เสียงจาก ”ศูนย์อพยพ“ ขนาดเล็ก ช่วยให้เต็มที่เพราะทุกคนคือคนไทย
เสียงจาก ”ศูนย์อพยพ“ ขนาดเล็ก ช่วยให้เต็มที่เพราะทุกคนคือคนไทย
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 ที่จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าว The Room 44 ได้ลงพื้นที่ศูนย์อพยพขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้อพยพร่วมๆกว่า 130 คน ดดยส่วนใหญ่จะเป็นู้สูงอายุและเด็กในอำเภอที่อยู่ใกล้การปะทะระหว่างไทยกัมพูชาคืออำเภอบัวเชด แต่พอเกิดการประทะกันทำให้เกิดการสับสนจึงทำให้ประชาชนในอำเภอใกล้เคียงก็เดินทางมาที่ศูนย์อพยพ และรับมาก่อนที่จะส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่นต่อไป
นายวขาน บัวบาน ผู้อำนวยการศูนย์พักพิงเผยว่า ศูนย์ภพักพิงแห่งนี้เป็นศูนย์พักพิงขนาดเล็ก ที่มีผู้อพยพอยู่น้อย เนื่องจากอยู่ห่างจากตัวเมืองอำเภอไปไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งช่วงแรก วันที่เกิดเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชามีผู้อพยพมาอยู่มาก ทำให้มีหน่วยงานต่างๆมาให้ของหลายหน่วยงานไม่ว่าจะทั้งต่างจังหวัดหรือว่าในศูนย์อพยพใกล้เคียง แต่พอเข้าสู่วันที่3-4 ของที่เริ่มนำมาให้นั้นน้อยลง เนื่องจากต้องจัดสรรตามขนาดของศูนย์อพยพและศูนย์นี้เป็นศูนย์เล็กทำให้ของมีจำนวนน้อยแต่ก็ยังสามารถใช้ได้ไม่ขาดแคลน แต่คาดว่าอาหารที่เตรียมเอาไว้อาจจะอยู่ได้เพียงแค่หนึ่งถึงสองสัปดาห์เท่านั้น ซึ่งตนยังไม่มั่นใจว่าจะดูแลได้มากขนาดไหนแต่ก็จะทำให้เต็มที่ให้เต็มศักยภาพของชุมชนที่ช่วยได้ “เพราะทุกคนก็เป็นคนไทยเหมือนกัน”
เมื่อถามว่ายังขาดเหลืออะไรอยู่มั้ยนั้น นายวขาน เผยว่าของใช้อื่นๆยังสามารถจัดการได้แต่สิ่งที่หนักคือห้องน้ำเพราะต้องมีการบริหารรายวัน เนื่องจากหากห้องน้ำเต็มก็ต้องดูดสิ่งปฏิกูลไปทิ้งรวมถึงที่นอนของผู้อพยพ หากเกิดฝนตกหนักสาดเข้ามาภายในก็จะต้องมีการเปลี่ยน และน้ำใช้ที่ดูดขึ้นมาจากใต้ดินก็อาจจะไม่เพียงพอเนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดเล็กดูแลเด็กไม่เยอะมากแต่พอมีคนมาอยู่รวมกันเป็นหลักร้อย ก็ต้องมาประเมินทั้งไฟและน้ำว่าจะเพียงพอหรือไม่ในแต่ละวัน