ภูมิใจไทย เดือด เปิดคลิป "ทักษิณ" แสดงสัมพันธ์ "ฮุน เซน" ตอกกลับใครขายชาติ
22 ก.ค. 2568 น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย และนายชลัฐ รัชกิจประการ สส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อมโยงกับการเมืองภายในประเทศ
บางช่วงการแถลงข่าว โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดคลิปเหตุการณ์ในอดีตช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เคยเผยแพร่ผ่านยูทูบและแพลตฟอร์มต่างๆ ต่อสาธารณะ มีการร่วมร้องเพลง ออกุน สมเด็จฮุน เซน ขณะนั้นนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย ร่วมแสดงความขอบคุณและแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวนายทักษิณกับผู้นำกัมพูชา
น.ส.บุณย์ธิดา กล่าวต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยถูกพาดพิงหลายเรื่อง และที่รับไม่ได้ที่สุดก็คือ เรื่องที่อดีตท่านผู้นําท่านหนึ่งใช้คําว่า "พรรคที่พึ่งหลุดออกไปจากรัฐบาล กลับมามองว่า เป็นการขายชาติ เลยไม่รู้ว่าตกลงเขาเป็นกัมพูชาหรือไทยไม่แน่ใจ" ซึ่งคำนี้ พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าเป็นคำกล่าวที่ไม่เหมาะสม
ภายหลังคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม กับสมเด็จฮุนเซนหลุดออกมานั้น พรรคภูมิใจไทยแถลงถอนตัวออกจากการเป็นรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2568 เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อเกียรติภูมิศักดิ์ศรีของชาติ ประชาชน และกองทัพ ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยจึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบ
น.ส.บุณย์ธิดา ยืนยันพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมืองของคนไทยที่มีนโยบายพรรคและข้อบังคับ เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย และประชาชนคนไทย เราไม่เคยแสดงพฤติกรรม หรือการกระทําใดๆ เพื่อประโยชน์ของต่างชาติ
ไม่เคยกล่าวประณามนายกรัฐมนตรีว่าขายชาติ ซึ่งมีประชาชน คณะบุคคล และองค์กรอิสระ ดําเนินตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้มีการวินิจฉัยการกระทําของนายกรัฐมนตรีต่างหากว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อนายกรัฐมนตรีมีการเพิกเฉย พรรคภูมิใจไทยได้มีการใช้กลไกของสภาฯ โดยแจ้งว่าจะมีการยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แต่ต้องชะลอไว้ก่อน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
"พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองไทย เพื่อคนไทย และประเทศไทย ไม่ใช่พรรคการเมืองเพื่อกัมพูชา หรือ เพื่อเขมร และไม่มีผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยคนใดรู้จักใกล้ชิดสนิทสนม ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล เคารพนับถือ หรือมีความสัมพันธ์ ฉันเครือญาติกับผู้นํารัฐบาลกัมพูชา ดังเช่นที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และครอบครัวหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ปรากฏต่อหน้าสื่อตลอดระยะเวลา 30 กว่าปีที่ผ่านมา" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
ด้านนายไชยชนก กล่าวว่า ตนเคยพูดก่อนที่จะมีเหตุการณ์ดุเดือดทางการเมือง โดยให้ดูที่การกระทำมากกว่าการพูด ยกตัวอย่างเช่น ที่กล่าวหาว่าเป็นเขมรหรือไทย จึงฝากถามไปว่า สำหรับใครที่มีเพื่อนสนิท หรือมีคนที่เรารัก เรามีการทำห้องนอนไว้ในบ้านบ้างหรือไม่ และจะต้องสนิทกันเบอร์ไหน ถ้าจะมีแบบนั้น ตนขอยกตัวอย่างเป็นข้อคิด และอยากให้ดูการปฏิบัติหน้าที่ของทุกพรรคการเมือง ตั้งแต่พวกตนออกมาเป็นฝ่ายค้าน อยากให้ดูทุกพรรคปฏิบัติหน้าที่เต็มที่หรือไม่ ทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชนหรือไม่
รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล เลือกที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องใด ในขณะที่ประเทศเรากำลังเผชิญกับวิกฤตรอบด้าน อยากให้ประชาชนจับตามองในเรื่องการกระทำของทุกพรรคอย่างใกล้ชิด อย่าดูแต่พาดหัวข่าวอย่างเดียว