงชะลอแรง
แม้ตัวเลขการส่งออกไทยในเดือนกรกฎาคมยังสดใส โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานว่ามูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 28,580 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11% สูงกว่าที่ตลาดคาด และเป็นการเติบโตติดต่อกันถึง 13 เดือน ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2025 (ม.ค.–ก.ค.) การส่งออกขยายตัวรวม 14.4% สร้างรายได้ 195,432 ล้านดอลลาร์ และทำให้ไทยยังเกินดุลการค้า 260 ล้านดอลลาร์ สะท้อนว่าภาคส่งออกยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในครึ่งปีแรก
ทำไมส่งออกไทยยังขยายตัวได้ดี?
เบื้องหลังการเติบโตที่โดดเด่น มาจาก “แรงเร่ง” หลายด้าน โดย SCB EIC ชี้ว่า
- การเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ก่อนกำแพงภาษีใหม่มีผล เดือนกรกฎาคม การส่งออกไปสหรัฐฯ โตแรงถึง 31.4% โดยเฉพาะกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังไม่เก็บภาษี เช่น คอมพิวเตอร์ (+84.9%) โทรศัพท์ (+24.4%) และแผงวงจรไฟฟ้า (+45.2%) ขณะที่ยังมีการส่งออกทองคำไปสหรัฐฯ สูงกว่าปีก่อนแบบก้าวกระโดดที่ 161.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 0.01 ล้านดอลาร์สหรัฐ
- สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังเป็นพระเอก ไทยส่งออกคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนโตถึง 61% และแผงวงจรไฟฟ้าโต 57.7% โดยตลาดหลักไม่ใช่แค่สหรัฐฯ และจีน ซึ่งชะลอลง แต่กลับไปขยายตัวแรงในมาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์
- สินค้าเกษตรขยายตัวสูง 21.5% การส่งออกผลไม้สด แช่แข็ง และแห้ง โตถึง 107.7% โดยเฉพาะตลาดจีนที่พุ่ง 123.3% กลายเป็นอีกเสาหลักช่วยพยุงภาพรวม
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ตัวเลขส่งออกดูแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี แม้ว่าจะมีเงื่อนไขด้านภาษีและเศรษฐกิจโลกกดดันอยู่ก็ตาม
ความเสี่ยงของการส่งออกไทยที่รออยู่ในครึ่งปีหลัง
แม้ครึ่งปีแรกดูดี แต่ แรงส่งกำลังอ่อนตัว ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เริ่ม “กัดเซาะจริงจัง” แม้ไทยสามารถเจรจาลดอัตราภาษีตอบโต้เหลือ 19% ก็จริง แต่ยังสูงกว่าก่อนยุคทรัมป์ 2.0 และ สูงกว่า/ใกล้เคียง คู่แข่งอาเซียนหลายประเทศ ทำให้
- Q3: ออเดอร์ใหม่จากสหรัฐฯ มีโอกาส “ชะลอรับ” หลังผู้ซื้อดึงของไปมากแล้วใน H1/H2 ต้น ๆ เพื่อหนีภาษี (front-loading)
- Q4: ผลของภาษีจะ “ส่งผ่านเต็มที่” ไปยังราคาและดีมานด์ โดยเฉพาะ ยานยนต์–ชิ้นส่วน (ที่ถูกตั้ง 25% รายสินค้าไปแล้วและหดแรงใน ก.ค.) และ อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มที่เสี่ยงถูกกำหนดเพิ่มเติมรายสินค้า
- ผลกระทบเกิดทั้งด้าน Income effect (ต้นทุนสูง ผู้บริโภคซื้อน้อยลง) และ Substitution effect (ผู้นำเข้าหันสั่งจากประเทศภาษีต่ำกว่า/ประกอบในสหรัฐฯ มากขึ้น)
- ปัจจัยบวกชั่วคราว “กำลังหมด” แรงหนุนที่ทำให้ตัวเลขสวยในช่วงก่อนหน้าจะค่อย ๆ จางลงในครึ่งหลังของปี 68 การเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ก่อนภาษี (front-loading) ทยอยหมดรอบ ทองคำไปอินเดีย ที่พีคใน Q1 เป็นปัจจัยพิเศษ ไม่ได้เกิดซ้ำทุกไตรมาส และฐานต่ำปี 2024 ที่เคยช่วยให้ YoY ดูแรง จะกลายเป็น ฐานสูงใน H2/2024 (ส่งออกโตดี ~9%) ทำให้ YoY ปีนี้ใน Q3–Q4 “ดูแผ่ว” แม้ปริมาณจริงอาจทรงตัว
ความเสี่ยงใหม่ “กำลังใกล้เข้ามา”
- จับตาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังหมดช่วงลดกำแพงภาษีลง
- สหรัฐฯ มีแนวโน้มใช้ Product-specific tariffs เพิ่มในหมวดยา/เวชภัณฑ์ รถบรรทุก และโดยเฉพาะ อิเล็กทรอนิกส์ (หมวดที่ไทยพึ่งพาสหรัฐฯ สูงมาก เช่น คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน) ซึ่งถูกขู่เพิ่มภาษีระดับสูงมาก (100–300%)
- ความชัดเจนเรื่อง Local content ยังไม่ลงตัว หากบังคับเข้ม สินค้าไทยที่ตามปกติมี Import content สูงราว 40% อาจเสี่ยงถูกตีความเป็น Transshipment 40% โดยเฉพาะ โซลาร์เซลล์ อะลูมิเนียมขึ้นรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แม่พิมพ์ (กลุ่มความเสี่ยงสูง) และ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เหล็กแผ่นรีดร้อน ยางล้อ (ความเสี่ยงปานกลาง)
- ค่าเงินบาทแข็ง เมื่อเทียบตะกร้าภูมิภาค (ดัชนี ณ 22 ส.ค. แข็งราว6.6% YoY) กระทบความสามารถแข่งขันพอดีกับที่กำแพงภาษีเพิ่มต้นทุน
- ชายแดนไทย–กัมพูชา แม้สัดส่วนตลาดเล็ก (เพียง 3.4% ของมูลค่าส่งออก) และยานยนต์ไปกัมพูชาราว 1% ของทั้งหมวด แต่ถ้ายืดเยื้อจะกดซัพพลายเชนเฉพาะจุด (เช่น ชิ้นส่วนจักรยานยนต์/พาหนะไม่ใช่ยานยนต์) และทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์สูงขึ้น
สรุปการคาดการณ์การส่งออกไทย
สำหรับมุมมองของ SCB EIC ปี 2025 การส่งออกไทยจะปรับดีขึ้นเป็น +3% (เดิมมองติดลบ) ด้วย 3 เหตุผลหลัก—(1) ภาพนโยบายการค้าชัดขึ้นและ “เบากว่าที่กังวล” (เช่น ขยายเวลาภาษีจีน 30% อีก 90 วัน ลดโอกาส worst case) (2) ไทยต่อรองภาษีสหรัฐฯ ได้ที่ 19% (ต่ำกว่าที่เคยขู่) และ (3) แรงส่ง 7 เดือนแรกที่โตถึง 14.4% โดยมี อิเล็กทรอนิกส์–ผลไม้ ช่วยพยุง
นอกจากนี้ SCB EIC คาด Q3 ชะลอ / Q4 ติดลบแรง เพราะปัจจัยบวกลดลงและภาษีส่งผ่านเต็มที่ ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยังพอทรงได้จากรอบลงทุนดิจิทัลและดีมานด์บางตลาด (มาเลย์–อินเดีย–สิงคโปร์), ขณะที่ ยานยนต์/ชิ้นส่วน เผชิญแรงกดดันตรงจากภาษีและการปรับแหล่งสั่งซื้อของผู้นำเข้า
คาดว่า ปี 2026: แนวโน้มหดตัว -1.5% (โดยเฉพาะ H1/2026) จาก
- ฐานสูงของ H1/2025 (โต ~15%) ทำให้ YoY ดูแย่แม้ปริมาณไม่ทรุดมาก
- ผลสะสมของกำแพงภาษี, ความเป็นไปได้ของ tariffs รายสินค้า เพิ่มเติม, และความอ่อนแรงของเศรษฐกิจโลก
- หากสหรัฐฯ ใช้เกณฑ์ Local content เข้มและตีความ Transshipment กว้าง กลุ่มที่มี Import content สูงจะโดนมากกว่าค่าเฉลี่ย
แม้ภาพรวมปีนี้ไม่ใช่ “ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน” เท่าไรนัก แต่เป็น ตัวเลขที่สวยจากแรงเร่งชั่วคราว (front-loading, ทองคำ, ฐานต่ำ) ขณะที่ครึ่งปีหลัง—โดยเฉพาะ Q4—จะสะท้อน ต้นทุนภาษีใหม่, ดีมานด์ที่ผันผวน, ค่าเงิน, และภูมิรัฐศาสตร์ ชัดขึ้น อีกทั้ง สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน พร้อมปะทุรอบใหม่ได้ตลอดจากมาตรการรายสินค้า/รายอุตสาหกรรม
สารที่ควรรับมือคือ อย่าหลงกับตัวเลขครึ่งปีแรก ให้เตรียมกลยุทธ์สำหรับโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง และเริ่มเข้าใกล้ Q4/2025 ถึง H1/2026 ผู้ประกอบการไทยและภาครัฐต้องวางแผนเชิงรุกตั้งแต่ตอนนี้
ที่มา: SCB EIC