ระวังฝรั่งขาย 3 หุ้นบิ๊กแคป
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยวานนี้ 265 ล้านบาท
แต่ในรอบ 16 วันที่ผ่านมา (7-30 ก.ค. 68) ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 1.95 หมื่นล้านบาท
การขายของต่างชาติวานนี้ไม่น่าจะมีนัยฯ อะไรมาก นอกเหนือจาก “ขายทำกำไร” หลังจากซื้อติดต่อกันมาหลายวัน
ส่วนนักลงทุนสถาบัน หรือ “กองทุน”ต่าง ๆ สวมบทเป็นเจ้าภาพวานนี้ด้วยการซื้อ 2,161 ล้านบาท ช่วยดันยอดซื้อสุทธิระหว่างวันที่ 1-30 ก.ค. 68 กว่า 5.6 พันล้านบาท
ส่วนหุ้นต่างชาติที่ให้น้ำหนักต้องการเข้าซื้อก่อนหน้านี้ เช่น บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT)
ล่าสุด ราคาเริ่มนิ่ง ๆ
ในทางเทคนิค แม้จะบ่งบอกว่า ราคาหุ้น AOTมีโอกาสที่จะไปต่อ
แต่ในด้านของพื้นฐานกับราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมา เริ่มจะไม่ค่อยสัมพันธ์กันเท่าไหร่แล้วล่ะ
Consensus ราคาหุ้นของ AOTล่าสุดอยู่ที่ 30.50 บาท เท่านั้น
ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปดูราคาเป้าหมายของหุ้น AOTของโบรกเกอร์ต่างชาติ กลับพบว่า ไม่มีโบรกฯ ไหนที่ให้ราคาเป้าหมาย AOTเกิน 35.00 บาท
จึงเป็นจุดที่อาจจะต้องระวังต่างชาติปรับพอร์ตขายทำกำไรแล้วหันไปซื้อหุ้นขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่ราคายังแลกการ์ด
อีกหุ้นที่น่าจะเห็นต่างชาติขายออกมา คือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANCที่ต่างชาติเริ่มเข้ามาไล่ซื้อตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนั้นราคาหุ้น ADVANCอยู่ประมาณ 277 บาท
จากนั้นราคาหุ้นแอดวานซ์ วิ่งขึ้นมาต่อเนื่อง
กระทั่งมาสูงสุดที่บริเวณ 298.00 บาท
จากนั้นราคาหุ้นเริ่มปรับลง จากแรงขายทำกำไร
อย่างวานนี้ราคาลงมาอีก -4.00 บาท ปิดที่ 288 บาท และเป็นการปรับลงมาเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
สัญญาณเทคนิค ราคาหุ้นแอดวานซ์ฯ มีโอกาสปรับลงได้อีก แนวรับถัดไป 284.50 บาท หากใครจะรับ ต้องไปวางไม้แรกที่บริเวณราคาดังกล่าวนั่นแหละ
เช่นเดียวกับหุ้น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCCที่ต่างชาติไล่ซื้อมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิ.ย. 68
ขณะนั้นราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 160.00 บาท
จากนั้นราคาหุ้นถูกลากขึ้นมาแบบยาว ๆ ต่อเนื่อง กระทั่งผ่าน 200.00 บาทได้ในที่สุด
การปรับขึ้นของหุ้นปูนใหญ่ น่าจะมาจากการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/68 จะออกมาดีหรือเริ่ม “ฟื้นตัว”
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
เพราะวานนี้ปูนใหญ่แจ้งงบการเงินไตรมาส 2/68 ออกมา กำไรสุทธิ 1.73 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 367%พร้อมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอีก 2.50 บาท (ขึ้นเครื่องหมาย XDวันที่ 13 ส.ค. 68)
ที่น่าจับตาคือ วันนี้หุ้นปูนใหญ่จะถูกขายทำกำไรไหม
สมมุติหากถูกขายทำกำไรอาจจะมาจากสองเหตุผลคือ
1.กำไรที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากนั้น กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ที่มาจากกำไรพิเศษจากการวัดมูลค่ายุติธรรมจากการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย
2.นักลงทุนรับรู้แล้วว่า “กำไร” แน่ ๆ (ไม่ว่ากำไรจากตรงไหนก็ตาม) และเมื่อรับรู้แล้ว จึงขายทำกำไรออกมา
ส่วนจะถือเพื่อรอรับเงินปันผล 2.50 บาท นั้น หากคิดออกมาเป็น Dividend Yieldจะเท่ากับ 1.25%เมื่อเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ 207.00 บาท
ตรงนี้ต้องวัดใจฝรั่งกับสักหน่อยว่า เลือกที่จะ “ถือต่อ” หรือ “ขายทำกำไร”
ราคาหุ้นปูนใหญ่ที่เป็นราคาเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 252.00 บาท (บล.โกลเบล็ก)
และต่ำสุด 115.00 บาท (CGSI)
และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 174.00 บาท
นี่คือความเคลื่อนไหวของ 3 หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ที่ต่างชาติเข้ามาไล่ราคา ดันราคาขึ้นสูงกว่าพื้นฐาน และมีความเสี่ยงที่อาจถูกขายทำกำไร