นักวิทย์พบ ‘มันฝรั่ง’ มีมะเขือเทศเป็น ‘แม่’
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
ปักกิ่ง, 1 ส.ค. (ซินหัว) — ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติค้นพบว่า “การแต่งงานร่วมสายพันธุ์โบราณ” เมื่อราว 9 ล้านปีก่อนกลายเป็นจุดกำเนิดพืชผลหลักอันดับ 3 ของโลกอย่าง “มันฝรั่ง” ซึ่งมี “มะเขือเทศ” เป็นแม่ โดยมันฝรั่งมีต้นกำเนิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างพืชตระกูลมะเขือเทศกับพืชคล้ายมันฝรั่ง ซึ่งนำสู่การก่อกำเนิดอวัยวะใหม่อย่าง “หัวใต้ดิน”
ผลการศึกษาที่มอบมุมมองเชิงทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์ทางพันธุกรรมของมันฝรั่งนี้มาจากการวิจัยร่วมของสถาบันจีโนมิกส์การเกษตรในเมืองเซินเจิ้น สถาบันบัณฑิตเกษตรศาสตร์แห่งชาติจีน มหาวิทยาลัยหลานโจว และคณะนักวิทยาศาสตร์จากแคนาดาและสหราชอาณาจักร โดยมีการเผยแพร่ผ่านวารสารเซลล์ (Cell) ฉบับล่าสุด
หวงซานเหวิน ผู้นำการวิจัย อธิบายว่าต้นกำเนิดของมันฝรั่งเป็นปริศนาในหมู่นักวิทยาศาสตร์มานาน โดยมันฝรั่งสมัยใหม่มีรูปลักษณ์ที่แทบไม่แตกต่างจากพืชคล้ายมันฝรั่งอย่างอีทูเบอโรซุม (Etuberosum) ที่ไม่มีหัวใต้ดิน แต่การวิเคราะห์เชิงวิวัฒนาการบ่งชี้ว่ามันฝรั่งมีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับมะเขือเทศมากกว่า
คณะนักวิจัยจึงพยายามไขปริศนาข้างต้นด้วยการวิเคราะห์จีโนม 101 ตัวอย่าง และพันธุกรรมที่ถูกจัดลำดับใหม่ 349 ตัวอย่าง ซึ่งได้มาจากมันฝรั่งปลูกและพืชป่าที่เป็นญาติกับมันฝรั่ง 56 ชนิด โดยการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ที่ครอบคลุมมันฝรั่งทั้งหมดนี้พบว่ามันฝรั่งทั้งหมดมีสัดส่วนยีนที่สมดุลจากทั้งอีทูเบอโรซุมและมะเขือเทศ จึงอนุมานว่ามันฝรั่งคือลูกผสม
เพื่อยืนยันสมมติฐานดังกล่าว คณะนักวิจัยได้ประเมินช่วงเวลาที่พืชทั้งสามสายพันธุ์เริ่มแยกตัวออกจากกันและพบว่าอีทูเบอโรซุมกับมะเขือเทศเริ่มแยกสายพันธุ์เมื่อราว 14 ล้านปีก่อน แต่การผสมข้ามสายพันธุ์ในอีกราว 5 ล้านปีต่อมานำสู่การกำเนิดพืชตระกูลมันฝรั่งที่มีหัวใต้ดินอันเก่าแก่ที่สุดเมื่อราว 9 ล้านปีก่อน โดยมะเขือเทศเป็นแม่ ส่วนอีทูเบอโรซุมเป็นพ่อ
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ยังคงเป็นปริศนาคือทำไมมีแค่มันฝรั่งที่พัฒนาหัวใต้ดินขึ้นมาได้ ขณะพืชพ่อพืชแม่ของมันกลับไม่มีอวัยวะดังกล่าวเลย โดยมะเขือเทศไม่มีทั้งลำต้นและหัวใต้ดิน ส่วนอีทูเบอโรซุมแม้มีลำต้นใต้ดินแต่กลับไม่บวมเป็นหัวใต้ดิน ซึ่งทีมของหวงเสนอว่าหัวใต้ดินอาจเป็นผลลัพธ์โดยบังเอิญจากการจัดเรียงจีโนมใหม่
คณะนักวิจัยยังแกะรอยต้นกำเนิดของยีนหลักที่ก่อให้เกิดหัวใต้ดินและพบว่ายีนเอสพี6เอ (SP6A) ซึ่งทำหน้าที่คล้าย “สวิตช์หลัก” สั่งให้พืชเริ่มสร้างหัวใต้ดิน มาจากฝั่งมะเขือเทศ ส่วนยีนไอที1 (IT1) ซึ่งช่วยควบคุมการเติบโตของลำต้นใต้ดินที่กลายเป็นหัว มาจากฝั่งอีทูเบอโรซุม หากขาดยีนใดยีนหนึ่ง ลูกผสมจะไม่สามารถสร้างหัวใต้ดินได้
การแต่งงานโบราณนี้ไม่เพียงให้กำเนิดหัวใต้ดิน แต่ยังเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชตระกูลมันฝรั่ง โดยคณะนักวิจัยพบว่ามันฝรั่งแต่ละสายพันธุ์มีลวดลาย “โมเสก” ของพันธุกรรมพืชพ่อพืชแม่ที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้เกิดการคัดเลือกชุดยีนที่เหมาะสม ทำให้มันฝรั่งปรับตัวอยู่รอดในสภาพแวดล้อมตั้งแต่ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่นจนถึงทุ่งหญ้าที่สูงหนาวเย็น
หัวใต้ดินมีข้อได้เปรียบตรงกักเก็บน้ำและแป้งไว้เพื่อการอยู่รอดพ้นหน้าแล้งหรือหนาวเย็น ทำให้สามารถสืบพันธุ์โดยไม่ต้องใช้เมล็ดหรือการผสมเกสร แต่สามารถแตกหน่อโดยตรงจากตาบนหัวใต้ดิน ซึ่งหวงกล่าวว่าหัวใต้ดินช่วยให้มันฝรั่งได้เปรียบในสภาพแวดล้อมเลวร้าย ส่งเสริมการเกิดพืชพันธุ์ใหม่ และมีส่วนส่งเสริมความหลากหลายของมันฝรั่งในปัจจุบัน