“อ.เจษฏ์” ฟาดแรง อย่าให้ใครมาดึงให้เราไปเลือก สสร.มาร่างรัฐธรรมนูญ
“อ.เจษฏ์” ฟาดแรง อย่าให้ใครมาดึงให้เราไปเลือก สสร.มาร่างรัฐธรรมนูญ เราสามารถร่างรัฐธรรมนูญฉบับเราเองได้ เผยมี ม.144 ล้มสส.-สว.ในสภา ทำให้วนกลับไปเลือกตั้งใหม่ได้
วันที่ 28 มิ.ย. 2568 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รศ.ดร. เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ขึ้นปราศรัย “รวมพลังแผ่นดินไทย” ขับไล่นายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ว่าสมเด็จฮุนเซน และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะทะเลาะกันยังไง เราก็ปล่อยให้เขาด่ากัน สิ่งที่เราต้องทำคือแก้ปัญหาภายในประเทศของเราและเตรียมพร้อมสู้ศึกภายนอกประเทศ ซึ่งการแก้ปัญหาภายในประเทศคือการกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออก ซึ่งนายกฯไม่ลาออกแน่ ถ้ากดดันพรรคร่วมรัฐบาลให้ถอยจากการร่วมรัฐบาลนั้นก็มีอยู่หนึ่งพรรคคือพรรคภูมิใจไทยที่ถอยออกมา แต่หากถามว่าพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนถ้าหากว่านางสาวแพทองธาร ชินวัจร นายกรัฐมนตรี ถูกศาลวินิจให้ออกจากตำแหน่งนายกฯและทำการเลือกนายกรัฐมนตรีก่อนที่จะทำการยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ คิดว่าจะทำหรือไม่ ถ้าเขาไม่ทำต้องกดดันไปเรื่อยๆ
อ.เจษฏ์ ยังกล่าวอีกว่าเรามีเครื่องมือคือมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญเรื่องการใช้งบประมาณ ผิดประเภท หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะทำให้กรรมาธิการงบประมาณและคณะรัฐมนตรีหายไปทั้งหมด รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาหายไปทั้งหมดเหลือเพียงพรรคประชาชนพรรคเดียว และหากพรรคประชาชนลาออกก็จะทำให้เข้าตามมาตรา 5 คือประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตนไม่ได้เรียกร้องให้มีการรัฐประหารหรือเรียกร้องนายกรัฐมนตรีในลักษณะอื่น แต่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งตามประเพณีเป็นต้นมาก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นข้อระวังของประชาชนถ้าหากยังคงเลือกตั้งแบบที่ผ่านมาก็จะประเคนอำนาจอธิปไตยกลับไปสู่ตัวแทน ที่เป็นตัวแทนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์โฉดเขลาเปล่าปัญญา และจะต้องกลับมาชุมนุมแบบนี้อีก เพราะฉะนั้นจึงต้องทำอธิปไตยให้ชัดซึ่งมีอยู่สองอย่างคืออธิปไตยอย่างแรกที่เป็นนามธรรมอำนาจอธิปไตยที่เป็นของวงชนชาวไทยพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐบาลรัฐสภาศาล พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้นำของพวกเราแต่คนอื่นๆเป็นตัวแทนไปทำหน้าที่ให้เราไม่ใช่ เป็นคนถืออธิปไตยของเรา ต้องลงหลักปักฐานให้ชัดเจนอยู่ในหัวใจไม่อย่างนั้นไม่มีวันมีประชาธิปไตย ประชาธิปไตยคือมีอำนาจอธิปไตยอยู่ในตัวไม่ใช่หย่อนบัตรแล้วจบกัน
“เราต้องกดดันยกเลิกเอ็มโอยู 43 เอ็มโอยู 44 กับทางกัมพูชาให้มีการเจรจากับบรรดาประเทศที่เคารพและให้เกียรติเราเท่านั้นใครไม่ให้เกียรติเราเราก็ไม่ให้เกียรติคนนั้น ถ้าเราจะหลงกับคนบรรดามีเงินที่บอกว่าไปลงมติให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็จะถูกหลอกพวกคุณที่เอาสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มากำลังจะกินตับท่านเหมือนกับการเลือกสส.อย่าไปหลงคารมเลือกตามแบบที่เขาบอก พวกเราช่วยกันยกร่างรัฐธรรมนูญกันเองเราทำได้ไม่จำเป็นต้องไปล้มหรือไปฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเราค่อยค่อยลากไปทีละมาตรา ตนขอภาวนาร่วมกับประชาชนทั้งหลายที่เชื่อว่าตนพอมีความสามารถบ้างเรามาร่วมร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญของเราเองอย่าไปรอใครมาลากอย่าไปเลือกสสร. อย่าเชื่อพรรคการเมืองทั้งหลายมันหลอกกินตับเราทั้งสิ้น ถ้าเราไม่รักษาบ้านเมืองเราวันนี้จะไม่มีใครรักษาบ้านเมืองเราสืบต่อไป ” อ.เจษฏ์ กล่าว