เครื่องดื่มโปรดทำร้าย หนุ่มวัย 23 จู่ๆ เดินไม่ได้ ภัยเงียบซ่อนอยู่ใต้คำว่า "หวานน้อย"
เครื่องดื่มโปรดทำร้าย หนุ่มวัย 23 เจ็บเข่าจนเดินไม่ได้ แพทย์เตือนระวังตกหลุมพราง ฆาตกรซ่อนอยู่ใต้คำว่า "หวานน้อย"
“จู่ๆ หัวเข่าก็บวมขึ้นมาขนาดเท่าซาลาเปา เจ็บจนเดินไม่ได้” คือคำบอกเล่าของชายหนุ่มวัย 23 ปีรายหนึ่งที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการข้ออักเสบรุนแรง
หลังตรวจวิเคราะห์เลือด แพทย์พบว่าระดับ กรดยูริก (uric acid) ในเลือดของเขาพุ่งสูงถึง 880 μmol/L ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ปกติกว่า 2 เท่า (ค่าปกติไม่เกิน 420 μmol/L) จึงวินิจฉัยว่าเขากำลังเป็น โรคเกาต์เฉียบพลัน (Acute Gout) ซึ่งเกิดจากผลึกกรดยูริกไปสะสมตามข้อต่อ
“ชานมไข่มุก” ทุกวัน
ชายหนุ่มรายนี้ ชื่อเล่นว่า เสี่ยวหลิน จากประเทศจีน เล่าว่า เขาเป็น “แฟนพันธุ์แท้” ของชานมไข่มุก โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ดื่มเกือบทุกวัน มักเป็นช่วงพักกลางวันที่ออฟฟิศ และหากทำงานดึกก็สั่งเพิ่มอีกแก้ว
“ผมเลือกแบบ ‘หวานน้อย’ ใส่น้ำตาลแค่ 30% แถมเป็นชานมสดทำใหม่ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” เสี่ยวหลิน กล่าว
แต่ในความเป็นจริง แพทย์ชี้ว่า ต้นตอหลักของโรคเกาต์ในครั้งนี้ คือปริมาณ “น้ำตาลฟรุกโตส” ที่แฝงอยู่ในชานมทุกแก้ว
ฟรุกโตส (Fructose): ฆาตกรเงียบของคนรุ่นใหม่
“หลายคนเข้าใจผิดว่าชานม ‘หวานน้อย’ คือปลอดภัย แต่กลับมองข้ามส่วนผสมที่อันตรายที่สุดอย่าง ฟรุกโตส (น้ำตาลจากผลไม้)” — แพทย์ระบุ
ชานมและเครื่องดื่มหวานส่วนใหญ่ มักใช้ ไซรัปข้าวโพดชนิดฟรุกโตส-กลูโคส (HFCS) ซึ่งราคาถูกและให้ความหวานจัด แม้จะระบุว่า "หวานน้อย" แต่ฟรุกโตสยังคงอยู่ในระดับที่ สูงเกินปลอดภัย
ฟรุกโตสทำให้ร่างกายผลิตกรดยูริกเพิ่มขึ้นผ่าน 2 กลไกหลัก:
กระตุ้นตับ ให้ผลิตกรดยูริกภายในร่างกายเพิ่ม
ยับยั้งการขับกรดยูริกของไต ทำให้เกิดการสะสมในเลือด
เมื่อลดขับแต่เพิ่มผลิต ระดับกรดยูริกในเลือดจึงพุ่งขึ้นเร็ว โดยเฉพาะในผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มหวานเป็นประจำ
เกาต์ไม่ได้เกิดแค่กับผู้สูงอายุ
แม้จะอายุเพียง 23 ปี เสี่ยวหลินก็ต้องเผชิญผลจากพฤติกรรมที่หลายคนมองว่า “ไม่น่าจะร้ายแรง” เช่น:
ดื่มชานมทุกวัน
ขาดการออกกำลังกาย
ไม่ใส่ใจกับอาการเจ็บข้อต่อช่วงแรก
จนกระทั่งหัวเข่าบวมใหญ่ เดินไม่ได้ ต้องมีคนพยุงถึงจะไปโรงพยาบาลไหว
บทเรียนเตือนใจคนรุ่นใหม่
กรณีนี้เป็นสัญญาณเตือนถึงวัยรุ่นและคนทำงานที่ติดน้ำหวาน ไม่ว่าจะเป็น:
ชานมไข่มุก
น้ำอัดลม
น้ำผลไม้กล่อง
เพราะแม้จะดู “หวานน้อย” แต่ฟรุกโตสกำลังค่อยๆ ทำลายระบบเผาผลาญในร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงต่อ:
โรคเกาต์
โรคอ้วน
เบาหวาน
แพทย์แนะนำ
ไม่ควรดื่มชานมหรือน้ำหวานเกิน 2 ครั้ง/สัปดาห์
ตรวจระดับกรดยูริกในเลือดเป็นระยะ โดยเฉพาะถ้ามีคนในครอบครัวเคยเป็นเกาต์ หรือกินหวานจัด
เลือกดื่ม น้ำเปล่า, ชาเขียว, หรือน้ำผลไม้คั้นสด ที่ไม่เติมน้ำตาล
หากมีอาการ ปวดข้อ โดยเฉพาะนิ้วเท้าหรือเข่า ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
แพทย์ย้ำว่า เกาต์ไม่ใช่โรคของผู้สูงอายุอีกต่อไป ด้วยพฤติกรรมการกินแบบยุคใหม่ โรคนี้กำลังคืบคลานเข้าหาคนวัยหนุ่มสาวมากขึ้น