โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ไม่ไว้ใจสันดานเขมร กห.ขอถกGBCที่มาเลย์-ส่งกลับ2เชลย/ตรึงกำลัง‘ตาควาย’

ไทยโพสต์

อัพเดต 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทบ.แจงทหารไทยยึดปราสาทตาควายไม่ 100% ไม่ใช่ตัวชี้วัดแพ้ชนะ แต่ได้พื้นที่มากกว่าก่อนปะทะ ลั่นยึดเนิน 350 จุดสูงข่มไม่ได้ เจอสนามทุ่นระเบิด-BM-21 จ่อยิง ยัน "ช่องอานม้า" เข้าควบคุมในเส้นปฏิบัติการทางทหารของไทย เตรียมนำ ผช.ทูตทหาร-สื่อ ทัวร์พื้นที่ได้รับความเสียหาย หารือตั้งทีมอาเซียนสังเกตการณ์หยุดยิง ตั้งกลไกเฝ้าระวังสถานการณ์ ทภ.2 พบกัมพูชาเพิ่มกำลังทหารต่อเนื่อง เตรียมส่ง "ทหารเขมร" คืนวันที่ 31 ส.ค. ด้าน กห.ทำหนังสือขอเปลี่ยนสถานประชุม GBC เป็นประเทศมาเลเซีย

ที่กองบัญชาการทหารบก (บก.ทบ.) วันที่ 31 กรกฎาคม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงกรณีภาพพลเรือนกัมพูชาถ่ายภาพบนปราสาทตาควาย แสดงถึงการยึดพื้นที่ได้ว่า สำหรับพื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียงปราสาทตาควายที่เดียว ซึ่งยังมีข้อจำกัด แต่หากจะพูดถึงการควบคุมพื้นที่ เราสามารถควบคุมได้ตามแผนตามเป้าหมายทางการทหารที่ได้วางไว้ โดยพื้นที่ประสาทตาควายถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาก่อนถึงเวลาหยุดยิง

“ยอมรับว่า ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะ ซึ่งจะเห็นว่าปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง ซึ่งลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควายจะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญทางการทหารไม่ใช่ตัวปราสาทตาควาย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ แต่เดิมหากเราวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย จะเป็นความไม่ปลอดภัยในเรื่องของการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการคุมพื้นที่” พล.ต.วินธัยระบุ

โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า สำหรับห้วงสุดท้ายสำหรับการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมายจุดสูงข่ม คือเนิน 350 ซึ่งอาจจะมองว่าอยู่ในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีให้เราไม่เพียงพอ ซึ่งอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวมด้วยอาวุธ ทั้งนี้ เนิน 350 เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา ซึ่งเขาใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาที่ปราสาทตาควาย ทำให้เราไม่สามารถวางกำลังประจำภายในปราสาทตาควายได้ เพราะจะกลายเป็นเป้าหมายนิ่ง และมีความอ่อนแอ ไม่เหมือนกับเนิน 350

“ลักษณะภูมิประเทศของปราสาทตาควายจึงแตกต่างกับจุดอื่น หากเราเคลื่อนกำลังผลีผลามจะโดนอาวุธยิงสนับสนุน ก็คือ BM-21 พร้อมจู่โจมเราอยู่แล้ว และในห้วงเวลาสุดท้ายเรามีความพยายามที่จะยึดเนิน 350 และปราสาทตาควายไปด้วยพร้อมกัน พยายามเข้าสู่ 2 ที่หมาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับสนามทุ่นระเบิดที่กัมพูชาวางไว้ ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แต่สาหัสจำนวน 1 นาย แต่การเข้าสู่ปราสาทตาควายในห้วงเวลาสุดท้ายถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรายอมรับว่าการบาดเจ็บจากสนามทุ่นระเบิดนั้นรั้งหน่วงในการที่จะรุกคืบในขั้นสุดท้ายของเรา ซึ่งเราต้องพยายามสร้างสมดุลภารกิจสุดท้ายกับขวัญและกำลังใจของทหาร ความปลอดภัยควบคู่กันไป เมื่อถึงเวลาหยุดยิงเราสามารถควบคุมพื้นที่มากกว่าเดิม เพียงแต่เราไม่มีกำลังประจำที่ปราสาทตาควาย"

เมื่อถามย้ำว่า เราไม่สามารถยึดประสาทตาควายได้ใช่หรือไม่ โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารไม่ได้พุ่งเป้าไปที่สิ่งปลูกสร้างเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงองค์ประกอบโดยรวมด้วย ซึ่งยืนยันว่าเราได้พื้นที่เพิ่มเติม และพื้นที่ที่ได้ก็ถือว่าควบคุมตัวปราสาทได้ ขณะนี้จะเห็นได้ว่ามีทหารกัมพูชาอยู่ในตัวปราสาทไปอยู่ในขั้นตอนของการหยุดยิง แต่ไม่ได้หมายความว่าใครที่เดินอยู่ภายในปราสาทตาควายจะเป็นผู้แพ้ชนะ ในการต่อสู้บนพื้นที่ปราสาทตาควาย ซึ่งในภาพรวมเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ 99%

พล.ต.วินธัยระบุว่า ได้เก็บรวบรวมหลักฐานกรณีทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดบริเวณโดยรอบปราสาทตาควาย เพราะละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เพราะเรามีผู้บาดเจ็บจากสื่อสังคมออนไลน์จะเห็นว่ามีชาวกัมพูชาที่อยู่บนปราสาทตาเมือนธมและมีวัตถุระเบิด PMN-2 วางอยู่ ซึ่งไม่ใช่ชิ้นเดียว เป็นสิ่งบอกเหตุว่ามีจำนวนเยอะมาก ถือเป็นข้อมูลและองค์ประกอบหนึ่ง ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันการต่อสู้ทางการทหารคลี่คลายลงไปบ้าง แต่การต่อสู้การเมืองระหว่างประเทศต้องดำเนินการต่อ ซึ่งรัฐบาลกับกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่ หลักฐานข้อพิสูจน์ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้หมดแล้ว

'ตาควาย' ไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์

"ตัวปราสาทตาควายไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์ที่เราต้องการ เพราะอยู่ต่ำกว่าเนิน 350 เราไปยืนอยู่ที่ตัวปราสาทตาควายไม่ได้หมายความว่าเราชนะ แต่ต้องไปดูพื้นที่ที่เราควบคุมได้ว่าจะมีการใช้ประโยชน์อย่างไร หากจับที่สิ่งปลูกสร้างก็จะมองว่าทหารไทยยึดไม่ได้ แต่หากมองในแง่การทหารเราควบคุมพื้นที่ได้มากกว่าที่เราเคยอยู่เดิม

เมื่อถามว่า มีสื่อออนไลน์ออกมาดูแคลนทหารไทยที่ต้องสูญเสียปราสาทตาควายไป จึงอยากให้กองทัพบกพูดถึงความตั้งใจของทหารไทยที่จะปกป้องดินแดนตรงนี้ พล.ต.วินธัยกล่าวว่า ตนว่าพี่น้องประชาชนคนส่วนใหญ่ได้เห็นว่าสิ่งที่กองทัพไทยทำดีที่สุด และเราไม่เคยทำอะไรให้มีความเคลือบแคลงใจในสิ่งที่เรากำลังปฏิบัติและสิ่งที่เรากำลังพยายาม ตนเชื่อว่าอาจจะมีส่วนน้อย แต่ไม่ได้มองว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องไม่ดี เรายังสามารถเพิ่มเติมและเสริมข้อมูลให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เราให้หน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานภาคพลเรือน รวมถึงสื่อมวลชน และขอเรียนว่า ตนให้ข้อมูลการปฏิบัติในห้วงเวลาสุดท้าย ตนคิดว่าเราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุด

พล.ต.วินธัยยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารนานาชาติลงพื้นที่บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ โดยฝ่ายกัมพูชาได้เข้ามาสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวร ซึ่งฝ่ายไทยได้ประท้วงไปแล้วหลายครั้ง ไม่ใช่ทหารไม่ได้ทำหน้าที่ พร้อมยืนยันว่าไทยได้ทำดีที่สุด ซึ่งหลายพื้นที่ฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำฝ่าฝืนกติกา โดยอาศัยชาวบ้าน ชุมชน เข้ามาทำผิดเงื่อนไขแทน โดยหลีกเลี่ยงการใช้หน่วยทหารของกัมพูชา ดังนั้นต้องรู้เท่าทัน ซึ่งต่อไปเราจะพูดปัญหาอย่างตรงไปตรงมาว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์สู้รบกันนี้ โดยยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเส้นปฏิบัติการของไทย

พล.ต.วินธัยกล่าวอีกว่า การที่ผู้ช่วยทูตทหารและสื่อมวลชนต่างชาติเข้ามาในพื้นที่ในลักษณะนั้น ต้องยอมรับว่าเราจะเอาช่วงเวลาของเมื่อวานมาตัดสินไม่ได้ เนื่องจากมีสัญญาหยุดยิงแล้ว ซึ่งการยึดตาม MOU 2543 ไม่ได้หมายความว่าจะเดินเข้า-เดินออกไม่ได้ แต่จะต้องทำการภายใต้กติกาในจุดที่สำคัญ ซึ่ง 2 ฝ่ายจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ฝ่ายละ 5-7 คน แต่จะต้องไม่มีการฝ่าฝืนเหมือนกับการขุดคูเลตที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ที่เข้ามาในพื้นที่บ้างจึงเป็นไปได้ โดยจะให้ทุกอย่างตึงเครียดไปหมดคงเป็นไปได้ยาก เพราะมีพรมแดนติดกัน

มีรายงานว่า บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย ทหารกัมพูชาวางกำลังใกล้ตัวปราสาทมากกว่าฝ่ายทหารไทย และอยู่ในฐานที่มั่นสูงข่มแข็งแรงมาก ชัยภูมิได้เปรียบ แม้เครื่องบิน F-16 ทิ้งบอมบ์จุดที่ทหารกัมพูชาอยู่ไปเยอะแล้ว แต่ทหารกัมพูชา อยู่ตามร่องหลืบ เขาจึงเอาไม่ลง แต่เราสามารถควบคุมพื้นที่โดยรอบฝั่งเราได้มาก อย่างไรก็ตาม ในตัวปราสาทไม่มีคนอยู่ และอยู่ใกล้เส้นแผนที่ 1 ต่อ 5 หมื่น แต่หากทหารกัมพูชาเข้ามาในตัวปราสาทตอนนี้แล้วเรายิงไป ก็จะละเมิดข้อตกลงหยุดยิง แต่ฝ่ายเราก็ขึ้นไปในตัวปราสาทได้ยาก จึงตรึงกำลังกันไว้ ต้องใช้เวลาในการปฏิบัติการ

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 31 ก.ค.ณ เวลา 10.00 น. ปรากฏความเคลื่อนไหวของกำลังประเทศกัมพูชาและสถานการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดดังนี้ 1.ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังและเสริมความมั่นคงของกำลังประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 2.ตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรนไม่ทราบฝ่าย/ไม่ทราบชนิด) บินตรวจการณ์ที่ตั้งการวางกำลังของฝ่ายเราในหลายพื้นที่

สำหรับการตรวจพบในพื้นที่ชายแดน ได้แก่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี, พื้นที่ภูมะเขือ, สัตตะโสม, ปราสาทโดนตวล, ภูผี อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ 3.การดำเนินการต่อผู้ถูกควบคุมตัว ซึ่งเป็นทหารกัมพูชาที่ยอมจำนนเนื่องจากกระสุนหมดในพื้นที่ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 20 นาย และอาวุธ ยุทโธปกรณ์, กระสุน/วัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้

พล.ต.วินธัยกล่าวถึงการพาผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ชายแดนเพื่อดูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของกัมพูชาว่า อยู่ในแผนของกองทัพบกอยู่แล้ว โดยจะดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพราะต้องการเน้นเรื่องคุณภาพในการสื่อสาร และเชื่อว่ามีสื่อมวลชนต่างประเทศให้ความสนใจ รวมทั้งตัวแทนจากต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทยซึ่งอยู่ในหน่วยงานราชการ เช่น ผู้ช่วยทูตทหารที่ให้ความสนใจ ทั้งนี้ อาจจะพาไปได้ไม่ครบทุกจุด แต่จะมีการแบ่งกลุ่มการลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะไปทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ดังนั้นในช่วงหนึ่งวันจะสื่อสารให้เห็นภาพรวมเพื่อให้เห็นข้อมูลในเชิงประจักษ์ ไม่ใช่การพูดลอยๆ สำหรับผู้นำคณะต่างประเทศลงพื้นที่นำโดย พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก ทั้งนี้นอกจากผู้ช่วยทูตทหารแล้ว ยังมีเอกอัครราชทูต ซึ่งประสานผ่านทางกระทรวงต่างประเทศมา รวมถึงสำนักข่าวต่างประเทศที่อยู่ในไทยอย่างน้อย 10 สำนักขึ้นไป

ปล่อย18 ทหารเขมรกลับ

พล.ต.วินธัยยังกล่าวถึงกรณีนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวทหารกัมพูชาที่ไทยควบคุมตัว และในการหารือระหว่างพลเอกดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย แม่ทัพภาคที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 1 ของไทยได้พูดคุยในเรื่องนี้หรือไม่ ว่าประเด็นดังกล่าวได้อธิบายไปแล้วตอนที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียมาพบกับแม่ทัพภาค 2 ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายสากล และจะรีบส่งกลับเมื่อเสร็จขั้นตอนตามกฎหมาย

รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ช่องจอม ไทยจะส่งมอบทหารกัมพูชาที่ล้ำแดนไทยเข้ามาในดินแดนไทยระหว่างการสู้รบ บริเวณพื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ ภายหลังไทยดูแลตามหลักสากลและมนุษยธรรม ทั้งนี้ ทหารกัมพูชา 18 นายนี้ มีบาดเจ็บ 1 คน แขนหักอีก 1 คน มีอาการเสียสติจากการสู้รบ

ทั้งนี้ ฝ่ายทางไทยได้ดำเนินการตามสนธิสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3 (Geneva Convention relative to the Treatment of Prisoners of War) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 อนุสัญญาเจนีวา ที่ลงนามในปี 1949 อนุสัญญาฉบับนี้เกี่ยวกับการปฏิบัติ และการส่งทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวกลับประเทศหลังสิ้นสุดการสู้รบ

อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 (1949) กำหนดให้ทหารที่ถูกควบคุมตัวต้องได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม รวมถึงการให้อาหารอย่างเพียงพอ การส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ การส่งตัวทหารที่ถูกควบคุมตัวกลับประเทศ กำหนดให้ทหารที่ถูกควบคุมตัวได้รับการปล่อยตัวและส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิด โดยไม่ชักช้า หลังจากสิ้นสุดการสู้รบ ซึ่งอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 เป็นหลักประกันทางกฎหมาย ที่สำคัญในการคุ้มครองเชลยศึกในช่วงสงคราม

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลกดดันให้กองทัพปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกจับกุมว่า ไม่ได้กดดัน โดยให้เป็นไปตามกระบวนการ และได้ชี้แจงตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วว่าทหารกัมพูชา 18 นาย ขณะนี้ก็ให้เจ้าหน้าที่สอบไปว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพื่อจะได้มีหลักฐานครอบคลุมชัดเจน ขอว่าอย่าพยายามตั้งคำถามหรือมองในแง่ว่ารัฐบาลกับทหารแตกแยกกัน เพราะเราโทร.คุยกันทุกเช้า ไม่มีปัญหาอะไร

ช่วงค่ำ แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เบื้องต้นได้ประสานไปทางฝั่งกัมพูชาว่าจะส่งให้ 2 นาย โดย 1 นายได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาเรียบร้อยแล้ว และอีก 1 นาย เป็นผู้ป่วยจิตเวช ส่วนทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย ต้องขอเลื่อนส่งตัวออกไปก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างการซักถามยังไม่แล้วเสร็จ หากดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วจะนัดหมายการส่งตัวให้กัมพูชาอีกครั้ง

ทางด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ทางกัมพูชาได้ทำหนังสือส่งมาถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการ รมว.กลาโหม ในวันนี้ เพื่อเชิญประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 โดยทางกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ แต่ในประเด็นของเรามองว่าปกติแล้ว ตามหลักสากลจะไม่ประชุมในประเทศที่มีปัญหาต่อกัน โดยจะประชุมในประเทศที่เป็นกลาง ยกตัวอย่างเช่นประเทศยูเครนและรัสเซีย จะไม่ไปประชุมกันในประเทศที่มีปัญหาด้วยกันตามหลักสากลนิยม พร้อมยืนยันว่าประเทศที่สามคือประเทศมาเลเซีย เพราะเป็นตัวกลางในการประสานอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า วันและเวลาในการประชุมจะเหมือนเดิมหรือไม่ โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า เป็นวันที่ 4-7 ส.ค.2568 ซึ่งในวันนี้เพิ่งทำหนังสือเสร็จ กำลังจะส่งไปยังทางการกัมพูชาและมาเลเซีย เมื่อถามว่าแนวโน้มที่ทางกัมพูชาจะยอมรับเป็นไปได้หรือไม่ พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า เป็นลักษณะเชิงรุกของเรา ที่มองว่าควรไปประชุมในประเทศที่ 3 ซึ่งก็ต้องรอทางกัมพูชาตอบกลับมาอีกครั้งหนึ่งว่าจะตกลงหรือไม่ ถ้าจริงใจก็คงจะตอบรับ

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า ขณะนี้ ศบ.ทก.กำลังอยู่ระหว่างการเร่งบูรณาการด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถี่ถ้วน ในรูปแบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่อลดการเข้าใจผิดในข้อมูลข่าวสาร รวมถึงลดการบิดเบือนข้อมูลจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะมีความเป็นรูปธรรม

วันเดียวกันนี้ ศบ.ทก.ได้เปลี่ยนที่แถลงข่าวจากตึกนารีสโมสรเป็นตึกสันติไมตรี และมีการเปลี่ยนมอตโตฉากหลัง จากเดิม "รอบคอบ รอบด้าน ใช้สติ อย่างสันติ" เป็น "รวมใจไทยเป็นหนึ่ง"

นำทูตทหารลงพื้นที่

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก (ศปส.ทบ.) นำคณะผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ และสื่อมวลชน สังเกตการณ์พื้นที่พลเรือน โรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 1 ส.ค.68 โดยเมื่อไปถึงพื้นที่ จะได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ ได้รับความเสียหาย การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา จากนั้นเดินทางไปพื้นที่ทหารกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อ สถานีบริการน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทำให้ประชาชนคนไทยเสียชีวิต 8 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 7-8 ขวบ บาดเจ็บจำนวน 10 คน

ต่อจากนั้นจะเดินทางไป รร.ภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย เพื่อสังเกตการณ์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย และเดินทางต่อไปยัง รพ.สต.บ้านชำเม็ง ต.เสาธงชัย สังเกตการณ์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังศูนย์พักพิงวิทยาลัยเทคโนโลยีกันทรลักษ์ สำหรับผู้ช่วยทูตทหารที่เดินทางไปร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ ในเบื้องต้น 22 ประเทศ อาทิ 1.สวีเดน 2.สาธารณรัฐประชาชนจีน 3.มาเลเซีย 4.สหรัฐอเมริกา 5.ปากีสถาน 6.รัสเซีย 7. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 8.แคนาดา 9.ออสเตรเลีย 10.ฝรั่งเศส 11.ญี่ปุ่น 12.เวียดนาม 13.อิตาลี 14.เนเธอร์แลนด์ 15.สวิตเซอร์แลนด์ 16.บรูไน 17.อินโดนีเซีย 18.เยเมน 19.สิงคโปร์ 20.อินเดีย 21.เกาหลีใต้ และ 22.ฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนต่างประเทศ และสื่อมวลชนชาวไทยจำนวนมากที่ให้ความสนใจในการทำข่าวความจริงในครั้งนี้

วันเดียวกัน ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก เผยแพร่เอกสารข่าว โดยระบุว่า กรมข่าวทหารบกร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ

การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต ซึ่งจะทำหน้าที่หลักในการเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป และประเด็นนี้จะถูกหยิบยกขึ้นในการหารือในเวทีประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ General Border Committee (GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชา ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 ส.ค.68 ทั้งนี้ กองทัพบกพร้อมดำเนินการในทุกมิติเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมยืนยันจุดยืนของไทยในการเคารพหลักสากลระหว่างประเทศ ไม่รุกรานและไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งส่งเสริมสันติภาพและความสงบสุขระหว่างประเทศอย่างอย่างยั่งยืน

สำหรับจากกรณีที่พบระเบิด MK-84 ที่กัมพูชาขุดขึ้น ตามที่เฟซบุ๊กของนายแฮง รัตนา เอาภาพมาลงนั้น พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า ได้มีข้อสังเกตว่า ระเบิดดังกล่าวอยู่ในสภาพเก่า และมีลักษณะคล้ายถูกขุดขึ้นมาจากใต้ที่พักอาศัยของประชาชน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากปฏิบัติการทางอากาศในช่วงที่ผ่านมา ดูจากสภาพที่ขึ้นสนิมไม่ใช่ของกองทัพอากาศไทย เนื่องจากลูกระเบิดที่กองทัพอากาศใช้มีสภาพใหม่และสมบูรณ์ ไม่เป็นสนิมขนาดนั้น ดูจากเส้นรอบวงโดยประมาณและความยาว คาดว่าเป็นลูกระเบิดอากาศขนาด 2000 ปอนด์แบบตะวันตกที่มีใช้ทั่วไป สภาพความลึก และวางขนานกับพื้น ไม่เหมือนทิ้งจากเครื่องบิน.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘ทูตทหาร’ ถึงกับอึ้ง! ดูความเสียหาย ข้องใจกัมพูชาโจมตีมั่ว หรือตั้งใจเล็งเป้าพลเรือน

44 นาทีที่แล้ว

เผยคณะทูตเข้าใจประเทศไทย เห็นกับตากัมพูชาโหดร้าย เชื่อมั่นไทยไม่ใช่ฝ่ายเริ่มรบก่อน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตบลูกยางสาวไทย ไม่หวั่นแม้เสียเซตก่อน คัมแบ็คอัด ฟิลิปปินส์ 3-1 ศึกซีวีลีก 2025

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จับปลาซิวปลาสร้อย แก๊งงาบสวนปาล์มหมดสัมปทาน จนท.รัฐเอี่ยวนายทุนฮุบรายได้เดือนนับล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

คณะทูตและสื่อนานาชาติลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

ไทยพับลิก้า

สหรัฐฯประกาศปรับภาษีนำเข้าไทยเป็น 19% เท่ากับกัมพูชา และมาเลเซีย

ไทยพับลิก้า

แบบนี้ได้เหรอ? เจอหมามีความสุข แจ้งไว้เป็นหลักฐานมซะเลย!

INN News

ครอบครัวผู้สูญเสียยืนอยู่เงียบ ๆ เรียกหา ‘ความยุติธรรม’ ขณะที่ทูตโลกยืนมองความจริงจาก ‘อาชญากรรมสงคราม’

THE STATES TIMES
วิดีโอ

มาลีรู้ขนลุกแน่! เปิดนิสัยจริง "บุน รานี" หลังมีข่าวสั่งจับตาสัมพันธ์สามี "ฮุนเซน"!

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

รักชนก เผยมีผู้ปิดทองหลังพระ!! คดีโยกงบฯ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน

TOJO NEWS

กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีตรวจยึดยาเสพติดข้ามชาติ มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา

JS100

"กัลฟ์" มอบ 18 ล้านบาท หนุนรพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้อง เพื่อทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล

THE ROOM 44 CHANNEL

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...