วิเคราะห์ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei 225 หยุดพักฐานหรือพร้อมทะยานต่อ?
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei 225 กำลังอยู่ในช่วงที่น่าจับตา หลังจากปรับตัวขึ้นแรงจนแตะระดับ All Time High ที่ประมาณ 43,800 จุด ก่อนที่จะมีการย่อตัวในระยะสั้น ทำให้เกิดคำถามว่า “ตลาดหุ้นญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงพักตัวหรือยังมีโอกาสไปต่อ?”
ภาพรวมตลาดและเงินเฟ้อ
การปรับตัวขึ้นของ Nikkei 225 ในช่วงที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นในข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ และการปฏิรูปภายในประเทศ
ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อในญี่ปุ่นยังคงสูงกว่า 3% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาหลายทศวรรษ ทำให้ดอกเบี้ยระยะยาวสูงกว่าดอกเบี้ยระยะสั้น โครงสร้างอัตราดอกเบี้ยจึงกลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รับอานิสงส์อย่างชัดเจน
แนวโน้มระยะสั้น
แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นแรง แต่ผลสำรวจของ Reuters ชี้ว่า Nikkei อาจปรับฐานลงมาอยู่ราว 42,000 จุด ภายในปลายปี โดยแรงขายอาจเกิดขึ้นหลังช่วง “Honeymoon Period” จากข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฎาคม ลดลง 2.6% ถือเป็นการลดลงหนักที่สุดในรอบกว่า 4 ปี และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์ที่ยังหดตัวต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกสูง
ปัจจัยหนุนสำคัญ
ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่นจาก 27% เหลือ 15% ช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันของบริษัทญี่ปุ่น
การปฏิรูปภายในประเทศ กดดันให้บริษัทปรับปรุง Corporate Governance, ซื้อหุ้นคืน และดำเนินการ Delist บริษัทที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
กำไรบริษัทแข็งแกร่ง ครึ่งปีแรกเติบโตดี และคาดว่าจะต่อเนื่องไปถึงครึ่งหลังของปี 2025
การจับจ่ายของผู้บริโภคฟื้นตัว จากค่าจ้างที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อค่อยๆ ลดลง คาดว่าจะต่ำกว่ากรอบ BOJ ใน 3 ไตรมาสข้างหน้า ลดแรงกดดันในการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ นักวิเคราะห์จึงได้ปรับมุมมองต่อหุ้นญี่ปุ่นเป็นบวก โดยเฉพาะกลุ่มการเงินและธนาคารที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น
ความเสี่ยงที่ต้องจับตา
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงมีความเสี่ยงหลายประการที่ต้องระวัง แม้ว่า GDP จะยังคงเติบโต แต่ก็เป็นไปอย่างช้า ๆ ในอัตราเพียง 0.xx%
นอกจากนี้ แรงหนุนจากข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ก็เริ่มอ่อนตัวลง และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาของข้อตกลงลดภาษีอีกด้วย
อีกหนึ่งความเสี่ยงที่สำคัญคือการพึ่งพาการส่งออกในระดับสูง ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีความเปราะบางต่อปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจโลก หรือสงครามการค้าระหว่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกได้โดยตรง
แม้จะมีความเสี่ยงจากตัวเลขการส่งออกที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนทางการค้า แต่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแรงจากการปฏิรูปภายในประเทศ กำไรบริษัท และการกลับมาของเงินเฟ้อ ส่งผลให้มุมมองต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาวยังคงเป็นบวก
มุมมองการลงทุนจาก Finnomena Funds
ญี่ปุ่นสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ ตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าญี่ปุ่นจาก 25% เหลือ 15% และลดภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่นลงจาก 25% เหลือ 15% ซึ่งสร้างความ Surprise เชิงบวกต่อตลาด
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นตกลงจะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเปิดตลาดให้สินค้าของสหรัฐฯ เข้าถึงมากขึ้น รวมถึงรถยนต์ รถบรรทุก ข้าว และสินค้าเกษตรบางประเภท
ด้านเงินเฟ้อญี่ปุ่นยังคงอยู่สูงเป้าหมายที่ระดับ 2% ส่งผลให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีท่าทีค่อยเป็นค่อยไปในการปรับขึ้นดอกเบี้ยและลดการทำ QE ทำให้ตลาดหุ้นไม่เกิดสภาวะ Panic จากปัจจัยดังกล่าว
อย่างไรก็ดี การขึ้นดอกเบี้ยเป็นประโยชน์กับหุ้นกลุ่มธนาคาร และส่งผลให้ประมาณการกำไรกลุ่มธนาคารถูกปรับขึ้น สำหรับความเสี่ยงเรื่อง Unwind Yen Carry Trade คลี่คลายลงแล้วเนื่องจากสถานะสุทธิ (Net Position) ของนักเก็งกำไรต่อค่าเงินเยนกลับมาเป็น Net Long แล้ว
โอกาสลงทุนกองทุนหุ้นญี่ปุ่น
กองทุน ASP-NGF ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Nippon Growth (UCITS) Fund บริหารโดยผู้จัดการกองทุนมากประสบการณ์กว่า 45 ปี เน้นลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นสไตล์ Value พร้อมสัดส่วนการลงทุนสูงในกลุ่ม Financials และ Trading Companies (สัดส่วนประมาณ 27.59% ณ 30 มิ.ย. 2025) ซึ่งคาดว่าจะได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของญี่ปุ่น
อ้างอิง: Reuters
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299