“ยูนนาน” ไม่ได้เป็นจีนมาตั้งแต่แรก แล้วชาวจีน (ฮั่น) เข้ามาในยูนนานเมื่อไหร่ ยังไง?
พื้นที่มณฑลยูนนานของจีน ไม่ได้เป็นจีนหรือใช้วัฒนธรรมจีนมาตั้งแต่แรก แล้วชาวจีน (ฮั่น) เข้ามาในยูนนานตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไร ? นี่คือประวัติศาสตร์ฉบับย่อของการเข้ามาเปลี่ยน “ยูนนาน” ที่เคยถูกมองว่าเป็นไพรเถื่อนแดนใต้ ให้กลายเป็น “จีน”
หลักฐานทางโบราณคดีและจดหมายเหตุต่าง ๆ เผยว่า ยูนนานก่อนยุคราชวงศ์ฉิน (221-206 ปีก่อน ค.ศ.) ยังไม่มีคนจีนหรือรับวัฒนธรรมจีนเข้ามา แม้ก่อนยุคจิ๋นซีฮ่องเต้จะมีหลักฐานว่าชาวตงง้วน (จงหยวน-ศูนย์กลางอารยธรรมจีน) ติดต่อกับชนพื้นถิ่นในยูนนาน แต่ไม่ได้แปลว่าพวกเขาเริ่มโยกย้ายมาอาศัย
หลักฐานดังกล่าวคือที่มาของแร่โลหะในเครื่องสำริดจากสุสานยุคราชวงศ์ซาง ที่เมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ซึ่งเป็นแร่โลหะจากยูนนาน
หลังจิ๋นซีฮ่องเต้ส่งกองทัพแผ่อำนาจลงสู่ดินแดนทางใต้ เรื่อยมาถึงยุคราชวงศ์ฮั่น(206 ปีก่อน ค.ศ. ถึง ค.ศ. 220) จีนเข้ามาจัดตั้งเขตการปกครอง และส่งขุนนางมาดูแลพื้นที่บางส่วนของยูนนาน ทำให้ทหาร แรงงาน และพ่อค้า เริ่มเข้ามาอยู่ในยูนนานมากขึ้น แต่ชาวจีนยังเป็นคนส่วนน้อย และอาศัยอยู่ตามเส้นทางคมนาคม เช่น จ้าวทง ฉวี่จิ้ง รวมถึงแถบทะเลสาบเตียนฉือ กล่าวคือ ชาวจีนยังไม่ได้กระจายไปยังพื้นที่รอบ ๆ
ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ตงฮั่น(ฮั่นตะวันออก / ค.ศ. 25-220)ราชวงศ์จิ้น(ค.ศ. 226-420) และ ราชวงศ์หนานเป่ย(ราชวงศ์เหนือใต้ / ค.ศ. 420-589) เป็นเวลากว่า 6 ศตวรรษที่แผ่นดินตงง้วนภาคกลางของจีนเกิดสงครามและการจลาจลไม่หยุดหย่อน ราษฎรตกทุกข์ได้ยาก บางส่วนจึงอพยพหลบภัยลงใต้ ซึ่งหนึ่งในปลายทางของผู้อพยพเหล่านั้นคือดินแดนยูนนาน
ในยุคดังกล่าว ทางแถบตะวันออกเฉียงเหนือของยูนนาน ทะเลสาบเตียนสือ และต้าหลี่ เป่าซาน ชาวจีนอพยพมาตั้งถิ่นฐานจนขยายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ขึ้น ชนชั้นนำของคนกลุ่มนี้สร้างเสริมอิทธิพล และจัดตั้งกองทัพของตนเองเรียกว่า “ปู้ชวี่” จดหมายเหตุประวัติศาสตร์เรียกพวกเขาว่า “หนานจงต้าซิ่ง”หรือตระกูลใหญ่แถบหนานจง
ตระกูล (แซ่) สำคัญ ๆ ที่เป็นหนานจงต้าซิ่ง ได้แก่ หั้ว ยง เหมิ่ง (เบ้ง) ลิ (ลื่อ) คนในแซ่เหล่านี้ปรากฏนามในจดหมายเหตุสามก๊ก หรือ “ซานกว๋อจื้อ” และสามก๊กฉบับหลอกว้านจง ซึ่งประพันธ์ช่วงปลายราชวงศ์หยวนต่อราชวงศ์หมิง (คริสต์ศตวรรษที่ 14) เช่น ยงคี เจ้าเมืองเกียมเหลง ลิคี เจ้าเมืองเองเฉียง รวมถึงเบ้งเฮ็ก ราชาแห่งหมาน
คนเหล่านี้คือผู้นำ “คนเถื่อน” แดนใต้ ที่ขงเบ้งนำทัพไปปราบปราม ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คือชาวจีนที่อพยพลงมาก่อนหน้านั้น แต่เพราะต้องปกครองประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นคนพื้นถิ่น พวกเขาจึงใช้วัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นหลัก
ต่อมาในยุคราชวงศ์ถัง(ค.ศ. 618-907) ราชวงศ์ซ่ง(ค.ศ. 1960-1279) คนพื้นถิ่นในยูนนานตั้งตนเป็นอิสระในชื่อหนานเจ้า (น่านเจ้า) และต้าหลี่ตามลำดับ ช่วงนี้การโยกย้ายลงใต้ของชาวจีนลดลง แต่เพราะหนานเจ้ามักยกทัพตีเสฉวน แล้วกวาดต้อนผู้คนลงมายูนนาน ราชวงศ์ถังจึงส่งกองทัพไปตีหนานเจ้าหลายครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เชลยศึกชาวจีนและทหารหนีทัพจำนวนหนึ่งจึงมาอยู่อาศัยและเป็นกลายเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองในยูนนานไปด้วย
เชื่อได้ว่าชาวจีนที่ถูกกวาดต้อน กับบุคลากรในกองทัพที่แตกพ่าย ย่อมมีบัณฑิตปัญญาชนปะปนอยู่ด้วย คนเหล่านี้เองมีส่วนสำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมจีนในยูนนาน
เมื่อถึงราชวงศ์หยวน(ค.ศ. 1271-1368) ของชาวมองโกล ยูนนานก็ถูกผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร จักรวรรดิมองโกล มีการตั้งเขตการปกครองและส่งขุนนางจากส่วนกลางมาบริหารอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
แต่ยุคที่ยูนนานกลายเป็นจีนมากที่สุดคือในสมัยราชวงศ์หมิง(ค.ศ. 1368-1644) ปฐมจักรพรรดิจูหยวนจางส่งกองทัพ 300,000 นาย ลงมาปราบ “เหลียงหวาง” ผู้นำมองโกลในยูนนานเมื่อ ค.ศ. 1381 แม้ว่ากองทัพหมิงจะได้รับชัยชนะ แต่สงครามปราบปรามยิบย่อยกลับยืดเยื้อยาวนาน จนเสบียงอาหารไม่เพียงพอ จักรพรรดิจึงสั่งให้กระชับแนวรบ แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปทำนา อีกส่วนไปกะเกณฑ์ชาวนา และพานักโทษจากดินแดนอื่นส่งมาช่วยทำนาในยูนนาน จึงแก้ปัญหาเสบียงสนองกองทัพลงได้
7 ปีต่อมา ราชวงศ์หมิงก็ควบคุมดินแดนยูนนานได้อย่างสมบูรณ์
ก่อนราชวงศ์หมิง ไม่มีการทำสำมะโนประชากรในยูนนานอย่างจริงจัง จนเมื่อกองทัพหมิงพิชิตยูนนานได้ จึงมีหลักฐานว่า เมื่อ ค.ศ. 1393 ดินแดนนี้มี 59,536 ครัวเรือน เกณฑ์ไพร่ชายได้ 259,270 คน กระทั่ง ค.ศ. 1578 จำนวนครัวเรือนเพิ่มเป็น 135,560 ครัวเรือน กับไพร่ชายจำนวน 1,476,692 คน คือเพิ่มเป็น 5 เท่าในระยะเวลาไม่ถึง 2 ศตวรรษ
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวย่อมมาจากทั้งการเพิ่มตามธรรมชาติ ชนพื้นถิ่นเข้ามาสังกัดมากขึ้น และชาวจีนอพยพลงมาอยู่มากขึ้น ซึ่งนักวิชาการยูนนานเชื่อว่า ปริมาณพลเมืองชาวจีนมากขึ้นจนเป็นสัดส่วนมากกว่าชนพื้นถิ่นครั้งแรกเกิดขึ้นกลางสมัยราชวงศ์หมิงนี่เอง
ในช่วงปลายราชวงศ์หมิงต่อต้นราชวงศ์ชิง(ค.ศ. 1644-1912) จำนวนคนจีนในยูนนานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉพาะทหารจีนของขุนพลอู่ซานกุ้ยที่ถูกส่งมาปกครองยูนนานก็มีจำนวนหลายแสนคนแล้ว เมื่อรวมกับครอบครัวของทหารเหล่านี้ ย่อมมีคนจีนเข้ามาตั้งหลักแหล่งในยูนนานพร้อมคณะของแม่ทัพผู้นี้นับล้านคนเลยทีเดียว
ชาวจีนฮั่นจึงมีสัดส่วนจำนวนประชากรมากที่สุดในมณฑลยูนนาน ท่ามกลาง “ชนกลุ่มน้อย” ซึ่งก็คือคนดั้งเดิมอีกกว่า 25 ชนชาติ แต่สภาพสังคมโดยรวมของยูนนานกลายเป็นจีนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
อ่านเพิ่มเติม :
- “ยูนนาน” ที่มั่งคั่งด้วยทรัพย์ใต้ดิน เป้าหมายสำคัญของนักล่าเมืองขึ้น
- ขงเบ้ง “จับแล้วปล่อยเบ้งเฮ็ก 7 ครั้ง” เรื่องแต่งหรือเรื่องจริงในประวัติศาสตร์?
- คณะสำรวจแม่น้ำโขง ปี 1866-1868 กับภาพวาดสุดล้ำค่า
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ทองแถม นาถจำนง. เผ่าไท – อ้ายลาว : ชนชาติจีนในยูนนาน.นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2540.
เอมิล โรเชร์, ชูศรี สาธร แปล. (2505). ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 77 ประวัติศาสตร์ยูนนาน และทางไมตรีกับจีน.กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร. อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พันโทวินิต นิลศิริ ณ ฌาปนสถานกองทัพบก วัดโสมนัสวิหาร 8 พฤษภาคม 2505.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 กรกฎาคม 2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ยูนนาน” ไม่ได้เป็นจีนมาตั้งแต่แรก แล้วชาวจีน (ฮั่น) เข้ามาในยูนนานเมื่อไหร่ ยังไง?
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com