เกาหลีชู 10 สตาร์ตอัพเสริมความแข็งแกร่งเปิดตัวโซลูชันท่องเที่ยวดึงคนไทยเที่ยวประเทศตั้งเป้า 68 แตะ 3.6 แสนคน
นายยัง คยองซู รองประธานบริหาร สายงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) กล่าวว่า ไทยไม่ใช่แค่ตลาด แต่คือพาร์ตเนอร์ที่พร้อมเติบโตไปด้วยกัน ธุรกิจไทยมีความแข็งแกร่งด้านบริการ ส่วนเกาหลีมีจุดแข็งด้านนวัตกรรม หากเชื่อมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันได้ ก็จะเป็นผู้เล่นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้เปรียบในยุคเปลี่ยนผ่านของการท่องเที่ยว ดังนั้นจึงได้นำ 10 สตาร์ทอัพจากเกาหลีใต้เปิดตัวโซลูชันท่องเที่ยวในงาน KTSC Demo Day 2025 ภายใต้มหกรรม Techsauce Global Summit 2025 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีเป้าหมายเชื่อมต่อพันธมิตรธุรกิจไทย เพื่อร่วมพัฒนาโซลูชันด้าน AI, บล็อกเชน และคอนเทนต์คอมเมิร์ซ ที่ตอบโจทย์นักเดินทางเจเนอเรชันใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม K-Beauty, Wellness และนักเดินทางอิสระ (Independent Travelers) ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดเอเชีย และหลังจากจบงานมีการเจรจาความร่วมมือเบื้องต้นแล้วกว่า 7 ราย และอีกหลายบริษัทอยู่ระหว่างทดลองใช้งานเทคโนโลยีกับตลาดจริงในไทย
โดย นายยัง กล่าวว่า สตาร์ตอัพที่เข้าร่วมในปีนี้นำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวระดับพรีเมียม ตั้งแต่แพลตฟอร์ม eSIM สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อีคอมเมิร์ซสินค้า K-beauty อาทิ DOWHAT แพลตฟอร์มบริหารจัดการโรงแรมผ่านระบบคลาวด์, ND Soft ที่พัฒนาเทคโนโลยีแปลภาษาแบบเรียลไทม์, Crosshub แพลตฟอร์มบล็อกเชนสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ, และ Nanugi World ซึ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม Edutrip เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับการศึกษาต่อในต่างประเทศ Startup Competition ไปจนถึงระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับนักเดินทางอิสระ (Independent Travelers) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชีย ทำให้งาน Demo Day ครั้งนี้นับเป็นเวทีเปิดตัวครั้งแรกของสตาร์ตอัพเกาหลีในประเทศไทย ภายหลังการเปิดตัว KTSC กรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ การลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่าง KTO และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมท่องเที่ยวในระดับทวิภาคีผลักดันการพัฒนา Travel Tech อย่างเป็นระบบ ผ่านกิจกรรมร่วมกัน
ทั้งนี้ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเยือนเกาหลี 180,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ซึ่งคาดการณ์ว่าทั้งปี 2568 จะมีจำนวน 360,000 คน สะท้อนภาพการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่มองหาประสบการณ์ด้านความงาม สุขภาพ และการท่องเที่ยวเฉพาะทางที่เกาหลีมีความได้เปรียบเชิงคุณภาพ ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเข้ามาเที่ยวไทยมีจำนวน 918,372 คน
แต่ขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องคนไทยเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ แต่ติด ตม.อยู่บ้าง ซึ่งไม่ได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงแล้ว เมื่อเทียบกับสัดส่วนนักท่องเที่ยวไทยทั้งหมด ส่วนนักท่องเที่ยวเกาหลีที่เข้ามาเที่ยวไทย ก็ไม่ถึงกับกังวลในเรื่องความปลอดภัยต่างๆ แต่ก็ระวังมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีจะให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการจอง บริการที่เชื่อถือได้ และความคุ้มค่าของเงินที่จ่าย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เคยมาแล้วจะไม่ตัดสินจากภาพรวม แต่ประเมินจากประสบการณ์จริงในแต่ละขั้นตอนเป็นหลัก ซึ่งจากข้อมูลขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ระบุว่า ด้วยปัญหาของการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีค่อนข้างยุ่งยากจึ้งทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยในช่วงปี 2567 ตกลงมาอยู่ที่อันดับ 10 โดย 5 อันดับแรกเป็น จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม เป็นต้น
ขณะที่ไฮไลต์ของงาน KTSC Demo Day 2025 คือการลงนาม MOU ระหว่าง KTO และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือด้านนวัตกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาว ผ่านกิจกรรมร่วม เช่น Travel Tech Startup Competition และการทดสอบบริการในตลาดจริงของไทย (PoC Sandbox)
โดย นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. กล่าวว่า MOU ฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นของระบบนิเวศความร่วมมือที่ต่อเนื่องระหว่างสองประเทศ ไม่ใช่แค่ในแง่เทคโนโลยี แต่รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ การเชื่อมเครือข่ายสตาร์ทอัพ และการส่งเสริมนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริงในบริบทของไทย