T-POP RISING ในวันที่ทีป๊อปกำลัง Rise ในหมู่คนฟังเพลงไทย
It's T-POP Time! ถึงเวลาของทีป๊อปแล้ว
ตั้งแต่ปี 2563 นับจนวันนี้ก็เป็นเกือบ 5 ปีแล้วที่เพลง T-POP กลับมาป๊อปปูลาร์ โดยเฉพาะกระแสเกิร์ลกรุ๊ปและบอยแบนด์สัญชาติไทยที่ห่างหายกันไปนานตั้งแต่ยุคค่าย kəmikəze ซึ่งเคยประสบความสำเร็จเมื่อประมาณ 17 ปีที่แล้ว การกลับมาของกระแสไทยป๊อปที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญในวินาทีนี้จึงทั้งน่าสนใจและน่าตื่นเต้นสำหรับคนฟังเพลงไทยหลายๆ คน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพลงทีป๊อปมีความสนุกสนาน ย่อยง่าย และบางครั้งก็หยิบเอาวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยมาทำเพลงได้อย่างกลมกล่อม และไม่ว่าเราจะรู้จักวงทีป๊อปแห่งยุคสมัยวงไหนก็ตาม ทั้ง 4EVE, PROXIE, PiXXiE, BUS because of you i shine, PERSES, Atlas, พีพี บิวกิ้น, Serious Bacon หรือศิลปินอย่าง Milli กับเพื่อนๆ DREAMGALS และอื่นๆ อีกมากมาย ไอดอลและศิลปินเหล่านี้ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสีสันในซีนทีป๊อปที่กำลังคึกคักในอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศไทย ซึ่งไม่ได้เป็นเทรนด์แค่ในประเทศ แต่ยังได้รับความนิยมในหมู่เพื่อนบ้านอาเซียนด้วย
บริษัท มายด์แชร์เผยว่า ช่วงปี 2020-2023 บนแพลตฟอร์ม TikTok แฮชแท็ก #T-Pop เติบโตขึ้นถึง 3 เท่า โดยมีการใช้งานในระดับ Global 2,000 ล้านครั้ง และเป็นของไทยไปแล้ว 1,000 ล้านครั้ง จากกลุ่มยูสเซอร์ช่วงวัย 18-24 ปี จำนวน 56 เปอร์เซ็นต์ ช่วง 25-34 ปี จำนวน 31เปอร์เซ็นต์ และอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 13 เปอร์เซ็นต์
T-POP NOW เมื่อคนไทยและคนต่างชาติหันมาเลิฟทีป๊อป
หลักฐานหนึ่งของความนิยมในทีป๊อปก็คือ ความฮิตของแรนดอมแดนซ์ ที่เกิดขึ้นในย่านสยามสแควร์ ซึ่งในปี 2565 ทางสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ได้เปิดพื้นที่วอล์กกิ้งสตรีทใจกลางเมืองให้วัยรุ่นได้เข้ามาออกสเต็ปแดนซ์โชว์สาธารณะ จนภาพของกิจกรรมเหล่านี้ถูกแชร์แพร่หลายบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะบนติ๊กต็อกและอินสตาแกรม ซึ่งนอกจากเพลงเคป๊อปที่ถูกเปิดอยู่บ่อยครั้ง พักหลังๆ เพลงทีป๊อปก็เข้ามาช่วงชิงพื้นที่กับเขาด้วยเช่นกัน
ปัจจัยจากกระแสทีป๊อปที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดรายการเพลงอย่าง T-POP Stage ที่ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ในปี 2564 จนการมาถึงของ Thailand Music Countdown รายการที่ซื้อลิขสิทธิ์จากประเทศเกาหลีใต้ในปี 2567 ซึ่งเปิดโอกาสให้คนฟังโหวตเพื่อศิลปินที่ตัวเองเชียร์ เช่น ที-ป๊อปวีกลีชาร์ต ของ T-POP Stage และ Spotify T-Pop Now Hottest of the Month ของ Thailand Music Countdown ซึ่งแต่ละเวทีต่างมีกลไกการนับคะแนนเป็นของตัวเอง
จากรายงานของ NIKKEI Asia ชี้ว่าทีป๊อปกำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่คนไทยอีกครั้ง จากการที่สถิติส่วนแบ่งของเพลงที่ผลิตในประเทศกำลังเติบโตขึ้นในตลาดเพลงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยแรงส่งจากความก้าวหน้าทางดิจิทัลที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตและการจัดจำหน่าย นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางที่กำลังซื้อสูงขึ้น ซึ่งผนวกกับการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่แพร่หลายในการเผยแพร่เพลงท้องถิ่น จึงกระตุ้นให้แนวโน้มนี้เติบโตรวดเร็วขึ้นไปอีก
โดยภาพรวม คนไทยมีแนวโน้มการฟังเพลงจากต่างประเทศน้อยลง และหันมาฟังเพลงโลคัลอย่างทีป๊อปเพิ่มมากขึ้น เช่น วง 4EVE และ Proxie ที่มีการจัดอีเวนต์และคอนเสิร์ตภายในประเทศ โดยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของศิลปินทีป๊อปก็คือ ความใกล้ชิดเข้าถึงง่ายระหว่างแฟนเพลงและศิลปิน ศิลปินทีป๊อปไทยแบ่งปันเรื่องราวชีวิตประจำวันบนโซเชียลมีเดียสม่ำเสมอ ด้วยความที่ไอดอลเป็นกันเอง มีความเป็นมนุษย์สูง และมีอิสระในการแสดงออกอย่างหลากหลายนี้เอง ที่ยิ่งทำให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดและสนิทสนมกับไอดอลที่พวกเขารักมากยิ่งขึ้น
สอดคล้องกับที่สำนักข่าว The Nation บอกว่าแพลตฟอร์มอย่าง Instagram เป็นพื้นที่ฮิตสำหรับศิลปินที่ใช้มันแบ่งปันเบื้องหลัง การแสดงสด และแชร์มิวสิกวิดีโอกับผู้ติดตาม Instagram Live หรือ รูปแบบวิดีโอสั้นๆ ของ TikTok ที่ขับเคลื่อนเพลงให้ประสบความสำเร็จในระดับไวรัล จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังสำหรับการค้นพบและโปรโมทเพลงในหมู่ผู้ใช้งานรุ่นใหม่ๆ
ความนิยมของเพลงฮิตเพลงเดียวยังสามารถแพร่กระจายไปต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเพลงไทยจะยังไม่แพร่หลายในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป แต่เพลงเหล่านี้มักถูกสตรีมในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย รวมถึงประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกากลางและอเมริกาใต้ด้วย โดยเฉพาะการตอบรับเพลงไทยเป็นอย่างดีในประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม อย่างไรก็ดี NIKKEI Asia บอกว่ายุคทองของเพลงป๊อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
แม้ว่าทีป๊อปของประเทศไทยจะยังขาดข้อมูลทางสถิติอื่นๆ ที่จะช่วยยืนยันกระแสนิยมได้แบบ K-POP ในประเทศเกาหลีที่มีทั้งการบันทึกยอดขายอัลบั้ม ยอดขายบัตรคอนเสิร์ต ยอดอีเวนต์ มูลค่าของวงกับไอดอลแต่ละคนในเชิงการตลาด รวมไปถึงชาร์ตเพลงหลักในประเทศที่มีคนสตรีมจำนวนมาก แต่จากรายงาน สถิติ และเทรนด์เท่าที่มีก็ทำให้เราพอมองเห็นได้ส่วนหนึ่งว่าเพลงไทยรุ่นใหม่กำลังป๊อปปูลาร์ขึ้นมา และหากภาครัฐและเอกชนจับมือกันพัฒนาอย่างเป็นระบบ อุตสาหกรรมทีป๊อปไทยก็จะไปต่อได้อีกยาวๆ
ต่อจากนี้ก็คือเพลย์ลิสต์คัดสรรจากไทยรัฐพลัสที่จะช่วยแนะนำวงทีป๊อปต่างๆ และช่วยสะท้อนหมุดหมายว่าเพลงทีป๊อปกำลังเติบโตในหมู่คนฟังเพลงไทยในพ.ศ.นี้
4EVE
Snooze เพลงป๊อปเซ็กซี่ที่ได้โปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัล Grammy มาทำเพลง
เกิร์ลกรุ๊ปหญิง 7 คนที่เดบิวต์ในปี 2563 ตั้งแต่มายด์, โจริญ, ตาออม, แฮนน่า, ฝ้าย, พั้นช์ และอ๊ะอาย พวกเธอมาจากรายการ 4EVE Girl Group Star และถือเป็นศิลปินกลุ่มแรกของค่าย XOXO Entertainment และน่าจะเป็นไอดอลหญิงกลุ่มแรกๆ ของไทยในรอบไม่กี่ปีนี้ที่มาจากการแข่งขันเฟ้นหาเกิร์ลกรุ๊ปอันเข้มข้น ซึ่งจนถึงตอนนี้ วงก็ยังยืนระยะความนิยมได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน
4EVE ขึ้นชื่อเรื่องเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่แข็งแรง พวกเธอมักมาพร้อมเพลงที่สนุกสดใสไม่ซ้ำรูปแบบ ซึ่งสะท้อนผ่านภาพลักษณ์ที่หวือหวาและแหวกแนว โดยแก่นของดนตรี 4EVE ก็คือเพลงป๊อปเมโลดี้ติดหูง่าย ฟังสบาย ขณะที่ก็มีแดนซ์ป๊อป EDM ให้ออกจังหวะเต้นตาม รวมไปถึงดนตรีฮิปฮอปในท่อนแร็ป และบีทฮิปฮอปที่สอดแทรกในหลายๆ เพลง ทำให้เพลงของพวกเธอจัดจ้านและทรงพลังขึ้น รวมไปถึงไฮเปอร์ป๊อปในบางซิงเกิลอย่าง LIKE YOU ที่โดดเด่นด้วยซาวด์เร้าใจเปี่ยมพลัง ซึ่งอยู่ใน GLOW อีพีล่าสุด โดยมี 5 แทร็กภาษาอังกฤษล้วนที่สร้างสีสันแห่งปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้ทั้ง 7 สาว
ที่น่าตื่นเต้นก็คืออีพีนี้เป็นงานเพลงที่ได้ Brian Kennedy โปรดิวเซอร์ระดับโลกเจ้าของรางวัล GRAMMY ซึ่งเคยร่วมงานกับศิลปินดังอย่าง Rihanna, Jennifer Hudson, Backstreet Boys มาเป็นโปรดิวเซอร์หลักที่สร้างสรรค์อัลบัมนี้ รวมไปถึง Rob Persaud โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงชาวอังกฤษเจ้าของ Platinum Award ที่เคยมิกซ์และเขียนเพลงให้ศิลปินดังๆ อย่าง Lady Gaga, Sabrina Carpenter และอื่นๆ อีกมากมาย
แถมเมื่อไม่นานนี้ 4EVE เพิ่งไปแสดงสดที่ Head in the Clouds Festival ของ 88rising ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงที่ก้าวไปสู่ระดับอินเตอร์เนชันแนล แล้วถ้าใครได้ดูเพอร์ฟอร์มของสาวๆ ก็จะเห็นว่าพวกเธอยังคงเอกลักษณ์การแสดงสดได้อย่างแข็งแรง ในบรรดา 5 เพลงของอีพีล่าสุด เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองฟังเพลง Snooze เพลงป๊อปสุดเซ็กซี่สไตล์ Trap R&B ฟังสบายกับท่อนร้องป๊อปๆ ที่ร้องว่า ‘love isn’t fair, i’m not giving my heart away, you snooze you lose’ กับความหมายที่ว่า ความรักไม่มีคำว่าแฟร์หรอกนะ หัวใจฉันจะไม่ยกให้ใครง่ายๆ อีกแล้ว ใครลังเลก็คือพลาด นอกจากเนื้อหายั่วเย้า เราจะได้เห็นภาพลักษณ์ใหม่ของสมาชิกวง เช่น คอสตูมเซ็กซี่ดูพลิ้วไหวบางเบา และที่สำคัญคุณจะได้เห็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ เพราะเพลงนี้แฮนน่ามาในลุคผมดำ!
PROXIE
Bad Shawty เพลงโจ๊ะไทยที่หยิบเอาวัฒนธรรมรถแห่มาเล่าใหม่ในแบบทีป๊อป
บอยกรุ๊ปกลุ่มแรกจากค่ายเพลง bROTHERS Music ของพระเอกดัง ‘ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี’ ซึ่งประกอบไปด้วย 6 หนุ่ม ได้แก่ กัน, คิม,โชกุน, กร, อองรี และวิคเตอร์ พวกเขาเป็นผลผลิตของรายการเซอร์ไววัล The BROTHERs Thailand (2563) ถ้าใครเคยได้ดูรายการนี้ก็จะเห็นได้เลยว่าการแข่งขันนั้นเข้มข้นมาก เพราะมันมาในคอนเซปต์ของการสร้างสุภาพบุรุษ ทุกคนต้องผ่านด่านอันโหดหิน ทั้งการเทรนทักษะด้านการร้อง การเต้น การแสดง การเล่นดนตรี รวมไปถึงบุคลิกภาพ การวางตัว การพูดจา และมารยาททางสังคม โดยมีพี่เลี้ยงหรือ BROACH (Bro+Coach) ระดับต้นๆ ของวงการบันเทิงไทยอย่าง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, มาริโอ้ เมาเร่อ และ นิชคุณ หรเวชกุล วง 2PM มาร่วมเป็นผู้คัดเลือกและให้คำแนะนำกับผู้ร่วมรายการ จากผู้เข้าแข่งขันหลักหลายพันคน จนคัดเหลือหลักสิบที่เข้ามาแข่งขันกันในรายการ
จนกระทั่งกลายเป็น PROXIE ที่เดบิวต์สมาชิกหกหนุ่มในปี 2565 ในที่สุด ซึ่งในปี 2566 วงก็ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกอย่าง Data Storage และหลังจากนั้นก็ได้ออกซิงเกิลและอัลบั้มใหม่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ช่วงแรกๆ ของการเปิดตัวเพลงของ PROXIE นั้นล้วนเป็นเพลงของหนุ่มคลั่งรัก ไม่ว่าจะเป็น ‘Crazy Love (รักบ้าบอ)’ ที่เนื้อหาสื่อสารความคลั่งรักกันแบบตะโกน และ ‘คนไม่คุย (Silent Mode)’ ที่เป็นคนคลั่งรักแต่กลับพูดไม่เก่ง ทว่าเน้นแสดงออกผ่านการกระทำ โดยเพลงแนวซินธ์ป๊อป (Synth-pop) เพลงหลังนี้เองที่กลายเป็นแทร็กแจ้งเกิดให้กับวงได้อย่างสวยงาม
PROXIE เป็นหนึ่งในวงบอยแบนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องนิสัยความขี้เล่น และเป็นกันเองของศิลปิน รวมไปถึงพัฒนาการทางความสามารถที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างชัดเจน ทั้งนี้มีการกล่าวขวัญกันในหมู่ผู้ชมที่กล่าวกันว่าพวกเขาแสดงสดได้อย่างทรงพลัง ทั้งการร้องและการเต้นที่จัดเต็มตลอดโชว์ในทุกๆ เวที
ที่สำคัญ เมื่อปีที่แล้ว PROXIE ปล่อยเพลงป๊อปอาร์แอนด์บีอย่าง Traffic ที่พวกเขาได้ทำงานร่วมกับทีมงานและบริษัทระดับโกลบอลอย่าง THEBLACKSEA และ Danny Chung นักแต่งเพลงที่ทำเพลงให้ เช่น วง BLACKPINK, 2NE1 และ JEON SOMI พร้อมครีเอทีฟชั้นนำอย่าง David ‘Yungin’ Kim ศิลปินที่ได้รับรางวัลแกรมมี่ถึงสามครั้ง ร่วมด้วย Lando Wilkins นักออกแบบท่าเต้นที่เคยสร้างสรรค์ท่าเต้นให้กับวง BTS, BIG BANG และ JAY PARK รวมไปถึง T.CHO ผู้กำกับภาพ และการจัดวางต่างๆ ที่ได้ Dover Street Market มาสร้างความแปลกใหม่ทางแฟชั่นและสไตล์ลิ่งของวง
นอกจากนี้ ยังมีโปรเจกต์โซโลของ PROXIE ที่ทางค่าย bROTHERS Music ได้ทยอยปล่อยเพลงโซโลของสมาชิกออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ‘User’ (ชื่อแฟนคลับของ PROXIE) ได้ฟังเพลงในสไตล์ที่หลากหลายมากขึ้นตามความถนัดและความชอบของสมาชิกแต่ละคน และน่าจะเป็นวงแรกๆ ในเจเนอเรชันนี้ที่มีการทำเพลงเดี่ยวให้สมาชิกแต่ละคนได้ปล่อยของ และเอาใจเมนของแต่ละคนได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนแทร็กที่เราอยากแนะนำมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ‘Bad Shawty’ เพลงไทยแดนซ์สุดโจ๊ะและจัดจ้านที่สร้างสรรค์มาเพื่อต้อนรับวันสงกรานต์ปี 2568 โดยได้ ‘กอล์ฟ F.HERO’ มารับหน้าที่ Executive Producer ช่วยขับเน้นคาแรกเตอร์ความแสบซ่าของวงให้โดดเด่นขึ้นมา เอกลักษณ์ของแทร็กนี้คือการหยิบเอาวัฒนธรรมเพลงตื๊ดรถแห่ ซึ่งมิกซ์กันแบบไทยๆ มาเล่าในพื้นที่ของไอดอลทีป๊อป จึงทำให้เพลงนี้แปลกใหม่ ทว่าย่อยง่ายและยิ่งเข้าถึงใจคนฟังเพลงระดับแมส ซึ่งองค์ประกอบของเพลงนี้ไม่ได้หยิบความไทยป๊อปที่อยู่ในชีวิตประวันมาใส่แค่ในเพลงเท่านั้น แต่ในมิวสิกวิดีโอยังโชว์ทั้งคัลเจอร์ของคำไทยที่เขียนง่ายๆ จาก PROXIE เป็นพ้อกสี (ชื่อที่แฟนๆ เรียกกันมาก่อนหน้า) การกินจิ้มจุ่มอีสาน สตรีทฟู๊ดข้างทาง ตะกร้าใส่สิ่งของหลากสี ร้านชำ โรงเรียนไทยที่ทาสีตึกด้วยสีสันสดๆ เก้าอี้พลาสติก รถแห่ติดลำโพงประกอบไฟนีออน รวมไปท่าเต้นโยกย้ายสไตล์สามช่าที่แฟนๆ ของวงบอกว่านี่แหละคือการปลดล็อกตัวตนจริงๆ ที่แสนจะสนุกแสบซ่า บ้าบอ และขี้เล่นของหนุ่มๆ ทั้งหกได้ในที่สุด
PiXXiE
‘เด็ด’ เพลงเดบิวต์อิเล็กทรอนิกส์ป๊อปอันน่าจดจำ จากสามสาว PiXXiE ที่นำเสนอเพลงป๊อปกลิ่นอาย Y2K
PiXXiE คือวงที่รวมเอาสามสาวแสบซนอย่าง มาเบล, พิมมา และอิงโกะมาไว้ด้วยกัน โดยพวกเธอเดบิวต์เป็นวง PiXXiE ในปี 2564 โดยเป็นศิลปินกลุ่มแรกในสังกัดลิตเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นค่ายเพลงของแชมป์ The Star 8 โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และนิตา ชวลิต เพลงของสาวๆ โดดเด่นด้วยเพลงป๊อปย่อยง่าย ผสมผสานอิเล็กโทรป๊อป, ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี และสำเนียงดนตรีแบบ Middle East รวมไปถึงแนวเพลงใหม่ๆ ที่วงมักเซอร์ไพรส์แฟนๆ อยู่เสมอ
ทั้งนี้เพราะเพลงฮิตอย่าง มูเตลู และ Dejayou มีคอนเซปต์ที่สื่อสารเรื่องเซนส์ ภูติพราย เมจิคัล โชคชะตา และดวงชะตา ทำให้แฟนคลับหลายคนกล่าวขวัญกันเล่นๆ ว่า พวกเธอเป็นเจ้าแม่เพลงสายมู หรือสายเวทย์ไปโดยปริยาย
สมาชิกทั้งสามคนมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนไม่ซ้ำรูปแบบ ทั้งมาเบลที่เปรี้ยว พิมมาที่เท่ และอิงโกะที่หวาน รวมไปถึงความสามารถอันโดดเด่นทั้งด้านการร้อง การเต้น และการแร็ป การแสดงบนเวทีของพวกเธอเต็มไปด้วยพลังงาน อินเนอร์จัดเต็ม และท่าเต้นที่สวยงามคมชัด จนภาพลักษณ์และการเต้นของมาเบลกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมมีเดียไทยและไปไกลจนถึงเกาหลีใต้
เพลงของ PiXXiE ไม่ได้น่าสนใจแค่เพลงเร็วเท่านั้น เพราะเพลงจังหวะกลางๆ และเพลงจังหวะช้าของพวกเธอก็เพราะ และมีเนื้อหาจับใจจนทำให้ฮิตติดกระแส ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘ติดฝน’ ที่โรแมนติกและขี้อ้อน หรือจะเป็นเพลง ‘เกินต้าน’ ที่คลั่งรักและขยันหยอดคำหวานให้คนรัก รวมไปถึงเพลงอกหักอย่าง ‘ไม่ได้ก็ไม่เอา’ ที่ได้ส้ม มารี มา featuring จนเติมเต็มให้เพลงสมบูรณ์แบบ รวมไปถึง ‘เพลงประจำวัน’ แทร็กฟังง่ายที่มีไลน์ประสานอันอบอุ่น และให้กำลังใจคนฟังได้ฮีลจากความหนักหน่วงของชีวิต
ส่วนเพลงที่เราอยากแนะนำก็คือซิงเกิลเดบิวต์อย่าง ‘เด็ด’ ที่ได้ฮาย สมาชิก Paper Planes วงร็อกอัลเทอร์เนทีฟชื่อดังมาสร้างสรรค์ และได้ อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ มาเขียนเนื้อร้อง ซึ่งทำให้คำว่าเด็ดมีลูกเล่นด้วยนัย 2 ความหมาย ทั้งความเด็ดของสามสาวที่มากความสามารถ และการเด็ดดอกไม้ที่ใครสักคนมอบให้ด้วยความมั่นใจ แบบที่ร้องว่า “Don't have to do อย่าให้ดอกไม้ เดี๋ยวฉันน่ะ เด็ด เด็ด เด็ด เด๊ด เด๊ด เด็ด Ya ya ya ya ya ya a a ya ya ya ya a a เพราะฉันน่ะเด็ด เด็ด เด็ด เด๊ด เด๊ด เด็ด”
และจากวันแรกที่เปิดตัวด้วยเพลงนี้ ผลงานของ PiXXiE ก็ทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าพวกเธอ ‘เด็ด’ จริงๆ
BUS because of you i shine
‘Because of You, I Shine’ เพลงซาวด์สดใสที่เปิดตัวเด็กหนุ่ม 12 คน ผู้เป็นเจ้าของแฟนชานท์ขวัญใจ BEUS
12 หนุ่มวง BUS หรือชื่อเต็มๆ ที่เรียกกันว่า because of you i shine มาจาก 789 Survival (2566) รายการเซอร์ไววัลชื่อดังที่คัดสรรเด็กฝึก 24 คนมาแข่งขันกัน ด้วยการมิกซ์และแมตช์ผู้เข้าแข่งขันเข้าด้วยกันหลายๆ รูปแบบผ่านการทำมิชชันต่างๆ ซึ่งในท้ายที่สุด วงแรกที่ได้เดบิวต์ก็คือวง BUS ซึ่งเปิดตัวช่วงปลายปี 2566 ส่วนอีกวงที่เดบิวต์ตามมาคือวง DICE ซึ่งวางคอนเซ็ปต์ของเพลงออกมาด้วยเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองต่างก็อยู่ภายใต้ Tada Entertainment และ Sonray Music สังกัดค่ายของผู้กำกับไทยชื่อดัง ‘ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์’ หรือที่แฟนๆ เรียกกันเล่นๆ ว่า ‘ย้งโอปป้า’
BUS มีสมาชิกคนไทย 11 คน และคนเกาหลีใต้ 1 คน พวกเขาคือเจ้าของแฟนชานท์ระดับปรากฏการณ์ที่ร้องเป็นชื่อเมมเบอร์แต่ละคนว่า ‘พศวีร์ - มาร์คริส - ขุนพล - ชุติวัฒน์ - คิม จินวุค - ชญานนท์ - ณัฐกิตติ์ - ภูธัชชัย - เดชาวัต - อชิรกรณ์ - จั๋งธีร์ - ภีมวสุ - บี - ยู - เอส - BUS is twelve - บี - ยู - เอส - BUS is twelve!’ ซึ่งโด่งดังจนกลายเป็นไวรัลเทรนด์ในโลกออนไลน์
เพลงที่เราอยากแนะนำคือ เดบิวต์ซิงเกิล Because of You, I Shine ที่มาในคอนเซ็ปต์ความสดใส และผลักดันซอฟพาวเวอร์ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์กในกรุงเทพมหานคร อย่างเช่น วัดพระแก้ว สนามหลวง และย่านรอบๆ เป็นต้น ในแง่ของเพลงยังได้ Mek Machina มาโปรดิวซ์ แทร็กนี้จึงเป็นเพลงอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปกลิ่นอายฮิปฮอปที่หวือหวา มีสีสัน และดูสดใส เข้ากับบุคลิกของทั้ง 12 หนุ่ม และเหมาะจะเป็นเพลงเปิดตัวของพวกเขาอย่างมาก ที่สำคัญเมื่อไม่นานมานี้วงยังปล่อยเพลงในเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นออกมา และโชว์เพอร์ฟอร์แมนซ์เพลงนี้ที่แรกที่งาน World Expo 2025 ประเทศญี่ปุ่นเสียด้วย
PERSES
‘One Shot’ ซิงเกิลฟังก์ป๊อปจากกลุ่มบอยแบนด์ที่ปลุกฤดูซัมเมอร์ให้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
วง PERSES คือบอยแบนด์ที่ทั้งเท่และคูล พวกเขาเดบิวต์ในปี 2565 ประกอบไปด้วย 5 สมาชิกหนุ่ม ตั้งแต่จั๋ง, เน, กฤติน, ปาล์ม และ ปลั๊กกี้ จากค่าย G'NEST โดยเปิดตัวเดบิวต์ด้วยซิงเกิล MY TIME และมีเดบิวต์เสตจที่ลาน BLOCK I สยามสแควร์ ในวันที่ 28 กันยายน 2565 แทร็กเปิดตัววง เป็นเพลงแนวโมเดิร์นป๊อปที่มีส่วนผสมดนตรีแนวฟังก์โดยได้ทีม Jam Factory นักแต่งเพลงที่เคยทำเพลงให้ทั้งฝั่งยุโรปและเอเชียอย่างวง ENHYPEN, NCT DREAM, NCT 127, SEVENTEEN และ Chris Brown กันมาแล้ว
พวกเขาใช้เวลาเทรนก่อนเดบิวต์เป็นเวลากว่า 2 ปี จน ‘น่ารักน้อยลงหน่อย (Cuteless)’ เพลงป๊อปสดใสที่เนื้อหาพูดถึงความน่ารักของคนที่เรารัก จนอยากเก็บไว้เป็นของตัวเองคนเดียวถูกปล่อยออกมา และกลายเป็นเพลงที่สร้างการจดจำให้พวกเขาได้มากที่สุด ซึ่เพลงซิงเกิลนี้ได้ ‘ปณต คุณประเสิรฐ วง Getsunova’ มาโปรดิวซ์ เรียบเรียง เขียนเนื้อร้องและสร้างสรรค์ทำนอง และร่วมกันเป็นโวคอลไดเรกเตอร์กับ ‘กร-อัษฎกร เดชมาก หรือ AUTTA’ โดยมี จั๋ง พี่ใหญ่ของวงร่วมแต่งท่อนแรป
จนกระทั่งคัมแบ็คอัลบั้มที่ 2 ชื่อ ‘ALTERLAND’ ในปี 2567 ที่เพลง ป๊อปฮิปฮอปอย่าง ‘BODYGUARD’ ได้รับการกล่าวขวัญอย่างมากในโลกออนไลน์ เพราะโปรดักชันมิวสิกวิดีโอและทุกองค์ประกอบที่ยิ่งใหญ่จัดเต็ม โดยเพลงนี้ได้ แชมป์ ไมยราพ และ GENIEPAK หรือ จีนี่ ณภัคกมนตร์ ทวีโรจน์มงคล มาช่วยกันเขียนเนื้อร้องเท่ๆ รวมไปถึงท่าเต้นแบบ Contemporary และ B-boy ที่ถูกมิกซ์มาใช้ในการออกสเตปของ PERSES เป็นครั้งแรก และยังได้ ‘ปณต วง Getsunova’ กลับมาช่วยเป็น Executive Producer อีกครั้งด้วย
ส่วนเพลงที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลิ้มลองก็คือ ONE SHOT เพลงป๊อปฟังก์เจือกลิ่นอายเฮ้าส์สนุกๆ พร้อมซาวด์ชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปอันเอกลักษณ์ ที่ทำออกมาต้อนรับซัมเมอร์ของ PERSES ซึ่งแทร็กนี้เป็นซิงเกิลที่ 3 ของอัลบัม ALTERLAND ที่พวกเขาเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการคอลแลบกับวงเกิร์ลกรุ๊ปแห่งยุคอย่าง PiXXiE ด้วยความสดใสของเพลง ลุค และมิวสิกวิดีโอซึ่งเป็นสีสันแบบใหม่ของวง ทำให้เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่น่าจดจำของวง PERSES
นอกจากผลงานที่ปล่อยออกมาอย่างไม่ขาดสาย จั๋งยังถูกจดจำในฐานะไอดอลสุดเซ็กซี่จนกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงเน ที่แฟนคลับช่วยกันสร้าง #ณรัณอ่าน ซึ่งมาจากความหลงใหลในการอ่านหนังสือของเขาจนแฟนๆ ต้องติดตามไปหาหนังสือมาอ่านตามอีกด้วย
Atlas
‘คุยแก้เหงา’ เพลงป๊อปจังหวะกลางที่ซาวด์ซินธิไซเซอร์ชวนให้นึกถึงดนตรียุค 80s
Atlas เปิดตัวเดือนกันยายน 2564 ได้ประกาศเปิดตัวเป็นบอยแบนด์กลุ่มแรกของค่ายเอ็กซ์โอเอ็กซ์โอเอนเตอร์เทนเมนต์ (สังกัดเดียวกับสาวๆ 4EVE) อย่างเป็นทางการในชื่อวง 'ATLAS' ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คน ได้แก่ จูเนียร์, เจ็ท, ภูมิ, ไนซ์, เออร์วิน, มิวอ้อน และแทด พวกเขาเป็นเจ้าของเพลงฮิตใน TikTok อย่าง ‘LOLAY(โลเล)’ ที่คนเต้นตามกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ซิงเกิลที่เราจะแนะนำให้ทุกคนไปลองฟังก็คือ ‘คุยแก้เหงา (Mr.Lonely)’ ที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ จึงเป็นได้แค่คนคุยอยู่อย่างนั้น แทร็กนี้ได้ โฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์ วง HENS และ จิรายุทธ ผโลประการ หรือ UrboyTJ มาร่วมแต่งเนื้อร้องและทำนอง โดย UrboyTJ ควบหน้าที่โปรดิวเซอร์ ที่มาพร้อมกับดนตรีป๊อปจังหวะกลาง และซาวด์ซินธิไซเซอร์ที่ชวนให้คนฟังหวนคิดถึงเพลงยุค 80s ซึ่งนอกจากเพลงฮิตอื่นๆ ของวง เราเชื่อว่าเพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงฮิตของ Atlas ที่หลายๆ คนชื่นชอบมากที่สุด
พีพี บิวกิ้น
กระแสวัฒนธรรม Y และพลังป๊อปคัลเจอร์ที่ส่งให้เกิดศิลปินทีป๊อปผู้ทรงอิทธิพล
อดีตสองนักแสดงสังกัด ‘นาดาวบางกอก’ กับซีรีส์ Romantic Coming of Age อันโด่งดังที่แจ้งเกิดทั้งคู่อย่าง ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ (2563)’ โดยผู้กำกับ ‘บอส กูโน’ ที่สร้างสรรค์ซีรีส์สุดอีโมชันแนลเรื่องนี้ออกมาอย่างจับใจ สามารถเปิดตัว ‘พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร’ และ ‘บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล’ ให้เป็นที่จดจำได้เป็นอย่างดี ซึ่งแฟนๆ มักจะเรียกพวกเขาสั้นๆ แบบติดปากในฐานะคู่ขวัญว่า ‘พีพี บิวกิ้น’
นอกจากภาคของเนื้อหาในซีรีส์แต่ละตอนที่พีพีและบิวกิ้นสวมบทบาทได้ดีมาก ในแง่ของเพลงประกอบของซีรีส์ที่ฮิตอยู่หลายเพลงยังขับร้องโดยนักแสดงทั้งสอง และนี่ถือเป็นก้าวแรกๆ ที่แจ้งเกิดพวกเขาในฐานะนักแสดงที่ควบตำแหน่งนักร้องไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงกีดกัน, หรูเหอ, รู้งี้เป็นแฟนกันตั้งนานแล้ว, แปลไม่ออก และเพลงอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งผลงานชุดนี้ยังส่งให้พวกเขามีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน หนึ่งในประเทศที่แฟนๆ ต่างเปิดรับวัฒนธรรม Y และป๊อปคัลเจอร์ไทยอย่างอบอุ่น ทั้งนี้ด้วยกระแสที่มียังทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสไปโชว์ที่จีนมาแล้วอีกด้วย
ความสำเร็จของคู่จิ้นอย่างพีพีบิวกิ้นถูกสานต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งผลงานหนังล่าสุดที่เล่นคู่กันอย่าง ‘ซองแดงแต่งผี’ ที่ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาร่วมงานแสดงและงานเพลงด้วยกันอีกครั้ง รวมไปถึงการเติบโตทางธุรกิจที่ทั้งคู่ออกมาเปิดสังกัดของตัวเอง ทั้ง Billkin Entertainment และ PPKrit Entertainment โดยทั้งคู่ต่างก็ปล่อยผลงานเพลงโซโลและมีเพลงฮิตของตัวเองมากมาย อาทิ FIRE BOY และชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ เป็นต้น
เพลงที่ไทยรัฐพลัสอยากแนะนำให้ทุกคนได้ฟังคือ ‘ก้าวก่าย’ เพลงเศร้าของบิวกิ้นที่ถ่ายทอดด้วยดนตรีสไตล์ป๊อปโซล และการร้องกลิ่นอายอาร์แอนด์บี ที่บิวกิ้นได้โชว์เทคนิคการร้องขั้นสูง โดยในครั้งนี้บิวกิ้นได้ชักชวน BOWKYLION มาช่วยปรับอารมณ์เพลงให้เศร้าถึงใจมากขึ้น ส่วนเพลงของพีพีที่คุณไม่ควรพลาดฟังก็คือ ‘Oopsy Daisy’ แทร็กอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปและไฮเปอร์ป๊อปสุดเซ็กซี่ที่ทั้งเปรี้ยวและน่าหยิกตามแบบฉบับคาแรกเตอร์ของพีพี โดยได้โปรดิวเซอร์มือดีอย่าง ‘เบน วง LUSS’ มาร่วมงานและสร้างมิติให้ดนตรีล้ำลึกน่าค้นหา ซึ่งเมื่อประกอบเข้ากับเสียงร้องกระซิบกระซาบยิ่งทำให้เพลงนี้น่าหลงใหลเกินจะต้านทาน
Serious Bacon
‘เธอๆ เพื่อนเราชอบ’ จากดูโอ้ Bedroom Music สู่เพลงที่หยิบเอามุกตลกไทยๆ มาร้องเล่นในเพลงแอบรักเพื่อน
Serious Bacon ดูโอ้ป๊อปภาพลักษณ์น่ารักสดใสสังกัด BOXX Music ประกอบไปด้วย 2 สมาชิก หญิง 1 และชาย 1 ได้แก่ เค้ก-เปมิกา จิระนารักษ์ (ร้องนำ) และเมือง-สองเมือง ไชยฤทธิ์ (มือกีตาร์ที่หลังๆ ก็มาร้องคู่กับเค้กมากขึ้น) ทั้งคู่คือ อดีตนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยทำงานในฝ่ายเพลงละครของคณะ กิจกรรมนี้ทำให้ทั้งสองคนโคจรมาพบกัน ทั้งคู่จึงชวนกันมาคัฟเวอร์ฮิตเพลงต่างๆ ลงในช่องยูทูบจนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยความที่วัยรุ่นสองคนนั่งร้องเพลงกันในบ้าน หรือในห้องต่างๆ เราจึงอาจเรียกพวกเขาได้ว่า ทั้งคู่เติบโตมาจากการทำ Bedroom Music จนภาพของวงประกอบสร้างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกชักชวนให้มาทำเพลงกับค่ายเพลง จากห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ จึงได้ออกมาแสดงสดต่อหน้าทุกคน และมีเพลงฮิตมากมาย อาทิ พี่ๆ ตัดแว่นให้หน่อย, เพื่อนดีเด่น, 1001(You’re Lovely) และไม่อยากฟัง ด้วยความที่เป็นเป็นศิลปินคู่ชายหญิง เนติเซนไทยหลายคนจึงนิยามว่าพวกเขาคล้ายกับสองพี่น้องดูโอเกาหลีอย่าง AKMU หรือ Akdong Musician อีกด้วย
และเพลงที่น่าสนใจอีกเพลงของซีเรียสเบคอนก็คือ ‘เธอ ๆ เพื่อนเราชอบ (Guess Who?)’ เพลงรักติดตลก ชอบชงมุก ที่หยิบเอามุกตลกไทยๆ มาร้องเล่นในเพลงแอบรักเพื่อน อย่างการพูดชื่อผิดๆ ถูกๆ เพื่อส่งท้ายว่า เฮ้ย ถูกแล้ว! อย่างที่ปรากฏในเนื้อร้องที่ว่า ‘มันรู้ว่าเธอชอบคนตลกก็เลยต้องฝึกเล่นมุกเตลิด เอ้ย ฝึกเล่นมุกตลาด เอ้ย ฝึกเล่นมุกตลอด ไม่รู้ว่าเธอจะชอบมันไหม ถ้ามันเป็นคนไม่ค่อยตะหลุก เอ้ย คนไม่ค่อยตลก เอ้ย เฮ้ย ถูกแล้ว” ซึ่งเค้กเขียนเพลงนี้ได้อย่างน่ารัก ขณะที่เมืองก็ทำดนตรีออกมาได้อย่างอารมณ์ดี มันจึงเป็นเพลงป๊อปที่เรียบง่าย ทว่าติดหู และมีเสน่ห์กลมกล่อมเป็นอย่างยิ่ง
DREAMGALS
‘Sorry’ เพลงที่สามสาวหลากสไตล์จาก YUPP! ช่วยกันเขียนเนื้อร้องที่ให้เซนส์ไม่ขอโทษ
DREAMGALS เป็นโปรเจกต์จากค่าย YUPP! ที่รวมสามสาวมากความสามารถต่างคาแรกเตอร์ในค่ายของตัวเองอย่าง มิลลิ - ดนุภา คณาธีรกุล, Flower.far หรือ ฟาร์-พิชญานิน หนูศรี และ GALCHANIE หรือ แป้ง-ธนัญญา อินวงษ์ ไว้ด้วยกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า YUPP! มี 3 อัญมณีอยู่ในมือของตัวเอง
มิลลิเล่าว่าโปรเจกต์ได้รับแรงบันดาลใจสำคัญมากจากหนังดังเรื่อง Dreamgirls และเมื่อมารวมตัวกันก็ได้ผลงานเพลงออกมา 3 เพลง ตั้งแต่ SORRY, NOBODY CARES และ PRIORITY ซึ่งทั้งสามคนแบ่งหน้าที่กันทำเพลงจนได้แทร็กคุณภาพทั้งหมดออกมาในที่สุด
สำหรับเพลงต้องห้ามพลาดคือแทร็กฮิตขวัญใจชาวต่างชาติอย่าง ‘SORRY’ ซึ่งทั้งเปรี้ยว ซ่า และก๋ากั้น เพลงนี้มีเนื้อร้องทั้งไทยและอังกฤษที่แบ่งท่อนออกมาได้อย่างลงตัว โดยตีความมาจากคำว่า ‘ขวัญใจแฟนชาวบ้าน’ ทำออกมาเป็นเพลงแดนซ์ชวนโยกสับๆ แตกๆ ที่พร้อมบอกคนอื่นว่าขอโทษ แต่จริงๆแล้วมันเป็นการประชด เพราะไม่ได้อยากขอโทษจริง เพราะเรามันสวย เลิศ เชิ่ด หยิ่งอยู่แล้ว อย่ามากวนใจให้มากนัก นอกจากเพลงที่สนุกมาก ท่าเต้น และมิวสิกวิดีโอยังเต็มไปด้วยซิมโบลิกที่ชวนตีความ แต่ที่ติดใจเราไม่ลืมก็คือเนื้อเพลงแซ่บๆ ที่ร้องว่า “กูคงสวยมากเลยดิ Wanna hit this booty. You want me send you nudes. What the fuck boi I don't fuck with you.”
Bamm
‘ปล่อยจอย’ เพลงสุดครีเอทีฟจาก Co-ed Group ที่ร้องเนื้อไทยอีสานด้วยสำเนียงเกาหลี
นานแล้วที่เราไม่ได้เห็น Co-ed Group ในไทย แต่วง Bamm เป็นหนึ่งในวงรุ่นใหม่จากค่าย LIT Entertainment ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มภาพใหม่ๆ ให้ซีนทีป๊อปไทยได้มีชีวิตชีวา
Bamm มี ‘มาง-ปิยธิดา เล็กกลาง’ รับหน้าที่ร้องนำ โดยมีดีกรเคยผ่านเวทีประกวด The Voice Kids Thailand และรายการ The Voice Thailand ซีซัน 6, ‘อาร์ตี้-ศรุต ลิ่วเกษมศานต์’ ตำแหน่งเมนแดนซ์ และ ‘เปา-ธีรภัทร ตรีวิมล’ ที่เป็นเมนแรป หลายๆ คนจดจำพวกเขาจากเพลงฮิตอย่าง ใครเพื่อนแก, โดนเทแต่เท่อยู่, เอ๋ง และฉันจะฉาปเธอ แต่สำหรับเรา เราตกหลุมรักเพลง ‘ปล่อยจอย’ ที่มางร้องภาษาอีสานด้วยสำเนียงเกาหลีใต้ จนคนที่ได้ฟังครั้งแรกเอ๊ะว่า นี่มันเพลงภาษาอะไรกันแน่ แต่พอฟังดีๆ ก็จะได้ยินเนื้อร้องที่ร้องว่า “อ่อเจ้ เมื่อวานหนูกะสิบ่เมา แค่สิเผาแต่บ่เซาซักทีนั่นเด้ อั่นนี้บ่ฮู้มาเอาไร คือหยังคือสิบ่ใช่ก็ซอดแจ้งนำกันโลดสู บ่ต้องย่านบ่ต้องไปพารานอยด์ เฮามาซอย ๆ ๆ ให้ผู้สาวซำน้อย เฮามาจอยนำกันโลดอีหล่า คั่นสิมาก็ต้องยาวไปซอดแจ้ง” ซึ่งท่อนนี้เองที่กลายเป็นไวรัลปังในโลกออนไลน์ แถมยังได้พิมมาจากวง PiXXiE เพื่อนร่วมค่ายมาแจมในเพลงแบบสุดเอนจอย
ล่าสุด Bamm ก็เพิ่งปล่อยเพลง ‘ไม่อ่อม’ ออกมา ซึ่งมางก็ร้องภาษาอีสานเป็นสำเนียงญี่ปุ่นไว้อย่างน่ารัก และรักษาเอกลักษณ์ความครีเอทีฟแบบกวนๆ ของวงไว้ได้ไม่จืดจาง
อ้างอิง
NIKEI ASIA Southeast Asia's homegrown pop music surges in popularity
THE NATION T-POP: No one can stop the wave of Thai pop
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- Spotlight: ประเทศไทยเกิดอะไรขึ้นบ้างในสัปดาห์นี้ [2-6 มิถุนายน 2568]
- โลกหนังสือและวรรณกรรมที่ประกอบสร้าง ‘เน PERSES’ ไอดอลผู้เป็นเจ้าของคลังหนังสือออนไลน์ชื่อ #ณรัณอ่าน
- STEP UP SIAM วัยรุ่น วัยเต้นแห่งสยาม
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : plus.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath