โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

อภิปรายงบ 69 วาระ 2-3 “ศิริกัญญา” ชงตัดงบ 5 หมื่นล้าน รองรับวิกฤต

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันนี้ (13 สิงหาคม 2568) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (วาระที่ 2-3) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายสงวนความเห็นในมาตรา 4 ภาพรวม โดยขอให้มีการปรับลดงบประมาณลง 5 หมื่นล้านบาท

โดยระบุว่าเนื่องจากปัจจุบันประเทศมีความจำเป็นต้องเก็บงบประมาณไว้ใช้ในยามจำเป็น จากวิกฤตที่จะเกิดจากสงครามการค้า ที่ทำให้การคลังของประเทศกำลังตกในภาวะ 3 เสี่ยง คือความเสี่ยงด้านรายได้ รายจ่าย และหนี้สาธารณะ

ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจที่ประเมินโดยสภาพัฒน์ฯ ประมาณการจีดีพีปี 2569 จากเดิม 2.8% ล่าสุดคาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียง 1.6% เท่านั้น

ส่วนของความเสี่ยงด้านรายได้ จากการประมาณการรายได้ปี 2569 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ทุกจีดีพีที่เป็นราคาประจำปีลดลง จะทำให้รายได้จัดเก็บได้ลดลง 0.85%

ดังนั้นถ้าจีดีพีลดลง 1.7% ก็จะทำให้รายได้รัฐบาลจัดเก็บได้ลดลง 1.45% แต่สงครามการค้าส่งผลต่อจีดีพีทั่วโลก ไม่ได้ส่งผลแค่ประเทศไทยเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ไทยจัดเก็บรายได้ได้ลดลง ก็คือราคาน้ำมันที่จะปรับลดลง มีการประมาณการว่าราคาน้ำมันดิบโลกในปี 2569 จะอยู่ที่ 60-68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากที่เคยประมาณการไว้ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้รายได้ที่รัฐจะจัดเก็บได้จากภาษีเงินได้ปิโตรเลียมและภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าน้ำมันลดลงประมาณ 0.7% เช่นเดียวกัน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แค่สองปัจจัยนี้น่าจะทำให้รัฐจัดเก็บรายได้พลาดเป้าอาจจะถึงเกือบ 64,000 ล้านบาทแล้ว ขณะเดียวกันเรื่องเดิมที่เป็นปัญหาในการจัดเก็บรายได้ของประเทศไทยก็ยังคงอยู่ นั่นคือการจัดเก็บภาษีได้ประมาณ 15% ของจีดีพี ซึ่งต่ำกว่าหลายประเทศในกลุ่มเดียวกัน

แต่ในท้ายที่สุดมีรายได้พิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการให้ ปตท. ปันผลก่อนเวลาอันควร การให้กองทุนวายุภักษ์ปันผลเพิ่มเติม และกองสลากที่มีรายได้เพิ่มเติมและปันผลได้เพิ่ม ทำให้ในปี 2567 รายได้จากรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้นถึง 25.4% และทำให้รัฐสามารถปิดหีบได้

ส่วนในปี 2568 สถานการณ์ยังคงมีแนวโน้มจัดเก็บภาษีตกเป้าเหมือนเดิม เฉพาะ 9 เดือนแรกตกเป้าไปแล้ว 68,000 ล้านบาท ทั้งจากกรมสรรพสามิตที่จัดเก็บภาษีรถยนต์ น้ำมัน และยาสูบไม่ได้ตามเป้า และกรมสรรพากรที่จัดเก็บภาษีเงินได้ได้ลดลง ไม่แน่ใจว่าปีนี้จะมีรัฐวิสาหกิจใดมาช่วยปิดหีบให้หรือไม่

แต่ในปี 2569 กำลังจะมีปัญหาใหม่มาขณะที่ปัญหาเดิมยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้จะมีแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีที่จะประกาศในเดือนกันยายน แต่การจัดเก็บภาษีรถยนต์ก็ยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง และการจัดเก็บภาษียาสูบที่มีการเปลี่ยนอัตราใหม่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจัดเก็บได้เหมือนเดิม

ขณะที่ความเสี่ยงด้านรายจ่าย โดยระบุว่าเมื่อประเทศกำลังต้องเจอกับวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐจำเป็นต้องมีงบประมาณในการพยุง ฟื้นฟู และกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รัฐกลับไม่ได้มีการเตรียมการเอาไว้เลย ไม่ว่าจะเป็นงบกลางรายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังอยู่ที่ 25,000 ล้านบาทเท่าเดิม ไม่มีการแปรญัตติเพิ่มเข้ามา ทั้งที่ในปี 2568 ที่ไม่มีวิกฤตมีงบกลางเกือบ 200,000 ล้านบาท

โดยกองทุน FTA ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรก็ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเลยและไม่มีการแปรญัตติเพิ่ม ขณะที่กองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้งบประมาณเพิ่มแค่ 5 ล้านบาท รวมเป็น 800 ล้านบาท ซึ่งแทบจะทำอะไรไม่ได้ในช่วงวิกฤต

ส่วนความเสี่ยงด้านหนี้สาธารณะ ที่กำลังจะชนเพดานแล้ว ณ เดือนมิถุนายน 2568 หนี้สาธารณะต่อจีดีพีอาจจะอยู่ที่ 64% แต่สิ้นปีงบประมาณ 2568 หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะไปอยู่ที่ 66% สิ้นปี 2569 ถ้ากู้ตามที่ได้วางแผนไว้ หนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็จะขึ้นไปถึง 69%

จึงเป็นเหตุผลที่จะต้องมีการประหยัดงบประมาณในส่วนนี้เพื่อไปสมทบในส่วนหน้า แน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการขยายเพดานหนี้สาธารณะให้เกิน 70% ของจีดีพี และอาจต้องมีการออก พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก. เงินกู้เพื่อมาพยุงเศรษฐกิจในปี 2569

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าดูจากยอดปรับลดงบประมาณของปี 2569 ก็จะพบว่าไม่มีการเกลี่ยงบประมาณใหม่ไปใช้ในสิ่งที่ถูกที่ควรเลย การพิจารณาทั้งสองเดือนที่ผ่านมาปรับลดงบประมาณลงไปได้เพียง 8,921 ล้านบาท แล้วยังถูกนำไปเกลี่ยให้งบประมาณที่ควรต้องมีการขอมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้หนี้ให้รถไฟฟ้าสายสีส้ม การจัดการประชุมของธนาคารโลกและไอเอ็มเอ็ฟ

รวมถึงการคืนหนี้ให้กองทุนประกันสังคม ยอดปรับลดงบประมาณของปี 2569 ไม่ได้สะท้อนว่าประเทศมีวิกฤตรออยู่ ถ้าการจัดงบประมาณในครั้งนี้ยังไม่ได้ตอบโจทย์ช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากสงครามการค้าได้ ก็จำเป็นที่จะต้องปรับลดงบประมาณในครั้งนี้เพื่อเก็บพื้นที่ทางการคลังเอาไว้ใช้เมื่อเกิดวิกฤตจริงต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

กรมบัญชีกลางเผยเบิกงบลงทุนปี 68 ต่ำเป้า ห่วงกระทรวงใหญ่ ใช้ไม่ทัน

12 นาทีที่แล้ว

พอร์ตที่ปรับทันโลก ตอนที่ 5 : ยุคที่ "การเลือกข้าง" อาจสำคัญกว่า "การเลือกหุ้น"

29 นาทีที่แล้ว

วันหยุดราชการ วันหยุดธนาคารเดือนกันยายน -ธันวาคม 2568 เช็กวันหยุดที่นี่

40 นาทีที่แล้ว

อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ระดับ 1.50% ติดกลุ่มต่ำสุดในโลก

48 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

กรมบัญชีกลางเผยเบิกงบลงทุนปี 68 ต่ำเป้า ห่วงกระทรวงใหญ่ ใช้ไม่ทัน

ฐานเศรษฐกิจ

ชาวเขมรโวย ทหารไทยตั้งรั้วลวดหนามปิดชายแดน อ.โคกสูง วอนขอให้เปิดทาง

สยามนิวส์

ปูพรมตรวจเงินวัดเขย่าคณะสงฆ์ บางพื้นที่พระทยอยลาออก

Thai PBS

อส.บ้านแพงช่วยชีวิต หนุ่มหลอนยาจี้คอตัวเอง ยอมเข้าบำบัด

77kaoded

ศบ.ทก.เตรียมนำผู้ช่วยลงอุบลฯ บอกยังพบการลักลอบวางทุ่นระเบิด

THE ROOM 44 CHANNEL

ล่าสุด! กองทัพภาค 2 แจ้งปิดรับการสนับสนุน ’ลวดหนามหีบเพลง‘ เผย ได้รับเพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้ว พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วน

สวพ.FM91

บอร์ด สปส.เคาะกรอบงบบริหาร สนง.ประกันสังคมปี 69 กว่า 5,180 ล้านบาท

Thai PBS

ชัดเจนนะ! หมอบี พูดแล้ว สาเหตุไม่โอนเงินเข้าบัญชี หลวงพ่ออลงกต

สยามนิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...