โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

นิวซีแลนด์คว้าแชมป์ Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก 3 ปีติดต่อกัน

Mission To The Moon

เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Mission To The Moon Media

Work Smarter, Not Harder
ต้องมี Work-Life Balance
ปรับที่โครงสร้าง ไม่ใช่ตัวเรา
.
หลายปีที่ผ่านมานี้คนด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี คนทำงานส่วนใหญ่นั้นกำลังพยายามหาทางปลูกฝังวิธีการทำงานแบบ Work Smart ไม่ใช่ Work Hard พยายามลด Task หรือภาระงานต่างๆ ที่ไม่จำเป็นด้วยการใช้ประโยชน์จากเครื่องทุ่นแรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี AI หรือระบบ Automation เพื่อ “ซื้อเวลาทำงาน” ของตัวเองกลับมา แล้วเอาเวลานั้นไปทำงานที่สร้างคุณค่าและสร้าง Work Life Balance กับชีวิตของตัวเอง
.
ทั้งนี้ ในยุคที่โลกเคลื่อนไหวเร็วขึ้น การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนให้ความสนใจ หลังจากที่หลายประเทศประสบปัญหา "Burnout" หรือความเหนื่อยล้าจากการทำงานมากขึ้น
.
Work-Life Balance หรือ "สมดุลชีวิต-งาน" ไม่ได้หมายถึงแค่การแบ่งเวลาให้เท่าๆ กัน แต่คือการมีเวลาและพลังงานเพียงพอในการจัดการงานโดยไม่ให้มันกลืนกินชีวิตส่วนตัว ซึ่งรวมถึงการมีความยืดหยุ่น การสนับสนุนจากองค์กร และโครงสร้างที่เหมาะสม ทำให้สามารถเสร็จงานได้โดยไม่รู้สึกผิด ใช้วันลาเมื่อจำเป็น และไม่ต้องเช็กอีเมลดึกดื่น
.
แต่โลกแห่งความจริงนั้นย่อมไม่เป็นไปตามที่หลายคนวาดฝันเอาไว้ เนื่องจากในปัจจุบันนี้ ในคนทำงานทั่วโลก โดยเฉพาะคนอเมริกัน ก็กำลังประสบปัญหาของทำงานหนักอย่างไร้ Work-Life Balance เพื่อไล่กวดค่าครองชีพที่กำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
.
แต่ในขณะที่คนทำงานหลากหลายประเทศกำลังประสบปัญหากับการทำงานหนัก ประเทศนิวซีแลนด์สามารถสร้าง Work-Life Balance ให้กับคนทำงานภายในประเทศได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นวันลาพักผ่อนมากกว่า 30 วัน ลาคลอด 6 เดือนแบบมีเงินเดือน และค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถูกจัดให้เป็นประเทศที่มี Work-Life Balance ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 จาก Global Life-Work Balance Index
.
.
นิวซีแลนด์ ประเทศที่มี Work-Life Balance ที่สุดในโลก 3 ปีซ้อน
.
การศึกษาล่าสุดเรื่อง "Global Life-Work Balance Index" พบว่านิวซีแลนด์คว้าตำแหน่งประเทศที่มีสมดุลระหว่างชีวิตและงานดีที่สุดเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีคะแนนดีขึ้นจากปี 2024 ส่วนหนึ่งมาจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเล็กน้อย
.
โดยแพลตฟอร์ม HR ระดับโลกอย่าง Remote ได้ศึกษา 60 ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อวัดว่าประเทศใดที่ช่วยให้คนงานสามารถ "ใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างเป็นอย่างดี"
.
ซึ่งดัชนีนี้วัดปัจจัยต่างๆ ตั้งแต่วันลาพักผ่อน การลาป่วย นโยบายลาคลอด ค่าแรงขั้นต่ำ สุขภาพ ความสุข ชั่วโมงทำงาน การเปิดกว้างต่อ LGBTQ+ และความปลอดภัยโดยรวม โดยให้คะแนนแต่ละประเทศจากเต็ม 100 คะแนน
.
ผลออกมาก็คือนิวซีแลนด์ทำคะแนนได้ดีในทุกหมวดหมู่ ด้วยคะแนนรวม 86.87 คะแนน โดยคนคนงานที่นั่นสามารถเพลิดเพลินกับวันลาพักผ่อนถึง 32 วัน ลาคลอดแบบได้เงินเดือนเต็ม 6 เดือน และค่าแรงขั้นต่ำที่สูงที่สุดในโลกที่ 16.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง (ประมาณ 534 บาทต่อชั่วโมง) เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯ ที่มีค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยระดับประเทศอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง (ประมาณ 236 บาทต่อชั่วโมง) เพียงเท่านั้น
.
"ตามที่การศึกษาของเราแสดงให้เห็น ประเทศเช่น นิวซีแลนด์ และหลายประเทศในยุโรปช่วยให้พนักงานของพวกเขาสามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและงานด้วยนโยบายที่เอาพนักงานเป็นหลัก แต่ประเทศอย่างสหรัฐอเมริกากลับเสี่ยงที่จะเดินเข้าสู่ภาวะระบาดของการหมดไฟในการทำงาน ด้วยวัฒนธรรมที่ยังคงให้ความสำคัญกับการทำงานนานและวันลาพักผ่อนจำกัด" รายงานจาก Global Life-Work Balance Index ระบุเพิ่มเติม
.
รองลงมาจากนิวซีแลนด์คือ ไอร์แลนด์และเบลเยียม โดยไอร์แลนด์ได้คะแนน 81.17 ช่วยด้วยค่าแรงขั้นต่ำที่ค่อนข้างสูงและนโยบายลาคลอดที่ดี ส่วนเบลเยียมได้คะแนน 75.91 โดยโดดเด่นด้วยการลาป่วยและอัตราการจ่ายเงินระหว่างลาคลอด นอกจากนี้เบลเยียมยังมีอัตราความสุขที่สูงที่สุดในยุโรป พร้อมกับสัปดาห์ทำงานที่สั้นกว่าค่าเฉลี่ย (เฉลี่ย 34.1 ชั่วโมง)
.
Work-Life ❌ Life-Work ✅
.
เมื่อจัดอันดับประเทศที่มีคะแนนดีที่สุดและแย่ที่สุด การศึกษานี้ได้บอกว่าแนวคิดการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานแบบดั้งเดิมกำลังเปลี่ยนไป จาก "Work-life balance" พลิกเป็น "Life-work balance" เพื่อเน้นว่าการใช้ชีวิตควรเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรก เหนือกว่าการทำงานนั่นเอง
.
5 อันดับแรกประเทศที่มีสมดุล 'Life-Work Balance' ดีที่สุดได้แก่
.
1. นิวซีแลนด์, เวลลิงตัน 86.87 คะแนน
2. ไอร์แลนด์, ดับลิน 81.17 คะแนน
3. เบลเยียม, บรัสเซลส์ 75.91 คะแนน
4. เยอรมนี, เบอร์ลิน 74.65 คะแนน
5. นอร์เวย์, ออสโล 74.20 คะแนน
.
5 อันดับสุดท้ายประเทศที่มีสมดุล 'Life-Work Balance' แย่ที่สุดได้แก่
.
60. ไนจีเรีย, อาบูจา 26.67 คะแนน
59. สหรัฐอเมริกา, วอชิงตัน ดี.ซี. 31.17 คะแนน
58. อียิปต์, ไคโร 35.77 คะแนน
57. บังกลาเทศ, ธากา 36.91 คะแนน
56. เอธิโอเปีย, แอดดิส อาบาบา 37.61 คะแนน
.
แล้วประเทศไทยอยู่ตรงไหน?
.
สำหรับประเทศไทย จากการสำรวจ Global Life-Work Balance Index 2025 นั้น ประเทศไทยถือว่าอยู่ในระดับกลาง ที่อันดับ 39 ซึ่งถ้ามองในระดับภูมิภาค ประเทศไทยติดอันดับใน Top 10 ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบไปด้วยกลุ่มประเทศ ไต้หวัน, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย และ เวียดนาม
.
ประเทศไทยโดดเด่นในด้านการเปิดกว้างต่อ LGBTQ+ โดยได้อันดับที่ 3 สูงสุดในภูมิภาค ขณะที่อินโดนีเซียอยู่อันดับที่ 2 ต่ำสุด อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีจุดอ่อนในเรื่องวันลาขั้นต่ำ ที่มีเพียง 6 วันต่อปี เท่ากับเม็กซิโก ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดในการสำรวจ
.
สำหรับประเทศที่มีอัตรา Life-Work Balance ดีที่สุด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็คือ สิงคโปร์นำหน้าด้วยอันดับที่ 25 ระดับโลก ตามด้วยเวียดนาม (อันดับ 37) ไทย (อันดับ 39) อินโดนีเซีย (อันดับ 43) และมาเลเซีย (อันดับ 47) ตามลำดับ
.
.
คนทำงานรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ Balance เหนือ ‘เงินเดือน’
.
แน่นอนว่า ประเด็นของ Work-Life Balance นั้นแทบจะเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันอยู่เป็นประจำโดยเฉพาะในวงสนทนาของคนทำงานรุ่นใหม่ แต่ผลสำรวจล่าสุดจากรายงานนี้ยิ่งชี้ให้เห็นชัดว่า คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญจริงๆ ซึ่งพบว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance ยิ่งกว่าเงินเดือนเสียอีก
.
แต่ความต้องการ Work-Life Balance นี้ไม่ได้วนเวียนอยู่แค่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่เท่านั้น เพราะการสำรวจเพิ่มเติมภายในรายงานนี้พบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของคนรุ่นมิลเลนเนียลยินดีที่จะลดเงินเดือน 20% เพื่อไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต ตามการสำรวจของฟอร์ด
.
นอกจากนี้ 77% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับชีวิตส่วนตัวที่สมดุลมากกว่าความสำเร็จหรือการเติบโตในงาน
.
ท้ายที่สุดนี้ สังเกตได้ว่า การศึกษาครั้งนี้เผยให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการพนักงานและคุณภาพชีวิต กับประเทศที่ยังคงยึดติดกับวัฒนธรรมการทำงานหนัก
.
สำหรับประเทศไทย แม้จะมีจุดแข็งในบางด้าน เช่น การเปิดกว้างต่อ LGBTQ+ แต่ยังมีพื้นที่ปรับปรุงในเรื่องสิทธิ์การลาพักผ่อนและนโยบายสวัสดิการแรงงาน ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการพัฒนานโยบายการทำงานให้ทันสมัยและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เริ่มให้ความสำคัญกับความสุขและสมดุลชีวิตมากขึ้น
.
.
อ้างอิง
- New Zealand has the best work-life balance in the world—here’s what works : Jessica Coacci, Fortune - http://bit.ly/4244V8T
- Global Life-Work Balance Index 2025 : Remote - http://bit.ly/4fVCf7Z
.
.
#WorkLifeBalance
#LifeWorkBalance
#ชีวิต
#การทำงาน
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Mission To The Moon

รู้สึกเหมือนเป็น ‘คนนอก’ ที่มีเพื่อนเยอะแต่ไม่สนิท? สัญญาณว่าคุณคือ Otrovert คนเปิดเผย แต่ไม่เปิดใจ

2 วันที่แล้ว

Active Career Management วิธีอยู่รอดของคนทำงานยุคใหม่ เกษียณอายุ 45 หรือเร็วกว่านั้นก็ไม่กลัว

21 ส.ค. เวลา 05.30 น.

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

Victoria Beckham เห็นรายได้แบรนด์เพิ่มขึ้น 26% อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาทในปี 2024

THE STANDARD

‘มิ้ลค์-เลิฟ’ นำทีมนักแสดง ร่วมชมซีรีส์ตอนจบ ‘คุณวาฬร้านชำ Final EP. FAN MEETING’

กรุงเทพธุรกิจ

AESOP เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ Above Us, Steorra

THE STANDARD

รู้ดีว่าเวลาของยายหลานไม่เคยเดินตรงกัน และยายก็หวังให้หนูได้ทำตาม ‘ดั่งใจปรารถนา’

a day magazine

พร้อมให้คนไทยพิสูจน์ ‘ผีใช้ได้ค่ะ’ เข้าฉายในโรงแล้ววันนี้

กรุงเทพธุรกิจ

9 ปีของ SPACEBAR ZINE ร้านสิ่งพิมพ์อิสระที่ได้ลงนิตยสาร POPEYE และ BRUTUS

Capital

วิธีซ่อม "ขอบยางตู้เย็น" ที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมาแน่นเหมือนใหม่

sanook.com

เปิด 3 ข้อสันนิษฐาน ทำไม “ท่าเตียน” บนถนนมหาราช ย่านพระนคร ถึงชื่อนี้

ศิลปวัฒนธรรม

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...