‘ศิริราช’ เร่งผลิตหมอ-อัดมาร์เก็ตติ้งรับโปรเจ็กต์บางโพ
“ศิริราช” ปั้นอีโคซิสเต็มรับเมกะโปรเจ็กต์ “ศิริราชนานาชาติ” บางโพ ผุดโรงเรียนแพทย์ผลิตบุคลากรป้อน-ดึงแพทย์ไทยในสหรัฐเสริมทัพ พร้อมทำตลาดเชิงรุก ชูราคาจับต้องได้ หวังดึงนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยุโรป-ออสเตรเลีย-จีน ด้าน “SIRIRAJ H SOLUTIONS” เตรียมปรับพอร์ตโฟกัสคลินิกเฉพาะทาง
ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า การก่อสร้าง “โรงพยาบาลศิริราชนานาชาติ” ย่านบางโพ ขนาดพื้นที่ 13 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 16,000 ล้านบาท เน้นการบริการทางการแพทย์ชั้นสูงระดับเหนือตติยภูมิ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาคเอเชียนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอใบอนุญาตด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และมีกำหนดการก่อสร้างระหว่างปี 2566-2574
ในระหว่างนี้จะเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุกเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ควบคู่ไปกับการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ เช่น แผ่นพับหลายภาษา และการร่วมมือกับวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) ทำโปรแกรม Medical Tourism ไปออกบูทในต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลียและจีน
รวมถึงมีแผนดึงแพทย์ไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีอยู่หลายร้อยคน กลับมาให้บริการและสอนในช่วงที่ลาพักร้อนได้ปีละประมาณ 3 เดือน ควบคู่ไปกับแผนเปิดโรงเรียนแพทย์หลักสูตรนานาชาติ 6 ปี ภายในปี 2570 เพื่อผลิตบุคลากรสำหรับโรงพยาบาลแห่งใหม่โดยเฉพาะ ซึ่งจะเปิดรับสมัครประมาณ 40 คน/ปี
“เราต้องการสร้างให้ที่นี่เป็นเมดิคอลฮับที่สามารถดูแลชาวต่างชาติได้อย่างครบวงจร และสร้างมาตรฐานใหม่ของการรักษาพยาบาล ที่ไม่ใช่แค่การรักษา แต่รวมถึงการวิจัยและพัฒนา”
ชูคุณภาพ-ราคาจับต้องได้
สำหรับการทำตลาดเชิงรุกนั้น จะชูเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งโรงพยาบาลเอกชน ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนตับที่ รพ.ศิริราช ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท ขณะที่เอกชน เริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท
จุดแข็งนี้จะสามารถดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะยุโรปหรือออสเตรเลียที่ระบบสาธารณสุขเริ่มมีปัญหาได้
ปรับพอร์ตเพิ่มคลินิกเฉพาะทาง
ศ.ดร.นพ.ยงยุทธกล่าวต่อไปว่า ด้าน SIRIRAJ H SOLUTIONS ศูนย์สุขภาพครบวงจร ณ ศูนย์การค้าไอซีเอส (ICS) นั้น แผนงานการดำเนินงานในปีที่ 3 จะเน้นการปรับพอร์ตการให้บริการ ทั้งปรับลดขนาด (Downscale) คลินิกที่ไม่ได้รับความนิยม และพิจารณาเพิ่มคลินิกที่มีความต้องการสูงและมีคิวรอนานในโรงพยาบาลใหญ่ เช่น จักษุแพทย์
ขณะเดียวกัน จะขยายยูนิตทันตกรรมเพิ่มจากเดิมที่มี 2 ยูนิต เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น โดยทีมทันตแพทย์ส่วนใหญ่จะมาจากคณะทันตแพทยศาสตร์ศิริราช และมหิดล
อย่างไรก็ตาม ด้านบุคลากรทางการแพทย์ยังไม่มีแผนเพิ่มบุคลากรในขณะนี้ เนื่องจากปัจจุบันทีมแพทย์ประจำและแพทย์หมุนเวียนประมาณ 200 คนต่อวัน ยังเพียงพอต่อการให้บริการ
2 ปีแรกโตพุ่ง
การตัดสินใจปรับพอร์ตและขยายยูนิตนี้ เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสามารถตอบโจทย์ในการลดความแออัดของโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีผู้ป่วยนอกเข้ารับบริการมากกว่า 20,000 รายต่อวัน ได้ในระดับที่น่าพอใจ และกำลังเติบโตสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพและเวลเนสที่สำคัญของกรุงเทพฯ
โดยในช่วง 2 ปีแรก SIRIRAJ H SOLUTIONS มีอัตราการเติบโตที่ชัดเจน จากปีแรกที่มีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 100-200 คนต่อวัน ปัจจุบันตัวเลขขยับขึ้นมาอยู่ที่ 200-300 คนต่อวัน ในวันธรรมดา และพุ่งสูงถึง 500 คน ในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว 50% จากศักยภาพที่ตั้งไว้ที่ 800-1,000 คนต่อวัน
สำหรับกลุ่มผู้ใช้บริการหลัก ๆ จะเป็นคนไทย 90% และต่างชาติ 10% ซึ่งกว่า 50% จะเป็นการชำระเงินเอง (Self-Pay), ใช้สิทธิประกันสุขภาพ 20-30% และที่เหลือเป็นสิทธิข้าราชการ โดยมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการตรวจสุขภาพอยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 บาทต่อครั้ง และหากมีการรับยาหรือทำหัตถการ ค่าใช้จ่ายอาจจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทขึ้นไป
“ตอนแรกเราเริ่มต้นด้วย 17 คลินิก โดยวางคอนเซ็ปต์เป็นศูนย์เวลเนสและตรวจสุขภาพ แต่เมื่อดำเนินการจริง เราพบว่าคนไข้มีความต้องการพบแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น ทำให้เราต้องปรับตัวแบบไดนามิก ปัจจุบันได้ขยายเป็น 19 คลินิก โดยคลินิกที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ อายุรศาสตร์, ผิวหนัง, ศูนย์ตรวจสุขภาพ และนรีเวช”
ศ.ดร.นพ.ยงยุทธย้ำว่า เป้าหมายสูงสุดของโครงการเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ แต่เป็นการสร้างรายได้เพื่อนำกลับไปสนับสนุนพันธกิจหลักของโรงพยาบาลศิริราช โดยคาดว่า SIRIRAJ H SOLUTIONS และโรงพยาบาลนานาชาติแห่งใหม่ ทำให้ รพ.ศิริราช สามารถดูแลคนไทยทุกคนได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘ศิริราช’ เร่งผลิตหมอ-อัดมาร์เก็ตติ้งรับโปรเจ็กต์บางโพ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net