สูตร 3 P 'Hewitt Consulting' สู่ความสำเร็จ บริษัทที่ปรึกษาสร้างความยั่งยืน
โลกที่ทุกอย่างแตกต่างไปจากเดิมทั้งในแง่ของภาวะเศรษฐกิจและสงคราม เป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนและมีหลายมิติที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คน สังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างมาก ยิ่งการเข้ามาของเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติกำลังเข้ามาแทนที่แรงงานคนในหลายภาคส่วน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน บางอาชีพอาจสูญหายไป ในขณะที่บางอาชีพอาจเกิดขึ้นใหม่ “ภาคเอกชน บริษัท และองค์กรต่างๆ” ต้องปรับตัวเพื่อพัฒนาองค์กรให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงการยกระดับศักยภาพ เพิ่มเติมทักษะสมรรถนะใหม่ๆ ให้แก่พนักงานทุกคน
“Hewitt Consulting (ฮิววิท คอนซัลติ้ง)” บริษัทที่ปรึกษาที่ก่อตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี โดยมีเป้าหมายในการช่วยองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้มีผลประกอบการที่โดดเด่นและยั่งยืน
โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงเป้าหมาย (Purpose) ขององค์กรเข้ากับ บุคลากร(People) และประสิทธิภาพ (Performance) ด้วยความเชื่อว่าความเข้าใจในเป้าหมายขององค์กรจะนำไปสู่การพัฒนาบุคลากรและการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
Sasin School of Management ร่วมกับ Hewitt Consulting จัดงาน CPO Forum 2025
เกษียณวัย 45 ปี บรรทัดฐานทำงาน คนรุ่นใหม่ เลิกคิด Work Life Balance
เป้าหมาย Outperform Sustainably
“ปิยบุตร จารุเพ็ญ” Managing Partner and Director บริษัท Hewitt Consulting (ฮิววิท คอนซัลติ้ง) จำกัด ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า Hewitt Consulting เป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยองค์กรชั้นนำในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งดำเนินการมาแล้วกว่า 20 ปี แต่ได้มีการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจ โดยตนเองได้เข้ามามีส่วนร่วมกับบริษัท และมีทีมงานประมาณ 10 คน
โดยมีวัฒนธรรมองค์กร ที่ส่งเสริมการทำงานแบบทีม การสร้างผลกระทบเชิงบวก และความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและเทคโนโลยีที่รวดเร็วในปัจจุบัน
“ในยุคที่ธุรกิจและตลาดแรงงานเผชิญกับความท้าทายที่เกิดขึ้น ซึ่งการจะทำให้องค์กรอยู่รอดได้นั้น จะต้องมุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นอย่างยั่งยืนผ่านการเชื่อมโยง 3 P ได้แก่ วัตถุประสงค์ (Purpose) คน (People) และประสิทธิภาพ (Performance) เพื่อเป้าหมาย “Outperform Sustainably” โดยบริษัทมุ่งมั่นที่จะช่วยให้องค์กรลูกค้าจะต้องมีผลประกอบการทางธุรกิจที่ไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ต้องเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนร่วมด้วย”
มองปัญหาเป็นโอกาส สร้างคุณค่าทุกภาคส่วน
ปิยบุตร กล่าวต่อว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และวิกฤตความขัดแย้งคาดเดาได้ยากว่าจะฟื้นกลับมาดีขึ้นได้เมื่อใด แต่ Hewitt Consulting เชื่อว่าการมีทิศทางองค์กรที่ชัดเจน และทำให้ คนในองค์กรมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ จะช่วยให้องค์กรขับเคลื่อนต่อไปได้ และสามารถเปลี่ยนปัญหาที่เกิดขึ้นรายวันให้เป็นโอกาสได้
“การมองปัญหาเป็นโอกาสจะทำให้องค์กรเหล่านั้นเปลี่ยนปัญหา และไม่กลัวปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะเน้นการใช้ทรัพยากรที่มีและสติปัญญาของทุกคนในองค์กรช่วยกันแก้ปัญหา เพื่อผลลัพธ์ที่ไม่ใช่หมายถึงผลกำไรขององค์กร แต่ต้องสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า การเติบโตของพนักงาน และประโยชน์ต่อสังคม ด้วย เพื่อให้ทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเติบโตไปพร้อมกัน”
“SHINE" หลักวัฒนธรรมองค์กร
“นภัส ศิริวรางกูร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท Hewitt Consulting (ฮิววิท คอนซัลติ้ง) จำกัด กล่าวเสริมว่าก่อนที่องค์กรจะไปเป็นที่ปรึกษาให้แก่บริษัทอื่นๆ ภายในองค์กรจะต้องมีการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร และการบริหารคนที่เข้มแข็ง ซึ่งองค์กรมีการกำหนด “SHINE” (ชาย) เป็นหลักในการบริหารจัดการองค์กร ประกอบด้วย
S (Superhero Spirit) : พนักงานแต่ละคนมีความสามารถและประสบการณ์ที่แตกต่าง แต่รวมตัวกันเป็นทีมที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คือการช่วยเหลือลูกค้าให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
I (Impact) : การทำงานต้องสร้างผลกระทบที่จับต้องได้
N (Nimble) : มีความคล่องแคล่วว่องไวในการทำงาน การตอบสนอง และดูแลลูกค้า
E (Energy and Enjoy) : ส่งเสริมพลังงาน การเรียนรู้ และความสนุกสนานในการทำงาน โดยทุกคนเป็น “energy multiplier” ให้กันและกัน
“Hewitt Consulting มีการจัดทำโครงการ “One Hundred Outperforming Enterprise” ซึ่งศึกษาองค์กรชั้นนำ 100 แห่งในประเทศไทยและภูมิภาคทุกปี เพื่อรวบรวม แนวคิดและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ที่สามารถนำมากลั่นกรองเป็นข้อมูลและแนวทางให้แก่องค์กรอื่นๆ ได้”
โดยช่วยองค์กร “OutPerform” อย่างยั่งยืนใน 4 ด้านสำคัญได้แก่ Leadership Solution เสริมสร้างผู้นำแห่งอนาคตที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงCulture Solution ปรับปรุงและพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรให้ทันสมัย และสอดคล้องกับความต้องการในยุคปัจจุบัน Employee Experience Solution ออกแบบประสบการณ์พนักงานให้มีความหมาย พร้อมใช้ Generative AI วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และHR Advisory Solution ให้คำปรึกษาครอบคลุมด้านโครงสร้าง การวัดผลการปฏิบัติงานและการบริหารคนเชิงกลยุทธ์
สร้าง Ecosystem เปิดพื้นที่ให้พนักงาน
“ปกรณ์ ประยูรสวัสดิ์เดช” Managing Partner and Director บริษัท Hewitt Consulting (ฮิววิท คอนซัลติ้ง) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า องค์กรมีความเชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมของพนักงาน (People Engagement) กับประสบการณ์ของผู้บริหารที่เคยทำมาก่อน จะต้องทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเดียวกัน ผู้บริหารต้องให้พนักงานเข้ามาส่วนร่วม และต้องสร้าง Ecosystem ในการเปลี่ยนแปลงองค์กร บริษัทต้องมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็น “Ecosystem for Transformation Journey driven by Humanity” โดยมุ่งเน้นการขยายขอบเขตการใช้ AI และเทคโนโลยีเพื่อช่วยองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“องค์กรต้องเปิดพื้นที่ให้พนักงานแสดงความคิดเห็น ไอเดีย และความกล้าได้อย่างปลอดภัย สนับสนุนความฝันและความหวังของคนรุ่นใหม่ ซึ่งพนักงานใหม่โดยเฉพาะที่ปรึกษารุ่นเยาว์ จะได้รับการพัฒนาและเรียนรู้ประสบการณ์อย่างเข้มข้น โดยการทำงาน 1 ปีที่ Hewitt Consulting จะเท่ากับการทำงานที่อื่น 3 ปี เพราะในการทำงานต้องพบเจอ CEO และมีโปรเจกต์หลากหลาย และคนรุ่นใหม่เองต้องเพิ่มเติมประสบการณ์และสร้างการเรียนรู้ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพราะนี่คือ “ต้นทุน” ที่สำคัญที่จะทำให้องค์กรต่างๆ เห็นคุณค่า และมีทัศนคติที่ดีและเปิดรับ Feedback เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง”
ลดช่องว่างคนแต่ละเจน
ปิยบุตร กล่าวทิ้งท้ายว่า แต่ละองค์กรมีผู้คนหลากหลาย ซึ่งโลกของการทำงานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และคนต้องทำงานร่วมกับเทคโนโลยี ดังนั้น องค์กรควรใช้ประโยชน์จากความแตกต่างหลากหลายของคนแต่ละเจเนอเรชันมารวมกัน เพื่อช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
เช่น Gen X กลุ่มผู้บริหารที่ต้องนำประสบการณ์และภูมิปัญญามาใช้ บูรณาการเข้ากับกลุ่มคน GenY หัวหน้างาน หรือพนักงานระดับกลางที่มีความกระตือรือร้น สามารถสร้างผลงานและบริหารโครงการต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกับ Gen Z เด็กรุ่นใหม่ ซึ่งพวกเขาเข้าใจเทคโนโลยี โลกปัจจุบัน มีไอเดีย มุมมองใหม่ๆ เป็นต้น
“ในการทำงานปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ได้ Hewitt Consulting มีเครื่องมือที่จะช่วยพนักงานขององค์กรในการทำงานเป็นทีมที่ปรึกษา โดยมีการใช้ Global Frameworks, Proven Methodology ที่ช่วยให้คนแต่ละ Genทำงานร่วมกันได้อย่างมืออาชีพ ผู้นำในยุคนี้จะแตกต่างจากยุคอื่นๆ ต้องเข้าใจ เปิดใจ รับฟัง และเป็นพื้นที่ให้กับความหลากหลายของคนทำงาน พร้อมดึงศักยภาพของคนทำงานออกมาให้ได้มากที่สุด”