โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าสินค้าไทยเหลือ 19% หนุนส่งออกครึ่งปีหลังโต ศก.ไทยปี 68 โต 1.5%

สยามรัฐ

อัพเดต 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าสินค้าไทยเหลือ 19% หนุนส่งออกครึ่งปีหลังโต ศก.ไทยปี 68 โต 1.5%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า 1 ส.ค.68 สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ใหม่ต่อไทย ในอัตราที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 36% มาอยู่ที่ 19% ใกล้เคียงกับภูมิภาคอาเซียน และดีกว่าเวียดนาม หลังทางการไทยมีความพยายามในการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา

รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษี Reciprocal tariff กับสินค้าไทยที่อัตรา 19% ซึ่งเป็นอัตราที่ดีกว่าเดิม และแข่งขันได้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย กัมพูชา อีกทั้งอัตราภาษีดังกล่าวยังต่ำกว่าอัตราภาษีที่อินเดียได้รับที่ 25% ซึ่งอัตราภาษีฯ ที่ไม่แตกต่างกันส่งผลให้ในภาพรวมสินค้าส่งออกไทยยังคงความสามารถทางการแข่งขันได้ ขณะที่ภาพการค้าโลกก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากความไม่แน่นอนทางการค้าที่ลดลงรวมถึงหลายประเทศได้รับอัตราภาษีฯ ที่ลดลงกว่าที่ประกาศไว้ในเดือนเม.ย. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนมุมมองต่อการส่งออกไทยอีกทางหนึ่ง

อัตราภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ (Transshipment) ที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บในอัตรา 40% คาดว่าจะส่งผลให้การนำเข้าสินค้าเพื่อ Re-export ไปยังตลาดสหรัฐฯ ผ่านไทยซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศต่ำนั้นมีแนวโน้มชะลอลง โดยขึ้นอยู่กับการบังคับใช้มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local content) อย่างจริงจังที่อาจช่วยลดแรงกดดันต่อภาคการผลิตไทย นอกจากนี้ ภาษีนำเข้าฯ ของไทยเทียบกับภูมิภาคที่ไม่แตกต่างกัน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ดี การไหลเข้ามาของสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อบริโภคในประเทศคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ภาคการผลิตในปีนี้คาดว่าจะยังหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

ภายใต้ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ไทยต้องยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ราว 90% ของสินค้าทั้งหมด รวมถึงลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีลงนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเปิดตลาดนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อาจไม่ทำให้สินค้าสหรัฐฯ ไหลบ่าเข้ามาในไทยมากอย่างที่กังวล เนื่องจาก
•สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีอัตราภาษี MFN เป็น 0% อยู่แต่เดิม

•สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไทยไม่สามารถผลิตได้ หรือผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ เช่น เครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์บางรายการที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง อีกทั้ง ขึ้นอยู่กับความสามารถทางการแข่งขันด้านต้นทุนของสินค้าสหรัฐฯ ในแต่ละอุตสาหกรรม

•สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ หลายรายการอาจมีต้นทุนสูงกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศ หรือสินค้านำเข้าจากตลาดอื่นโดยเฉพาะตลาดที่ไทยมี FTA อยู่แต่เดิม

อย่างไรก็ตาม หากไทยต้องเพิ่มโควต้านำเข้าสินค้าพลังงานและเกษตรจากสหรัฐฯ อาทิ สินค้าเกษตรอย่างถั่วเหลือง ข้าวโพด รวมถึงเนื้อสัตว์ คาดว่าจะกระทบเกษตรกรรายย่อย และในบางกรณีจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มขึ้น และอาจจะส่งผ่านมายังเงินเฟ้อในระยะถัดไป ทั้งนี้ ยังต้องติดตามความชัดเจนของการเปิดตลาดสินค้าเกษตรในรายละเอียด รวมถึงมาตรการเยียวยาจากภาครัฐ

ทั้งนี้ต้องติดตามนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มเติม หลังจากนี้ โดยเฉพาะผลกระทบจากรายการสินค้าภายใต้ Section 232 ที่คาดว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และไม้แปรรูป เป็นต้น นอกจากนี้ ยังต้องติดตามประเด็นทางกฎหมายเรื่องอำนาจการบังคับใช้ภาษี Reciprocal tariff ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังอยู่ในขั้นตอนไต่สวนอยู่ ขณะที่ไทยอยู่ระหว่างเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) และแคนาดา ซึ่งอาจช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดอื่นนอกจากสหรัฐฯ มากขึ้น

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดส่งออกจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตดีขึ้นเล็กน้อยที่ 1.5% จากเดิม 1.4% ท่ามกลางท่องเที่ยวโตต่ำกว่าคาด

อัตราภาษี Reciprocal tariff ที่ดีขึ้นและแข่งขันได้ ปรับมุมมองการส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ดีขึ้นกว่าเดิม โดยคาดว่าจะหดตัวลดลงมาอยู่ที่ -7.4% YoY และการส่งออกไทยทั้งปี 2568 ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.4% เพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้าที่ 1.5% ทั้งนี้ การส่งออกไทยในครึ่งปีหลังที่ยังหดตัวเป็นผลจากการเร่งสูงออกสูงในช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวถึง 15.0% YoY ประกอบกับมีปัจจัยฐานการส่งออกทองคำที่สูงในครึ่งหลังของปี 2567

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยเผชิญปัจจัยกดดันที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณที่อาจต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.5% โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2568 คาดว่าจะลดลงจากประมาณการเดิมมาอยู่ที่ราว 32.2 ล้านคน ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 5 ปี จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงไม่กลับมา

#ส่งออกไทย #ภาษีสหรัฐ #ReciprocalTariff #การค้าไทยสหรัฐ #FTAไทยEU #เศรษฐกิจไทย2568 #การค้าระหว่างประเทศ #สหรัฐลดภาษีไทย #สยามรัฐ #ข่าวเศรษฐกิจ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

สุรินทร์ยังไม่มีคำสั่ง อพยพ ชี้โซเชียลโพสต์เป็นข้อความเก่า เพจกองทัพภาคที่ 2 ยันไม่มีปะทะหรือคำสั่งให้อพยพในพื้นที่พนมดงรัก ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางการเท่านั้น

7 นาทีที่แล้ว

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ เป็นขวัญกำลังใจ ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน

15 นาทีที่แล้ว

เตือนอีกครั้ง! ทอ.งดบินเครื่องบินวิทยุบังคับ-โดรน-ฮ.ของเล่นติดไฟ -ว่าวติดไฟ LED ในเวลากลางคืน

15 นาทีที่แล้ว

"มายด์ ณภศศิ" ขอโทษดราม่าคลิปกล้องมือสองยันลบแล้ว

33 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ปิดดีลภาษีสหรัฐฯ19% “พิชัย”มั่นใจไทยแข่งได้-ยันไม่ทิ้งผู้กระทบ เอกชนยิ้ม!ลุ้นส่งออกบวก-ลงทุนเข้า

Manager Online

ผ่าไส้ใน SET 50 เจอ 14 หุ้นดังอ่วม ราคายังดิ่งมากกว่า 20-40% รอบ 1 ปี

Manager Online

ภาษี US ชัดเจนดันหุ้นไทยไปต่อ จับตาแรงเก็งกำไรผลประกอบการ บจ.

Manager Online

กยศ. ยกหนี้ให้ทหารกล้า พลีชีพจากเหตุสู้รบ ชายแดนไทย–กัมพูชา

เดลินิวส์

รัฐลุยแก้หนี้บ้าน 5 ล้านล. สกัดNPL 3-สมาคมอสังหาฯ ชงลดภาระดอกเบี้ย เพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อ

MATICHON ONLINE

“อายิโนโมะโต๊ะ” กางแผนธุรกิจปี 68 รับมือความท้าทาย

PPTV HD 36

เอสเอ็มอีไทยไปไม่ไหว เจ๊งจบปีละ 7% พีคสุดปิด 2,500 แห่งใน 1 ปี | คุยกับบัญชา | 25 ก.ค. 68

BTimes

“พาณิชย์”เร่งโรงอบ จุดร่อน เปิดจุดรับซื้อลำไย เพิ่มช่องทางเกษตรกรขายผลผลิต

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...