PDPC บุกนครปฐม ดึงผู้นำชุมชนร่วมสกัดภัยไซเบอร์
จังหวัดนครปฐม ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจของภาคกลาง ที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 365,987 ล้านบาท และมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 297,901 บาท โดยมีภาคอุตสาหกรรมเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ร่วมกับภาคบริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการสุขภาพ การศึกษา และการค้าปลีก
9 ก.ต. 2568 - ด้วยเหตุนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC จึงได้เดินหน้ารณรงค์เชิงรุก “สร้างความรู้สู่ชุมชน” โดยลงพื้นที่นครปฐม พร้อมมุ่งสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล และเสริมภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนในทุกระดับ ผ่านบทบาทของผู้นำชุมชนและกลไกในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนสู่สังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและรู้เท่าทันมากขึ้น
พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) กล่าวว่า สคส. มุ่งขยายการเข้าถึงความรู้เรื่องกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันอย่างลึกซึ้ง การเข้าใจสิทธิของตนเองในข้อมูลส่วนบุคคลจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกคนควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการในพื้นที่ หรือผู้ให้บริการภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ดังนั้น สคส. จึงได้จัดกิจกรรม “PDPC สร้างความรู้สู่ชุมชน” เพื่อมุ่งเน้นการใช้พลังของผู้นำชุมชน กลุ่มอาสาสมัคร และผู้มีอิทธิพลทางความคิดในพื้นที่ มาเป็น “ฟันเฟือง” กระจายความรู้สู่ระดับครัวเรือน เพื่อป้องกันปัญหาการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน โดย PDPC ตั้งเป้าให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนในการลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ และยกระดับภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้ประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญคือ “ข้อมูลรั่วไหลเป็นศูนย์”
ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน และคณะผู้บริหารของสคส. ร่วมให้ความรู้ และข้อมูลกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญจาก สคส. ให้คำปรึกษาและตอบข้อซักถามเกี่ยวกับปัญหาการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแจก “กระเป๋าชุดข้อมูลความรู้ PDPC รู้แล้วรอด” ซึ่งออกแบบมาให้เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน แก่ผู้นำชุมชน บุคลากรในท้องถิ่น และประชาชนทั่วไปอีกด้วย