ใช้รถต้องรู้! ขับรถชนเสาไฟฟ้า ประกันจ่ายไหม?
ใช้รถต้องรู้! ขับรถชนเสาไฟฟ้า ประกันจ่ายไหม?
ขับรถชนเสาไฟฟ้าประกันจ่ายมั้ย
สำหรับผู้ที่ขับขี่แล้วเกิดอุบัติเหตุไปชนเสาไฟฟ้า หรือของหลวงอื่น ๆ ประกันจะช่วยจ่ายค่าปรับให้ แต่จะช่วยรับผิดชอบตามวงเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น ส่วนต่างที่เหลือผู้เอาประกันจะต้องออกเอง นอกจากนี้ การขับรถชนเสาไฟฟ้านับว่าเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ดังนั้น ประกันที่คุ้มครองเงื่อนไขนี้จะมีเพียงแค่ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น ประกันประเภทอื่น ๆ จะไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้
ขับรถชนเสาไฟฟ้าและของหลวงประเภทอื่นๆ มีค่าปรับเท่าไหร่
แม้ว่าของที่เราขับรถไปชนจะเป็นของหลวง ของสาธารณะ แต่สิ่งเหล่านี้ก็มีเจ้าของเช่นกัน ซึ่งเมื่อเราขับรถชนของหลวงก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น การไฟฟ้านครหลวง กรมทางหลวง เป็นต้น สำหรับค่าปรับที่เรารวบรวมมาแบ่งปัน จะเป็นเพียงการประเมินราคาเบื้องต้นเท่านั้น เพราะในสถานที่เกิดเหตุจริงอาจมีความเสียหายอื่น ๆ ที่ทำให้ถูกคิดค่าเสียหายเพิ่มเติมได้
ค่าปรับเสาไฟฟ้า
เสาไฟฟ้าแต่ละต้นจะมีราคาที่แตกต่างกันไป โดยหากเราขับรถชนเสาไฟฟ้า 1 ต้น จะมีค่าปรับเริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 – 100,000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ค่ารื้อถอนที่คำนวณจากความสูงของเสาไฟฟ้า ค่าเดินสายไฟใหม่ ฯลฯ ซึ่งถ้าเราขับรถชนเสาไฟฟ้าจนหม้อแปลง หรือสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้รับความเสียหาย ค่าปรับก็อาจจะสูงถึงหลักล้านได้เลย
ค่าปรับแบริเออร์
สำหรับค่าปรับเมื่อขับรถชนแบร์ริเออร์ จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ค่าติดตั้ง ความเสียหาย และจำนวนแบริเออร์ที่ทำเสียหาย โดยจะมีค่าปรับประมาณ 800 – 15,000 บาท และหากมีค่าแรงอื่น ๆ เพิ่มเติม เราก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน
ค่าปรับแผงกั้นจราจร
แผงกั้นจราจร เป็นอุปกรณ์บนท้องถนนที่คุณสามารถขับชนได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ สำหรับค่าปรับเมื่อขับรถชนแผงจราจร จะอยู่ที่ 1,000 – 5,000 บาท นอกจากนี้หากขับชนกรวยจราจร ก็จะมีค่าปรับประมาณ 200 – 800 บาท ส่วนเสาล้มลุกจะอยู่ที่ 800 – 3,500 บาท ขึ้นอยู่กับวัสดุ ขนาด จำนวน และความเสียหาย
ค่าปรับป้ายทางหลวง
เมื่อขับรถชนป้ายทางหลวง หรือป้ายจราจร กรมทางหลวงจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสถานที่ และประเมินราคาค่าเสียหายที่คุณต้องจ่าย โดยค่าปรับเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1,000 – 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวน ขนาด และความเสียหาย
ค่าปรับชนต้นไม้
การขับรถชนต้นไม้จำเป็นจะต้องเสียค่าปรับเช่นเดียวกับของหลวงอื่น ๆ โดยจะเป็นการจ่ายค่าปรับให้เทศบาลเมืองหรือกรมทางหลวง สำหรับค่าปรับเมื่อขับรถชนต้นไม้จะเริ่มต้นที่ 2,000 บาท และจะต้องมีการประเมินขนาดต้นไม้ จำนวนต้นไม้ และอายุต้นไม้ที่คุณชนด้วย
ถ้าหากไม่มีประกันรถยนต์ ขอผ่อนได้ไหม?
ถ้าหากไม่มีเงินก้อนจ่ายค่าเสาไฟฟ้า และ ยังไม่มีประกันรถยนต์อีกด้วย เราสามารถผ่อนจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ แต่ต้องเจรจาอีกทีครับ
โดยจะเป็นขั้นตอนการประนอมหนี้หรือการเข้าไปคุยต่อรองกับหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลเสาไฟฟ้าต้นนั้นๆที่เราไปทำเสียหายครับ ซึ่งการผ่อนจ่ายจะมีดอกเบี้ยด้วยนะครับ และก็จะมีงวดชำระให้เราตามความเหมาะสมโดยทางภาครัฐเขาก็จะมีแนวทางการผ่อนมาบอกเรานั่นเองครับ
รายละเอียดของการขับรถชนเสาไฟก็ประมาณนี้ครับ ต้องบอกว่าระหว่างนี้ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา ทำให้ผมยิ่งเห็นความสำคัญของประกันรถยนต์เพิ่มขึ้นอีกมากเลยครับ เพราะแม้แต่เสาไฟฟ้าที่เราเห็นอยู่ทุกวัน ถ้าหากเราไปทำเสียหายค่าชดใช้ก็ค่อนข้างเยอะมากๆ การมีประกันรถยนต์ไว้ก็อุ่นใจมากกว่าเยอะครับ แม้แต่ประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่ราคาเพียง 2,000 บาทก็มีความคุ้มครองหลักแสน-หลักล้านทีเดียวครับ
ข้อควรจำอย่างง่ายเกี่ยวกับการประกันภัยรถยนต์
- ประกันชั้นหนึ่ง บริษัท ฯ จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดไม่ว่ารถคุณจะไปชนกับอะไรก็ตามภายใต้วงเงินตามกรมธรรม์ระบุ
- ประกันชั้นสอง บริษัท ฯ กับคุณมีความรับผิดชอบร่วมกัน สัญญาจะระบุว่าคุณต้องจ่ายอะไร บริษัทต้องจ่ายอะไร
- ประกันชั้นสาม บริษัท ฯ รับผิดชอบรถยนต์คันที่เราขับไปชน แต่เราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถของเราเอง
- ประกัน พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 คุ้มครองสุขภาพทุกคนที่อยู่ในรถ บุคคลที่สามที่ไม่ได้อยู่ในรถแต่ได้รับบาดเจ็บเพราะรถ