คนชอบกินบุฟเฟต์ต้องอ่าน!! 4 สิ่งที่ต้องระวัง..
การกินบุฟเฟต์เป็นความสุขของใครหลายคน เพราะได้เพลิดเพลินกับอาหารหลากหลายอย่างอิสระ แต่ภายใต้ความสุขนั้น กระเพาะอาหารของคุณอาจกำลังเผชิญกับการทดสอบที่เสี่ยงอันตรายอย่างเงียบๆ ไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟต์ราคาประหยัด หรือบุฟเฟต์หรูในโรงแรม ความหลากหลายและความสะดวกสบายของบุฟเฟต์ มักจะแฝงปัญหาด้านความปลอดภัยของอาหาร และกับดักของการกินมากเกินไปเอาไว้
4 สิ่งที่ทุกคนต้องระวัง.. เมื่อกิน "บุฟเฟต์"
- การปนเปื้อน
ในบุฟเฟต์ หลายคนใช้ที่คีบหรือทัพพีร่วมกัน หากมือของคนหนึ่งไม่สะอาด หรืออาหารที่คีบไปสุกไม่ทั่วถึง ก็อาจแพร่เชื้อโรคไปยังผู้อื่นได้ง่าย เช่น การใช้ช้อนที่ตักปลาดิบมาตักอาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรือการวางผักกาดหอมไว้ใกล้เนื้อดิบ ล้วนเป็นความเสี่ยงที่พบได้บ่อย
คำแนะนำ: ควรหลีกเลี่ยงการนำอาหารที่คีบมาแล้วกลับไปวางที่เดิม และใช้ที่คีบแยกกันสำหรับอาหารแต่ละชนิด
- สารก่อภูมิแพ้ผสมอยู่
สำหรับบางคน แม้ ถั่วลิสง ไข่ หรือสัตว์จำพวกกุ้งในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ บุฟเฟต์ที่ไม่ได้ระบุสารก่อภูมิแพ้อย่างชัดเจน หรือมีการใช้ภาชนะร่วมกัน อาจทำให้จานที่ระบุว่า "ปราศจากสารก่อภูมิแพ้" มีการปนเปื้อนได้
คำแนะนำ: ควรเลือกห้องอาหารที่มีการระบุข้อมูลสารก่อภูมิแพ้ไว้อย่างชัดเจน และสอบถามพนักงานเพื่อความแน่ใจ
- อุณหภูมิของอาหาร
เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิที่อันตรายคือ ระหว่าง 7°C ถึง 60°C การปล่อยอาหารทิ้งไว้ในอุณหภูมิที่เสี่ยงนี้เป็นเวลานาน ก็เหมือนเป็นการเปิดปาร์ตี้ให้กับแบคทีเรีย โดยเชื้อโรคที่พบบ่อยได้แก่:
เชื้อซัลโมเนลลา: มักพบในไก่และไข่ ทำให้เป็นไข้และท้องเสีย
อีโคไล: มาจากเนื้อวัวที่ปรุงไม่สุก หรือผักที่ไม่ได้ล้าง ในกรณีรุนแรงอาจทำให้ไตวายได้
ลิสทีเรีย: มักพบในอาหารแช่เย็น เช่น บะหมี่เย็นและชีส มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะกับสตรีมีครรภ์คลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์: อาหารตุ๋นและซุปในสภาพแวดล้อมที่ร้อนอบอ้าวเป็นแหล่งเพาะพันธุ์
โนโรไวรัส: ติดต่อได้ง่ายผ่านมือหรือภาชนะต่างๆ
สแตฟิโลคอคคัส ออเรียส: มาจากผิวหนังของมนุษย์ และสร้างสารพิษที่ทนความร้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการทางเดินอาหารเฉียบพลัน
- กินไม่อั้น ≠ กินจนจุก
บุฟเฟต์คือสวรรค์สำหรับคนกินจุ แต่บ่อยครั้งที่ทำให้เรากินมากเกินไปจนรู้สึกอึดอัด หากคุณต้องการกินอย่างมีสติมากขึ้น ลองใช้กลยุทธ์ง่ายๆ ดังต่อไปนี้
เดินสำรวจรอบ ๆ ก่อน: เดินดูอาหารทั้งหมดก่อนตัดสินใจว่าจะกินอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการหยิบอาหารแบบสุ่มทันทีที่เห็น
ใช้จานขนาดเล็ก: การใช้จานเล็กช่วยควบคุมขนาด และปริมาณอาหารที่คุณหยิบมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การศึกษาพบว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ สามารถช่วยให้ผู้คนหยิบอาหารน้อยลงและมีแนวโน้มที่จะกินมากเกินไปน้อยลง นอกจากนี้ ควรใส่ใจกับปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ เช่น การกินไปดูทีวีไป หรือการกินเพื่อปลอบประโลมจิตใจ เมื่อคุณเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้แล้ว คุณจะสามารถปรับเปลี่ยนนิสัยการกินได้อย่างมีสติมากขึ้น
การกินไม่อั้นไม่ได้หมายความว่า คุณต้องกินจนจุก! การเลือกและหยิบอาหารอย่างชาญฉลาด จะช่วยให้คุณอิ่มอร่อยได้อย่างมีความสุข และสบายใจมากขึ้น
ที่มา: Yuanqi, freepik