KAYAKI ร้านปิ้งย่างปลาสไตล์ญี่ปุ่นในคอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA ที่สายสุขภาพต้องหลงรัก

KAYAKI พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักชิม ณ โครงการ YARD 49 ซอยสุขุมวิท 49 ด้วยคอนเซ็ปต์สุดล้ำ YAKIZAKANA (YAKI-ย่าง, ZAKANA-ปลา) นำเสนอประสบการณ์ปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดเกรดซาซิมิระดับพรีเมียมครั้งแรกในประเทศไทย ตอบโจทย์ทั้งสายรักสุขภาพและคนรักปิ้งย่าง ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูงและเทคนิคการย่างแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ไม่เหมือนใครโดยมีแรงบันดาลใจจากร้านปลาย่างในญี่ปุ่น

ด้วยแพชชั่นของสามพี่น้องนักบริหาร คุณเบ๊นซ์-ปณิธาน, คุณโบ๊ท-ปณิธิ, และคุณเพลน-ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ ผู้หลงใหลในการเสาะแสวงหารสชาติใหม่ๆ จากร้านอาหารท้องถิ่นในญี่ปุ่น คุณโบ๊ท-ปณิธิ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท ไทยสากล เอสเตท จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “เมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว เราได้พบร้านปลาย่างในญี่ปุ่นที่นำปลาตัดชิ้นพอดีคำมาย่างในสไตล์คล้าย YAKINIKU (เนื้อย่าง) รสชาติและคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่ทำให้เราตื่นเต้น และอยากนำประสบการณ์นี้มาให้คนไทยได้ลิ้มลอง” KAYAKI จึงเป็นร้านปิ้งย่างปลาเจ้าแรกในไทยที่เน้นความเฮลท์ตี้ ย่อยง่าย และเหมาะสำหรับคนที่อยากกินปิ้งย่างแบบไม่รู้สึกผิดต่อร่างกาย

หัวใจสำคัญของ KAYAKI คือการคัดสรรวัตถุดิบเกรดซาซิมิระดับพรีเมียมส่งตรงจากญี่ปุ่น การย่างที่นี่เน้นความพิถีพิถัน โดยพนักงานที่ผ่านการฝึกมาเป็นพิเศษจะย่างปลาให้ทีละคำ ควบคุมความสุกแบบมีเดียมแรร์ ผิวด้านนอกหอมกลิ่นสโมก แต่คงความหวานฉ่ำของเนื้อปลาดิบด้านใน เมื่อวางบนข้าวญี่ปุ่น น้ำมันจากเนื้อปลาจะแทรกซึมลงในเม็ดข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ช่วยเพิ่มความหอม ขณะที่ปลาบางชนิดยังผ่านกระบวนการดรายเอจ (Dry-aged) สไตล์ญี่ปุ่นสมัยเอโดะ เพื่อลดกลิ่นคาวและดึงรสชาติให้เข้มข้น

เมนูเด่นประกอบด้วยปลาเนื้อแดง (เทียบเท่าเนื้อวัว) ซึ่งมีระดับไขมันของเนื้อปลาที่แตกต่างกัน เช่น Maguro (ปลาทูน่า) แบ่งเป็น 3 ส่วน ยอดนิยมยกให้กับโอโทโร่ (Otoro) เนื้อท้องด้านล่างมีมันแทรกระดับสูงสุด รสชาติหวานมัน ละลายในปาก เทียบเท่าเนื้อ A5 ชูโทโร่ (Chutoro) เนื้อหน้าท้องตอนบนมีไขมันปานกลาง นุ่มแต่ยังคงเท็กซ์เจอร์ของเนื้อปลาที่มีความแน่นๆ มากกว่าโอโทโร่ เป็นส่วนที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งเทียบเท่าเนื้อ A4-A3 อากามิ (Akami) เนื้อแดงลีนจากกลางลำตัว เป็นส่วนของกล้ามเนื้อของปลาที่ใช้ว่ายน้ำ ไขมันน้อย เนื้อสัมผัสแน่น เทียบเท่าเนื้อสันใน ปลาเนื้อขาว (เทียบเท่าเนื้อไก่) มีความนุ่มและได้เท็กซ์เจอร์ของเนื้อปลา เช่น Madai (ปลากะพงแดงญี่ปุ่น), Kinmedai (ปลากะพงแดงตาโต), และ Hamachi (ปลาหางเหลือง) แล่แบบฟินเลต์ มุมเฉียง 30–40 องศา ติดหนังเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมขณะย่าง และมีซีฟู้ด ที่จะช่วยเบรกรสชาติระหว่างรับประทานเนื้อปลา เช่น Aka ebi (กุ้งแดงญี่ปุ่น), Hotate (หอยเชลล์), และ ปลาหมึก เพิ่มความหลากหลายให้มื้ออาหาร

เมนูไฮไลต์เซ็ตปิ้งย่างสุดพรีเมียมที่หลากหลายและครบครัน มี 3 เซ็ต ได้แก่ เซ็ต SEIKAI (6 ชิ้น, 890 บาท) มี Chutoro, Hamachi, Salmon, Aka ebi, Ika, Madai

เซ็ต KAIYO (7 ชิ้น, 1,290 บาท) มี Chutoro, Hotate, Akami, Aka ebi, Salmon, Ika, Madai

เซ็ต KAYAKI (8 ชิ้น, 1,790 บาท) มี Chutoro, Hotate, Akami, Aka ebi, Kinmedai, Ika, Madai, Otoro Sukiทุกเซ็ตมาพร้อมสลัด ข้าวญี่ปุ่นสูตรพิเศษ ซุป และของหวาน พร้อมน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ เช่น เกลือมะนาว วาซาบิ และซอสสูตรพิเศษที่ออกแบบให้เข้ากับปลาแต่ละชนิด โดยเซ็ต KAIYO และ KAYAKI สามารถอัปเกรดเป็น Toro Bomb (ข้าวหน้า Chutoro, Uni, Ikura) เพิ่ม 690 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูอะลาคาร์ทให้สั่งเพิ่มได้ตามชอบ

KAYAKI ตั้งอยู่ในโครงการ YARD 49 ซอยสุขุมวิท 49 ร่วมกับร้านดังอย่าง Kay’s, KANORI และ Day by Kay’s บรรยากาศภายในร้านผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับสไตล์คอนเทมโพรารีและโมเดิร์น โอบล้อมด้วยสวนญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกสงบ เรียบหรู และโปร่งสบาย เหมือนนั่งกินข้าวในร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ

KAYAKI พร้อมเปิดให้บริการวันแรกในวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 แบ่งเป็นมื้อกลางวัน ตั้งแต่ 11:00-14:30 น. และมื้อเย็น ตั้งแต่ 17:00-22:00 น. จองโต๊ะล่วงหน้าและติดตามความเคลื่อนไหวที่ Facebook : Kayaki และ Instagram : Kayaki.Thailand