นับถอยหลังศาลนัดชี้ชะตาแพทองธาร ปมคลิปเสียงฮุนเซน รอดหรือร่วง
ชะตากรรม “นายกฯแพทองธาร” และตระกูลชินวัตร
ก่อนถึงวันพิจารณาชี้ชะตา 29 สิงหาคม บรรยากาศการเมืองไทยเต็มไปด้วยความอึดอัดราวกับพายุที่กำลังก่อตัวขึ้นกลางท้องฟ้า คำถามใหญ่ของสังคมคือ “นายกฯแพทองธาร จะอยู่หรือจะไป?”
เสียงซุบซิบในทางการเมืองไม่เคยเงียบหาย ข่าวลือเรื่อง “ล้มดีล” และความไม่มั่นคงของข้อตกลงที่เคยถูกวางไว้ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2566 ยังคงวนเวียนอยู่และยิ่งถูกโหมแรงขึ้นเมื่อ คลิปเสียงฮุนเซน ถูกเผยแพร่ กลายเป็นประเด็นที่สะท้อนถึงแรงกดดันมหาศาลว่าอาจมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ภายในเวลาเพียง 3 เดือน
เส้นทางของ “ดีลการเมือง”
ย้อนกลับไป ดีลการเมืองถูกออกแบบขึ้นเพื่อเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว และแลกมาด้วยภาพสะเทือนวงการการเมืองไทยเมื่อ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศ 22 สิงหาคม 2566 เหตุการณ์นั้นถูกมองว่าเป็น “จุดสูงสุด” ของดีล
แต่ทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพียงไม่กี่เดือนต่อมา คดีทักษิณในชั้น 14 และการปรากฏของ คลิปเสียงฮุนเซน ได้กดให้ดีลการเมืองทรุดตัวลงอย่างรุนแรง จนถูกมองว่าเป็นช่วง “ตกต่ำที่สุด” ของข้อตกลงทางการเมือง
ทว่าบนเส้นทางที่ดูเหมือนจะมืดมน ก็ยังมีแสงสว่างเล็กๆ เมื่อมีกระแสข่าวว่า การรื้อบอร์ดสำคัญในกระทรวงมหาดไทย อาจเป็นสัญญาณของ “ดีลรอบใหม่” ที่กำลังก่อตัว
เดิมพัน 50/50
บนเวทีการเมืองที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน รายการวิเคราะห์ชี้ว่า ชะตากรรมของแพทองธารอยู่ที่ 50/50 ระหว่างคำว่า “รอด” และ “ร่วง”
หาก รอดพ้น จากศาลรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจะมีโอกาสยืนระยะรัฐบาลครบเทอม และเร่งเดินหน้า 6 นโยบายสำคัญเพื่อฟื้นความเชื่อมั่น
หาก ร่วงหล่น แผนสำรองก็ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้ว ด้วยชื่อของ ชัยเกษม นิติสิริ ที่จะถูกดันขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อสานต่อภารกิจและรักษาเสถียรภาพทางการเมือง
จุดเปลี่ยนของตระกูลชินวัตร
ดังนั้น เดือนกันยายนนี้จึงไม่ใช่เพียงการชี้ชะตานายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกจากตระกูลชินวัตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบพลังของเครือข่ายการเมืองตระกูลนี้อีกครั้ง ว่าจะสามารถรักษา “ดีล” และ “อำนาจ” ไว้ได้หรือไม่
- 29 สิงหาคม คือวันแรกที่ทุกสายตาจับจ้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
- 9 กันยายน คือวันต่อมาที่คดีทักษิณในชั้น 14 จะถูกตัดสิน
สองวันสำคัญนี้คือเส้นแบ่งระหว่าง การยืนหยัด หรือ การล้มลง ของทั้งนายกฯแพทองธาร และตระกูลชินวัตรในสมรภูมิการเมืองไทย