โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

สั่ง สปสช.ดูแลสิทธิบัตรทอง พื้นที่เสี่ยงชายแดนไทย-กัมพูชา อุทกภัยภาคเหนือ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา รวมถึงสถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือ ทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง คนพิการ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และผู้ป่วยทั่่วไปในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ทำให้อาจไม่ได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการสาธารณสุขในหน่วยบริการในพื้นที่ตามปกติได้

ตนจึงได้มอบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ทำหนังสือด่วนที่สุด เรื่องซักซ้อมทำความเข้าใจกับหน่วยบริการในการเข้ารับบริการ และการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุขในสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา หรือสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ไปยังหน่วยบริการ รวมถึงทำความเข้าใจกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่สถานการณ์ เพื่อให้บริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น (กองทุน กปท.) เพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยที่จะต้องได้รับบริการรักษาพยาบาลต่อเนื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม รวมถึงทำให้หน่วยบริการมีความมั่นใจในขั้นตอนการให้บริการและกระบวนการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการ

นายสมศักดิ์ กล่าวในรายละเอียดของหนังสือดังกล่าวว่า ในกรณีที่สิทธิบัตรทอง ที่ไม่สามารถเข้ารับบริการในหน่วยบริการประจำได้ เนื่องจากปิดให้บริการจากสถานการณ์ความรุนแรง หรือมีความจำเป็นจะต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือที่พักอาศัยอื่นนอกพื้นที่ สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการอื่นได้ ทั้งในกรณีภายในจังหวัดหรือต่างจังหวัด โดยหน่วยบริการที่ให้บริการก็สามารถเบิกจ่ายชดเชยได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด

ขณะที่กรณีการให้บริการด้านยาและเวชภัณฑ์ในสถานการณ์กับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ต้องได้รับยาต่อเนื่อง และต้องเพิ่มจำนวนยา หรือเวชภัณฑ์ตามความเหมาะสมของผู้ป่วย หน่วยบริการสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณา หรือพิจารณาตามข้อตกลงในระดับพื้นที่กรณีที่ต้องจ่ายยา เวชภัณฑ์เพิ่มให้กับผู้ป่วยในพื้นที่ได้

นอกจากนี้ ในส่วนกรณีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสิทธิบัตรทองจากพื้นที่เสี่ยงที่เขารับบริการในพื้นที่ไม่ได้ และต้องเข้ารับบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในหน่วยบริการที่มีความปลอดภัย แต่หน่วยบริการดังกล่าวนั้น ต้องเพิ่มจำนวนการให้บริการเกินกว่าที่สปสช. กำหนด ก็สามารถดำเนินการได้เช่นกัน โดยแจ้งข้อมูลศักยภาพการให้บริการไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติ หรืออนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพดังกล่าวให้สปสช. ทราบ

นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ไม่สามารถรับบริการได้ตามแผนการดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงรายบุคคล ขอให้ อปท. ที่บริหารจัดบริการดูแลผู้มีภาวพึ่งพิงรายบุคคลจากงบประมาณในกองทุน กปท. ประสานติดต่อกับหน่วยบริการอื่นในพื้นที่ใกล้เคียงที่ปลอดภัย เพื่อให้การดูแลมีความต่อเนื่อง และหน่วยบริการที่ดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงสามารถเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการจากสปสช. ได้ โดยขอให้หน่วยบริการยืนยันตัวตนผู้เข้ารับบริการโดยคำนึงถึงความสะดวก แต่หากยืนยันตัวตนไม่ได้เนื่องจากสถานการณ์รุนแรง ก็ขอให้แจ้งความไม่สะดวกเพื่อให้ดำเนินการเป็นรายกรณีได้

“นอกจากนี้ อปท. ยังสามารถสนันสนุนค่าใช้จ่ายจากกองทุน กปท. เพื่อดำเนินโครงการหรือกิจกรรมในสถานการณ์ความไม่สงบ และสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นได้ตามความจำเป็น และทันต่อสถานการณ์ รวมถึงสามารถสนับสนุนรถรับ-ส่ง ผู้ทุพพลภาพเพื่อไปรับบริการ สนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย แผ่นเสริมซึมซับ และผ้าอ้อมทางเลือกให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เช่นกัน”

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้สปสช. ได้ส่งหนังสือซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้ารับบริการสาธารณสุขของประชาชน และการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ในสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา หรือสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมกับข้อมูลติดต่อสำนักงานสาขา หรือสปสช.เขต ทั่วประเทศทั้ง 13 เขตให้กับหน่วยบริการแต่ละจังหวัดได้ประสานติดต่อกรณีที่ต้องให้บริการประชาชนสิทธิบัตรทองจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้หน่วยบริการ และ อปท. ที่ดูแลกองทุน กปท. ได้ประสานกับ สปสช.ในพื้นที่เพื่อร่วมกันอำนนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชน และผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความราบรื่น

“จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และอุทกภัยในภาคเหนือ สปสช. มีความห่วงใยที่เหตุการณ์ดังกล่าว อาจทำให้ประชาชน ผู้ป่วยเข้ารับบริการได้ไม่สะดวกเหมือนกับภาวะปกติ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง ซึ่งการซักซ้อมทำความเข้าใจกับหน่วยบริการ และภาคส่วนท้องถิ่นที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ จะทำให้เกิดความเข้าใจในการดูแล และทำให้ทราบขอบเขตการให้บริการ รวมถึงกระบวนการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการ ซึ่งจะมี สปสช. ในพื้นที่คอยประสานช่วยเหลือในกระบวนการต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดการดูแลผู้ป่วยมีความต่อเนื่องจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดชึ้น”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

คลังเผยเศรษฐกิจมิ.ย. ท่องเที่ยวดิ่ง ต่างชาติเข้าไทยติดลบ 15%

32 นาทีที่แล้ว

ใบสั่งจราจรแบบใหม่ เริ่ม 4 ส.ค. 68 มี 3 แบบ รวมใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์

54 นาทีที่แล้ว

ฝนยังถล่มทั่วไทย น้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่ “พิษณุโลก-อีสาน-ใต้”

54 นาทีที่แล้ว

“นพดล” ชง 5 แนวทางสันติภาพชายแดนไทย–กัมพูชา ชู “การทูตรวดเร็ว”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่นๆ

'เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์'รพ.เฉพาะทาง รักษากระดูกสันหลังและข้อครบวงจร

กรุงเทพธุรกิจ

เช็คด่วน! ประกันปรับเงื่อนไข เพิ่มเบี้ยไม่แจ้งล่วงหน้า หากพบร้องเรียนได้ทันที

ฐานเศรษฐกิจ

สปสช.เล็งปรับ 'คลินิกบัตรทอง กทม.' ใหม่ แก้ปัญหาใบส่งตัว

กรุงเทพธุรกิจ

"วัยทอง" เป็นได้ทั้งชายและหญิง เช็กอาการ พร้อมวิธีแก้

TNN ช่อง16

เตือนภัย! น้ำต้มพืชกระท่อม ‘เรนโบว์ ช็อต’ อันตรายแรงเกินเบอร์

กรุงเทพธุรกิจ

Ginger Shots ทริคดูแลสุขภาพสไตล์เซเลน่า ดื่มน้ำขิงแล้วหุ่นดีจริงเหรอ ?

SistaCafe

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...