โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

เด็ก-วัยรุ่นไทยป่วยจิตเวชพุ่ง 4 โรคเฝ้าระวัง “สมาธิสั้น-ซึมเศร้า-วิตกกังวล-ใช้สารเสพติด”

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

พญ.ปรานี ปวีณชนา จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากงานวิจัยในประเทศไทยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีประชากรเด็กและวัยรุ่นช่วงอายุ 0-20 ปี ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% ต่อปี โดยส่วนใหญ่พบได้ตั้งแต่วัย 3 ขวบขึ้นไปจนถึงช่วงวัยรุ่นตอนปลายหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น

โดยสาเหตุมาจาก 1. พันธุกรรม กรณีนี้สามารถตรวจสอบประวัติคนในครอบครัวได้ว่ามีคนที่มีความผิดปกติ 2. พื้นอารมณ์เด็กตั้งแต่แรกเกิด เช่น เลี้ยงง่าย ปรับตัวง่าย หรือปรับตัวยาก 3. เหตุการณ์กระตุ้นความเครียด ส่วนใหญ่มักเกิดตามหลังเหตุการณ์ที่ทำให้เด็กเกิดความเครียด 4. พัฒนาการสมอง เกิดจากการทำงานของสมองที่ไม่สมบูรณ์ และ 5. ความผิดปกติทางโครโมโซม

จากสถิติเฉพาะของโรงพยาบาลพระรามเก้า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มอายุที่ป่วยโรคจิตเวชในเด็กมากที่สุดคือ ชั้นประถมศึกษาพบ 10-15% โดยโรคที่พบมากที่สุดคือ โรคสมาธิสั้น (ADHD: Attention-deficit / Hyperactivity disorder) 20-25% สาเหตุสำคัญเกิดจาก สมองส่วนหน้าทำงานผิดปกติ (frontal cortex) หรือทำงานได้น้อยกว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน ซึ่งมีหลากหลายแบบแต่จะแยกกันกับระดับสติปัญญา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1. อาการไฮเปอร์ สังเกตได้จากความซุกซน ขยับ อยู่ไม่นิ่ง แคะแกะเกา พูดมาก ขี้เบื่อ ทำอะไรไม่เสร็จ 2. มีความใจร้อน หงุดหงิดง่าย อดทนรอคอยไม่ได้ เจ้าอารมณ์ ทำอะไรโดยไม่คิดถึงผลตามมา และ 3.ขาดสมาธิ ไม่มีสมาธิในการทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ วอกแวกง่าย ทำหยุดทำไม่เสร็จ ขี้ลืม ของไม่เป็นระเบียบ ทำของหาย ดูเหมือนไม่รับผิดชอบ ไม่สามารถเรียงลำดับสิ่งที่ต้องทำก่อนและหลังได้

การวินิจฉัยสามารถประเมินอาการได้เมื่อพฤติกรรมเหล่านี้เริ่มส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การกิน การนอน การเรียน ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนอื่น ทั้งในโรงเรียน ครอบครัว รวมถึงกับเพื่อน ซึ่งต้องแยกให้ถูกกับความแตกต่างจากพฤติกรรมตามวัย เพราะโดยปกติเด็กอายุ 3-6 ปี จะมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ 15-30 นาที, อายุ 7-12 ปี จะจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ประมาณ 30-60 นาที, อายุ 13 ปีขึ้นไป สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้มากกว่า 1 ชั่วโมง

“โรคสมาธิสั้นส่วนใหญ่มักเกิดในเด็กผู้ชาย 2 ใน 3 คน มากกว่าเด็กผู้หญิงที่เกิดเพียง 1 ใน 3 คน มีหลายระดับและการรักษาหลายวิธี ทั้งการกินยาอย่างต่อเนื่องที่จะช่วยกระตุ้นสมองส่วนหน้าที่ทำงานได้น้อยกว่าปกติให้กลับมาปกติ ก่อนสมองจะหยุดพัฒนาในช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น

หรือช่วงเข้ามหาวิทยาลัย ถัดมาคือ โรคซึมเศร้า ที่นับได้ว่าเป็นโรคจิตเวชในเด็กที่ส่งต่อไปถึงวัยรุ่นซึ่งควรตระหนักรู้ทั้งตัวเด็กและผู้ปกครอง ว่าอาการเป็นแบบไหน สาเหตุเกิดจากอะไร และจะมีวิธีจัดการอย่างไร”

สำหรับวัยรุ่นที่ป่วยโรคทางจิตเวชประมาณ 10 – 15% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบมากที่สุด 3 อันดับคือ โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และการใช้สารเสพติด โดยธรรมชาติของวัยรุ่นมักต้องการเป็นที่ยอมรับ อยากรู้อยากลอง มักขาดความยับยั้งชั่งใจ ทำตามอารมณ์

อย่างไรก็ดีโรคจิตเวชที่น่ากังวลที่สุดคือโรคซึมเศร้าที่อาจส่งผลถึงแก่ชีวิตได้ เพราะเมื่อป่วยด้วยโรคซึมเศร้าจะเริ่มหาทางออกด้วยการใช้สารเสพติด เช่น การใช้กัญชา พอต (บุหรี่ไฟฟ้า) แอลกอฮอล์ เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น แต่แท้จริงคือแค่อยากบรรเทาอาการทางจิตเวชที่เป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว

ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่อายุ 10 - 12 ปี เป็นต้นไปจนถึง 20 ปี มักป่วยจิตเวชประกอบกันหลายส่วน หากไม่ได้รับการรักษาจะเสียโอกาสในชีวิตและเป็นอันตรายถึงขั้นอยากฆ่าตัวตายหรือลงมือทำร้ายตัวเอง

การรักษาโรคทางจิตเวชในวัยรุ่นถือว่าเป็นเรื่องยาก เพราะเด็กวัยรุ่นบางคนไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วยและต่อต้านการรักษา และบางเรื่องมักไม่อยากให้ผู้ปกครองรู้ ดังนั้นแพทย์ที่วินิจฉัยและทำการรักษาต้องสร้างความไว้ใจให้เกิดขึ้นกับผู้ป่วย ไม่ว่าจะเรื่องทางเพศสัมพันธ์ การใช้สารเสพติด พฤติกรรมด้านลบ ต้องทำให้เด็กไม่รู้สึกว่าถูกทรยศจากแพทย์ผู้รักษา

“อิทธิพลของโรคจิตเวชในวัยรุ่นจะมาจากโซเซียลมีเดียค่อนข้างสูง ไม่ว่าถูกหรือผิดเด็กอาจจะทำตามโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลจากกลุ่มเพื่อนที่เด็กต้องการการยอมรับ ถัดมาคืออิทธิพลทางด้านครอบครัว ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของพ่อแม่และเด็กด้วย”

ข้อสังเกตุของโรคจิตเวชในวัยรุ่นคือ พฤติกรรมที่แตกต่างจากเดิม หากผู้ปกครองพบพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดอาการรุนแรง สามารถปรึกษาแพทย์ได้ตั้งแต่อายุเริ่มแรก เพราะจะรักษาได้ง่าย

เช่น เด็กอาจมีความเครียดที่มีปัญหา ต้องการพูดคุยและแก้ปัญหานั้น เพราะหากเจ็บป่วยนานจะยิ่งรักษายาก โดยเฉพาะที่เริ่มมีอาการเศร้า เบื่อ ไม่สนุกกับสิ่งที่เคยทำ มีปัญหาการกิน การนอน ความคิดความจำไม่ดี ไม่คุยกับใคร คิดลบ โทษตัวเอง มีความคิดอยากตาย หาก 2 สัปดาห์ขึ้นไปจะวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคซึมเศร้า

ส่วนโรควิตกกังวล เป็นโรคที่กังวลกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินเหตุจนส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้หงุดหงิด โกรธ sensitive ร้องไห้ง่าย รวมถึงการกิน การนอนเปลี่ยนไป ทั้งนอนไม่หลับ หลับไม่ดี ฝันร้าย หลีกเลี่ยงสิ่งที่กังวล ไม่ไปโรงเรียน โลเล ไม่ตัดสินใจ ไม่เข้าสังคม

พญ.ปรานี กล่าวว่า พฤติกรรมของโรควิตกกังวลมีหลายรูปแบบและมีหลายอาการ เช่น ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม เจ็บหน้าอก ชาปลายมือปลายเท้า ปวดหัว ปวดท้อง และมีหลายโรคที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ โรคกลัวการคุยเฉพาะในบางสถานการณ์ (Selective Mutism) พูดกับคนใกล้ชิดปกติแต่ไม่พูดกับคนแปลกหน้า, โรควิตกกังวลกลัวการแยกจาก (Specific Phobia) กลัวการแยกจากคนที่รัก กลัวว่าตัวเองหรือคนที่รักจะตาย ไม่ไปโรงเรียน, โรคแพนิค (Panic Disorder) มักมีอาการทางกายรุนแรงฉับพลัน เช่น ใจสั่นมาก เหมือนจะตาย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคจิตเวชในเด็กและวัยรุ่นอาจเริ่มต้นมาจากแรกเริ่มที่คุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะสภาพแวดล้อมในการตั้งครรภ์ก็เป็นสาเหตุสำคัญส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กที่จะเกิดมา เช่น ฝุ่น PM 2.5 สารพิษ อาหารต่างๆ

ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อความผิดปกติทั้งสิ้น รวมถึงการคลอด ภาวะแทรกซ้อนอย่างการขาดออกซิเจน ติดเชื้อ กระทบต่อสมองเด็กเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคจิตเวช ผู้ปกครองต้องมีความเข้าใจและเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาที่รุนแรงในอนาคต

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

สั่งเข้มเพิ่มความปลอดภัยมั่นใจตลาด อ.ต.ก.พร้อมเดินหน้าเยียวยา

17 นาทีที่แล้ว

เปิดภาพทหารไทย ระเบิดบันไดช่องคานม้า สกัดกัมพูชาขึ้นภูมะเขือ

38 นาทีที่แล้ว

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 แมกนิจูด ใกล้หมู่เกาะคูริล รัสเซีย

42 นาทีที่แล้ว

สั่งปิด “ซีโนไทย มารีน” ตั้งโรงงานเถื่อน ผลิตเม็ดพลาสติกจากขยะ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่นๆ

สปสช.เล็งปรับ 'คลินิกบัตรทอง กทม.' ใหม่ แก้ปัญหาใบส่งตัว

กรุงเทพธุรกิจ

"วัยทอง" เป็นได้ทั้งชายและหญิง เช็กอาการ พร้อมวิธีแก้

TNN ช่อง16

เตือนภัย! น้ำต้มพืชกระท่อม ‘เรนโบว์ ช็อต’ อันตรายแรงเกินเบอร์

กรุงเทพธุรกิจ

สั่ง สปสช.ดูแลสิทธิบัตรทอง พื้นที่เสี่ยงชายแดนไทย-กัมพูชา อุทกภัยภาคเหนือ

ฐานเศรษฐกิจ

Ginger Shots ทริคดูแลสุขภาพสไตล์เซเลน่า ดื่มน้ำขิงแล้วหุ่นดีจริงเหรอ ?

SistaCafe

20 ปีกรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบ ฝากคำถามถึงกรมสรรพสามิต | นิทัศน์ ศิริโชติรัตน์

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...