ไม่ใช่น้ำดี! ส่วนหนึ่งของปลาที่ "สกปรกมาก" กินเข้าไปไม่ระวัง ร่างกายอาจต้องจ่ายแพง
อวัยวะส่วนหนึ่งของปลา "สกปรกมาก" อาจมีสารพิษ แต่กลับเป็นเมนูโปรดของหลายคน เตือนกินเข้าไปไม่ระวัง ร่างกายอาจต้องจ่ายแพง!
ปลานับเป็นอาหารคุ้นเคยบนโต๊ะอาหารของคนเวียดนาม ไม่ใช่แค่เนื้อปลาเท่านั้น หลายคนยังนำอวัยวะอื่นๆ ของปลามาปรุงอาหาร และบางส่วนก็ถือเป็น "ของอร่อย" เช่น ไส้ปลา อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจไม่รู้ว่า เมนูโปรดนี้ อาจแฝงไปด้วยความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างมาก
ตามข้อมูลจาก VnExpress ปลาเป็นสัตว์ที่กินได้ทุกอย่าง อาหารทุกประเภทที่ผ่านปากปลาจะถูกย่อยและกักเก็บไว้ในลำไส้ ซึ่งเป็นที่สะสมของเศษอาหาร ตะกอนสิ่งสกปรก รวมถึงอาจมี พยาธิ ไข่พยาธิ พยาธิตัวกลม หรือแม้แต่โลหะหนัก หากปลาถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ปนเปื้อน อวัยวะเหล่านี้อาจเป็นแหล่งสะสมสารพิษ ซึ่งอันตรายโดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
รองศาสตราจารย์ ดร.เหงียน ซุย ถินห์ (Nguyễn Duy Thịnh) จากสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพและอาหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีฮานอย ให้สัมภาษณ์ว่า “ไส้ปลาเป็นอวัยวะที่สกปรกที่สุดในตัวปลา และไม่ดีต่อระบบย่อยอาหาร” เขายังระบุว่า บางพื้นที่ของเวียดนามมีนิยมนำไส้ปลาช่อนมาย่างหรือแกล้มเหล้า แต่หากไม่ปรุงให้สะอาดหรือไม่สุกพอ ก็เสี่ยงสูงต่อการเกิดอาหารเป็นพิษและโรคในระบบทางเดินอาหาร
เคสตัวอย่างกินไส้ปลาแล้วต้องเข้าโรงพยาบาล ในปี 2017 เคยมีครอบครัวจำนวน 6 คน ต้องเข้าโรงพยาบาลหลังจากมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย และหายใจลำบาก ภายหลังพบว่าสาเหตุเกิดจากการรับประทาน ไส้ปลากระพงทะเลที่ตุ๋นกับหน่อไม้ โดยไส้ปลาไม่ได้รับการล้างอย่างสะอาดหรือเก็บรักษาไม่เหมาะสม แพทย์ระบุว่า ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ไส้ปลานั้นจะมีโลหะหนัก หรือสารพิษจากสิ่งแวดล้อมร่วมด้วย
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หากยังต้องการกินไส้ปลา ควรปฏิบัติดังนี้
ทำความสะอาดอย่างดี: ล้างด้วยน้ำเกลือเจือจางหลายรอบ เพื่อลดเมือก สิ่งสกปรก และสารตกค้าง
ปรุงให้สุกสนิท: ใช้ความร้อนสูงเพื่อฆ่าเชื้อโรคและพยาธิ
เลือกแหล่งปลาที่ปลอดภัย: ควรเลือกปลาจากแหล่งน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงปลาจากพื้นที่มลพิษ
อวัยวะอื่นของปลาที่เสี่ยงอันตราย: ถุงน้ำดี (ดีปลา)
อีกอวัยวะที่อันตรายมากคือ ถุงน้ำดีของปลา แพทย์จากศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลบั๊กมาย (Bạch Mai) ระบุว่า ดีปลา มีสารพิษหลายชนิด โดยเฉพาะ cyprinol sulfat ซึ่งเป็นกรดน้ำดีที่หากบริโภคเข้าไป อาจทำให้เกิดพิษรุนแรง เสี่ยงตับวาย ไตวาย หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
สาร cyprinol sulfat พบเฉพาะใน ตับ ถุงน้ำดี และตับอ่อนของปลาน้ำจืด ไม่พบในเนื้อปลา และไม่มีในปลาทะเล ที่สำคัญคือสารพิษนี้ทนความร้อน จึงแม้จะปรุงสุกก็ยังคงเป็นอันตรายได้
เพื่อความปลอดภัย ผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอวัยวะของปลาที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ไส้ปลา ถุงน้ำดี หรืออวัยวะภายในที่อาจสะสมสารพิษ ควรเลือกแหล่งปลาที่สะอาด และปรุงสุกเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพในระยะยาว