โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ทิ้งทวน! ผบเหล่าทัพ-แม่ทัพกุ้ง รบเขมร "ทรงวิทย์-พนา" นำทหารไทย กำหราบละแวก

สยามรัฐ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

และแล้วก็เป็นฝ่ายทหารเขมรที่เริ่มก่อน ตั้งแต่วางทุ่นระเบิดใหม่ ทำให้ทหารไทยต้องบาดเจ็บเสียขาไปถึง2 นาย
นั่นถือเป็นการประกาศสงครามกับไทย แล้ว เพราะเป็นการวางทุ่นระเบิดในดินแดนประเทศไทยวางตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 และเข้ามาวางใหม่เมื่อช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวา ที่ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุุคคล
ก่อนที่ตามมาด้วยการปะทะ 24 กค.2568
หลังจากที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาด ในระหว่างลาดตระเวน แถวช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี 23 กค.2568 จนทำให้พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค2 ประกาศปิดด่านตามแนวชายแดน และปิดปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย จ. สุรินทร์งดการท่องเที่ยว
ส่งผลให้พลเอกมาเนต นายกรัฐ มนตรีกัมพูชาไม่พอ ใจ ประกาศห้าม ไม่ให้ทหารไทย ปิดทางเข้าฝั่งกัมพูชา และก่อนหน้านี้สมเด็จฮุนเซน ได้ขู่ไว้แล้วว่าถ้าปิดปราสาท จะต้องมีการยิงปะทะกันแน่นอน
โดยครั้งนี้ฝ่ายทหารกัมพูชาได้เริ่มปฏิบัติการก่อน เอาโดรนขึ้นมาบินตรวจการณ์การวางกำลังของทหารไทยในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม
โดย ทหารเขมร บุกมาทาง ปราสาทตาเมือน ทางตะวันออก ตรงข้ามฐานหมูป่า ไม่ได้บุกขึ้นมาทางปราสาทตาเมือนธม โดยตรง เพราะ ทหารไทย อยู่สูงกว่า
โดย จุดนี้ ทหารเขมร คิดว่า กำลังทหารไทย น้อยกว่า ที่ปราสาทตาเมือนธม เนื่องจาก ทหารไทย คิดว่า มีกับระเบิดเดิม ที่ยังไม่ได้เก็บกู้ ในฝั่งกัมพูชา
โดยที่ ทหารเขมร เริ่มเปิด เพราะถ้ายึดตรงนีั ได้จะเข้าไปตีโอบ ยึดปราสาทตาเมือนธม ได้ง่ายขึ้น เพราะมีระดับความสูง เท่าๆกับ ปราสาทตาเมือนธม นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมทหารเขมร ไม่ขึ้นทาง ด้านทางขึ้นปราสาท จุดท่องเที่ยวที่ประชาชนเคยไปเยือน เพราะทหารเขมรจะเสียเปรียบกว่า เนื่องจากทหารไทยอยู่บนปราสาทฯ
ก่อนหน้านี้ ในปี 2554 ทหารเขมรเคยบุกจะยึดปราสาทตาเมือนธม มาแล้ว แต่เข้าทางตะวันตก แต่มาครั้งนีั เข้าทางตะวันออก ก่อน
ดังนั้นประวัติศาสตร์ต้องจารึกเอาไว้ว่า 24 กรกฎาคม 2568 ทหารเขมร เริ่มปฏิบัติการทางทหารก่อนด้วยการ เอาโดรนบิน เพื่อข่มขวัญ และ ตรวจการณ์ การวางกำลังของฝ่ายไทย ในเวลา 0735 น. จากนั้น เวลา 07.40น พื้นที่ปราสาทตาเมือน ฝ่ายทหารกัมพูชา นำอาวุธเข้าที่ตั้ง ด้านหน้า แนวลวดหนาม และ เวลา 0745 น.ฝ่ายกัมพูชา 6 คนอาวุธครบมือ(พร้อม RPG) เดินมาที่หน้าแนวลวดหนาม ฝ่ายทหารไทย ใช้การตะโกนเจรจา
จากนั้น เวลา0820 น. ฝ่าย ทหารกัมพูชา เปิดฉากการยิง บริเวณ ตรงข้ามฐานหมูป่า ทางทิศตะวันออกปราสาทตาเมือน 200 เมตร
ขณะที่พลเอกณัฐพล นาคพานิชย์ รมช. กลาโหม และ ผอ.ศบ.ทก. ประชุมหารือกับผู้บัญชาการเหล่าทัพและมีมติที่จะมอบหมายให้พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการการยุทธ์ ในการสู้รบกับกัมพูชาครั้งนี้
เนื่องจากมีการใช้กำลังทหารทั้งในส่วนของกองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ พลเอกทรงวิทย์ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารจึงรับหน้าที่นี้ จากเดิมที่ มอบอำนาจให้บิ๊กปู พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เนื่องจากเดิมใช้กำลังของกองทัพบก
และถือเป็นครั้งสำคัญของพลเอกทรงวิทย์ที่กำลังจะเกษียณราชการ 30 กันยายนนี้ ในการที่จะได้ทำหน้าที่ของทหารนักรบเพื่อปกป้องประเทศชาติและประชาชนคนไทย
เฉกเช่นที่บิ๊กตุ๋ย พลเอกอิสรพงศ์ หนุนภักดี อดีตผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาค2 ที่เคยบัญชาการรบช่องบกเมื่อมากกว่า 30 ปีที่แล้ว
เช่นเดียวกันบิ๊กไก่ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. ที่กำลังจะเกษียณราชการ 30 กันยายน 2568 นี้เช่นกัน ก็เป็นผู้อำนวยการรบ ในการส่ง เครื่องบินF 16 จากกองบิน1 จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 6 เครื่องบินปฏิบัติการทิ้งระเบิด ใส่ กองบัญชาการสนับสนุนการรบที่8 และ 9 ในพื้นที่ช่องอานม้าตรงข้าม จังหวัดอุบลราชธานี โดยทำลายที่หมายได้ตามแผนเพื่อป้องกันไม่ให้สั่งการการใช้อาวุธในการยิงทำร้ายประชาชนคนไทย
หลังจากที่ทหารกัมพูชาโจมตีเป้าหมายพลเรือน. ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM 21 และปืนใหญ่เข้าใส่หมู่บ้านในหลายพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถือเป็นการผิดกฎการรบในการยิงเป้าหมายฝ่ายพลเรือนและโจมตีโรงพยาบาลของไทย
ขณะที่พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่กำลังเกษียณราชการเช่นกัน ก็บัญชาการรบในส่วนของพื้นที่ทหารเรือในกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี- ตราด
แต่อย่างไรก็ตามการสู้รบตามแผนป้องกันประเทศ “จักรพงษ์ภูวนารถ” นี้ และตามกฏหมายเรื่องการใช้กำลังต้องได้รับอนุมัติตามขั้นตอน ทั้งการยิงปืนใหญ่และการใช้เครื่องบินF 16 เข้าโจมตีก็ต้องขออนุมัติต่อรัฐบาล และเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งอาจจะไม่รวดเร็ว เท่าใดนัก เพราะทุกวินาทีมีการสูญเสียในส่วนของพลเรือนและทหารฝ่ายกองทัพไทยจึงต้องเร่งในการปิดเกมเพื่อปกป้องความเสียหายและชีวิตของประชาชนและทหาร
แม้ว่าครั้งนี้ทหารกัมพูชาจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าการสู้รบปี 2554 เพราะมีอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่ทันสมัยมากขึ้นและมีจำนวนมาก ที่ทำให้ฝ่ายทหารไทยอาจต้องมีการสูญเสียมากกว่าเดิม แต่ในภาพรวมแล้วกองทัพไทย มีศักยภาพที่เหนือกว่าแต่จะต้องปิดเกมให้เร็ว
ครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่กองทัพไทยทหารไทยจะแสดงให้เห็นว่าทหารกัมพูชา ที่ยั่วยุมาตลอด และเยาะเย้ยดูหมิ่นศักดิ์ศรีทหารไทยมายาวนานหลายเดือน จะได้รู้จักทหารไทยมากขึ้น เพราะทหารไทยต้องกำหราบ เขมรให้อยู่หมัดในครั้งนี้เพื่อที่ลูกหลานในอนาคตจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะเขมรอีกต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

กรมชลประทาน ร่วมเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า จ.สุโขทัย เร่งบูรณาการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน จากอิทธิพลพายุ “วิภา”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ส่งความห่วงใยไปกับมื้ออาหาร...ซีพีเอฟ ลงพื้นที่ส่งมอบวัตถุดิบปรุงอาหารเพื่อประชาชนในศูนย์อพยพชายแดน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ยกที่หนึ่งรอบคัดเลือก 8 ทีม เริ่มแล้ว!!! แข่งขันโต้วาทีน้องใหม่ ม.เกษตรฯ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รับมือฝน! "อธิบดีฯสุริยพล" ติดตามโครงการคลองยม-น่าน ระบายน้ำป้องกันน้ำท่วม

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม