โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

"ข้าวโพด–ถั่วเหลือง" จีเอ็ม เสริมแกร่งเกษตรกรไทยไปต่อ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ข้อเสนอหนึ่งที่นำไปแลกเปลี่ยนและได้รับการตอบรับจากสหรัฐอย่างมากคือการเปิดนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากสหรัฐในอัตราภาษี 0% ซึ่งนำไปสู่ข้อกังวลถึงความปลอดภัยของข้าวโพดจีเอ็มและผลกระทบที่อาจตามมา

ข้าวโพดจากสหรัฐอเมริกามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นข้าวโพดจีเอ็ม (Genetically Modified Corn) เนื่องจากสายพันธุ์ข้าวโพดข้าวโพดจีเอ็ม สามารถช่วยตอบสนองความต้องการของเกษตรกร โดยเฉพาะในด้านความต้านทานโรค การแก้ปัญหาศัตรูพืช และการปรับปรุงคุณสมบัติของพืช ให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว เพื่อให้พืชสามารถให้ผลผลิตได้สูงตามศักยภาพของแต่ละพันธุ์ที่ควรจะเป็น ควบคู่กับการช่วยลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกร ในขบวนการเพาะปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว

เทคโนโลยีการพัฒนาพืชจีเอ็มเกิดจากองค์ความรู้เมื่อกว่า 80 ปีที่ผ่านมาว่า ในธรรมชาติมีการตัดต่อพันธุกรรมเกิดขึ้น อาทิเช่น การตัดและต่อของสายพันธุกรรม ในการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของพืชและสัตว์ เพื่อให้เกิดความหลากหลายในสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตนั้น ตอบสนองต่อการคัดเลือกในธรรมชาติ หรือการค้นพบการตัดต่อพันธุกรรมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างแบคทีเรียหรือไวรัส กับ พืชหรือสัตว์หรือคน เป็นต้น

องค์ความรู้เหล่านี้ถูกนำมาประมวลเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นเทคโนโลยีการพัฒนาสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอ (GMO) ซึ่งในปัจจุบันมีพืชจีเอ็ม จุลินทรีย์จีเอ็ม และแม้กระทั่งสัตว์จีเอ็ม จำนวนมาก ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตร เช่น ข้าวโพดจีเอ็ม ถั่วเหลืองจีเอ็ม หรือทางการแพทย์ เช่น วัคซีนโควิดชนิด mRNA vaccine หรืออุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น เอนไซม์สำหรับการแปรรูปผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรและอาหาร กระดาษ ฯลฯ

ทั้งนี้ แม้ว่าสิ่งมีชีวิตจีเอ็มจะได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยเทคโนโลยีที่เกิดจากองค์ความรู้จากธรรมชาติ แต่ก่อนที่จะมีการเผยแพร่สิ่งมีชีวิตจีเอ็มเหล่านั้นสู่เกษตรกรหรือผู้บริโภค จะต้องมีการประเมินความปลอดภัย สำหรับการใช้ในสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในการบริโภคเสียก่อน ข้าวโพดจีเอ็มหรือถั่วเหลืองจีเอ็ม ก็ต้องผ่านกระบวนการประเมินความปลอดภัยนี้เช่นเดียวกัน

สายพันธุ์พืชจีเอ็มแต่ละชนิด จะต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพด้านสิ่งแวดล้อมและอาหาร เพื่อให้มั่นใจว่า สามารถนำไปปลูกในแปลงเกษตรกรเช่นเดียวกับพืชทั่วไป และมีความปลอดภัยในการใช้บริโภคเป็นอาหารเทียบเท่ากับพืชทั่วไป โดยที่การประเมินจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์สากล ได้แก่ CODEX และกฎระเบียบของแต่ละประเทศ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์จากพืชจีเอ็มแต่ละชนิด

ซึ่งในระยะเวลามากกว่า 20 ปีที่ผ่านมา มีพืชจีเอ็มจำนวนมากที่ได้ผ่านการประเมินความปลอดภัยในการบริโภคและสิ่งแวดล้อม และผลผลิตจากพืชจีเอ็มเหล่านั้น โดยเฉพาะ ข้าวโพด ถั่วเหลือง คาโนลา และฝ้าย มีการจำหน่ายอยู่ทั่วไปในตลาดโลก

สหรัฐอเมริกาและไทย ต่างก็มีการดำเนินงานของตนเองในการประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพของพืชจีเอ็ม โดยที่สหรัฐอเมริกามีข้อบังคับและกระบวนการประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและด้านอาหาร อันถือเป็นขั้นตอนสำคัญของการเผยแพร่พันธุ์พืชจีเอ็มสู่เกษตรกร พร้อมกับการดูแลความปลอดภัยทางอาหารให้กับผู้บริโภค

ในขณะที่ประเทศไทย มีการดำเนินงานภายใต้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 431พ.ศ 2565 ออกภายใต้ พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522 เรื่องอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม โดยมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ซึ่งปัจจุบันนี้ อย. ได้ทำการประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพด้านอาหารของข้าวโพดจีเอ็มและถั่วเหลืองจีเอ็ม ที่มีการจำหน่ายผลผลิตในตลาดโลก ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วทุกสายพันธุ์

ดังนั้นข้าวโพดจีเอ็มที่จะนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา จึงเป็นข้าวโพดที่ผ่านการประเมินและขึ้นทะบียนโดย อย. แล้วว่า สามารถนำมาใช้เป็นอาหารได้อย่างมีความปลอดภัยเทียบเท่ากับข้าวโพดทั่วไป

หลายประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ได้แก่ จีน สหภาพยุโรป อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี และอาเซียน ต่างมีการใช้ประโยชน์จากข้าวโพดจีเอ็มและพืชจีเอ็มชนิดอื่น เช่น ถั่วเหลือง ในรูปแบบของการนำเข้าเพื่อการแปรรูปเป็นอาหารและอาหารสัตว์

ในขณะที่อีกหลายประเทศมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเช่นกัน มีบทบาทเป็นทั้งผู้ปลูกและผลิตสินค้าพืชจีเอ็ม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา ออสเตรเลีย อินเดีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย เป็นต้น

ทั้งนี้ แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีพืชจีเอ็ม แต่ในทศวรรษที่ผ่านมา มีหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศจีนที่มีความก้าวหน้าอย่างมากในเทคโนโลยีพืชจีเอ็ม ซึ่งนำไปสู่การที่ประเทศจีนมีการปรับนโยบายสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากพืชจีเอ็มมากขึ้นและเร็วขึ้น ในปีที่ผ่านมาประเทศจีนได้มีการรับรองสายพันธุ์ข้าวโพดจีเอ็ม และถั่วเหลืองจีเอ็ม รวมกันประมาณ 180 สายพันธุ์

ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าพืชจีเอ็ม โดยเป็นการนำเข้าถั่วเหลืองจีเอ็มเป็นหลัก และมีแนวโน้มการนำเข้าข้าวโพดจีเอ็มอีกด้วย ซึ่งการนำเข้าทั้งข้าวโพดจีเอ็มและถั่วเหลืองจีเอ็ม ได้มีการประเมินรับรองความปลอดภัยในการบริโภคโดย อย. ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจากการที่ไทยนำเข้าถั่วเหลืองจีเอ็มมาอย่างยาวนาน โดยที่สินค้าของไทยที่ผลิตโดยใช้ถั่วเหลืองจีเอ็มเหล่านั้น สามารถจำหน่ายและส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง

ย่อมแสดงให้เห็นว่า สินค้านั้นเป็นที่ยอมรับของตลาดต่างประเทศ ซึ่งเหตุผลสำคัญด้านความปลอดภัยคือ ถั่วเหลืองจีเอ็มที่เรานำเข้ามาแปรรูปนั้น ได้ผ่านการประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพด้านอาหารโดย อย. ของไทย และ อย. ของประเทศคู่ค้า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการนำเข้าข้าวโพดจีเอ็ม ซึ่งผ่านการเประเมินความปลอดภัยแล้วเช่นเดียวกับถั่วเหลือง ก็ไม่ควรที่จะเป็นปัญหากับสินค้าไทยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลว่าการนำเข้าข้าวโพดจีเอ็มจากสหรัฐอเมริกา อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรข้าวโพดของไทย ซึ่งในประเด็นนี้ประเทศไทยควรกำหนดนโยบายและการปฏิบัติอย่างชัดเจน ให้มีการรับซื้อข้าวโพดที่เกษตรกรไทยปลูกทั้งหมดเสียก่อน จึงจะให้มีการนำเข้า เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเกษตรกรไทย เนื่องจากการนำเข้าจะเป็นการนำเข้าเฉพาะส่วนที่ประเทศไทยไม่สามารถผลิตได้เพียงพอเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะจากเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในภาคการเกษตรในวาระต่างๆ ให้มีการทบทวนนโยบายห้ามปลูกพืชจีเอ็มของไทย เนื่องจากเกษตรกรของจีน อินเดีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และอื่นอีกหลายประเทศ สามารถเลือกปลูกได้ทั้งพืชทั่วไปและพืชจีเอ็ม เนื่องจากมีวิธีการทางเทคนิคที่สามารถแยกผลผลิตจากการปลูกพืชธรรมดาและพืชจีเอ็มร่วมกัน อีกทั้งในปัจจุบันเทคโนโลยีการปลูกพืชจีเอ็ม ได้มีการพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ การลดการไถหน้าดิน การใช้ประโยน์จากซากพืช หรือการไม่เผาซากพืชเพื่อลดมลภาวะทางอากาศ เป็นต้น

ทั้งนี้ หากเราพิจารณาถึงศักยภาพของเทคโนโลยีพืชจีเอ็ม ประกอบกับข้อพิสูจน์ด้านความปลอดภัย และการซื้อขายผลผลิตพืชจีเอ็มในตลาดโลกในระยะเวลามากกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ข้อเสนอแนะของเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในภาคการเกษตร มีเหตุผลที่ควรรับฟังและให้ความสำคัญในการพิจารณาทบทวนนโยบาย เพื่อสร้างทางเลือกให้เกษตรกรไทย ในการเสริมความเข้มแข็งในการแข่งขันของการเกษตรไทย โดยเฉพาะในสภาวะสงครามทางการค้าอย่างเข้มข้นในปัจจุบัน

บทความโดย : ดร.บุญญานาถ นาถวงษ์ นายกสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ผบ.ตร.สั่งตร.ดูแลความปลอดภัยวันแม่ ป้องกันอาชญากรรม อุบัติเหตุ

37 นาทีที่แล้ว

แบงก์ชาติ แนะรัฐบาลอัดงบกระตุ้นศก. ค้างท่อ 2.4 หมื่นล้าน รับมือภาษีทรัมป์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คนร. ไฟเขียว NT ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ เผย 6 เดือนแรกกำไร 4 พันล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ยิงสดศึก คาราบาวคัพ 25 - 26 ผ่าน Monomax เชียร์ครบ 93 แมตช์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

วิดีโอ

นํ้าใจกลางสายฝน! รถมอไซค์ลื่นพุ่งเข้าใต้รถกระบะ สาวใจงามเร่งเข้าช่วยไม่คิดชีวิต

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

กัมพูชาโจมตีสถานพยาบาลไทย เสียหาย 146 ล้านบาท สธ.วางแผนฟื้นฟู 8 ขั้นตอน

สวพ.FM91

“โดรน” ดาบสองคมที่ต้องศึกษาและทำความเข้าใจ

THE ROOM 44 CHANNEL

เจ้าท่าปัตตานี นำกำลัง จับเรือประมงกระทำผิดกฏหมาย ดำเนินคดี

77kaoded

แบงก์ชาติ แนะรัฐบาลอัดงบกระตุ้นศก. ค้างท่อ 2.4 หมื่นล้าน รับมือภาษีทรัมป์

ฐานเศรษฐกิจ

ด่วน! ม.รามคำแหง มีมติเอกฉันท์ เพิกถอนปริญญากิตติมศักดิ์ "ฮุนเซน"

THE ROOM 44 CHANNEL

ทำกันได้ลงคอ! ตาเฒ่าหัวงูวัย 40 ขืนใจหลานสาว วัย 15 อ้าง เด็กมันยั่วเอง

สยามนิวส์
วิดีโอ

สะดุ้งทั้งรายการ! "ดร.ตฤณห์" แฉอาการป่วยแท้จริง "หมอปลาย" หลังเจอดราม่า ผ่าดวงชายแดน!

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...