สทนช.เตือนลุ่มน้ำโขงเหนือรับมือฝนตกหนัก-ภาคกลางระวังน้ำทะเลหนุนสูง
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งเรียกประชุมศูนย์ฯ ส่วนหน้าลุ่มน้ำโขงเหนือ และระดมทุกหน่วยงานวางแผนรับมือฝนที่จะตกหนักตั้งแต่ 24 ส.ค. นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ฝนจะเริ่มตกหนักอีกครั้งในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น และตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม อาจเกิดพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในบริเวณทะเลจีนใต้ เคลื่อนเข้ามาในทิศทางที่มีลักษณะคล้ายพายุวิภา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช. เร่งลงพื้นที่และประชุมคณะทำงานฯ เพื่อให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานรับทราบสถานการณ์และเตรียมความพร้อมล่วงหน้า
"การเรียกประชุมก็เพื่อเตรียมความพร้อมในหลายเรื่อง ได้แก่ การเร่งพร่องระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำฝน โดยไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ และไม่ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่รอบกว๊านพะเยา ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 50% ของความจุเก็บกัก ซึ่งยังมีพื้นที่ว่างบริหารจัดการได้อยู่ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะให้บริการข้อมูลเฉพาะพื้นที่ที่มีความแม่นยำและเป็นการล่วงหน้า ให้กับจังหวัดเพื่อนำไปใช้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA จะสนับสนุนข้อมูลความชื้นในดินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือขณะนี้พบว่ามีค่าความชื้นในดินสูง ดังนั้น ฝนที่ตกลงมาส่วนใหญ่จะกลายเป็นน้ำท่าและไหลลงสู่ลำน้ำต่าง ๆ ซึ่งต้องประเมินระดับน้ำในแต่ละแห่งอย่างใกล้ชิดต่อไป"
เตือนภาคกลาง -พื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง
นอกจากเฝ้าระวังฝนตกหนักในบริเวณลุ่มน้ำโขงเหนือแล้ว สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ยังได้ออกประกาศแจ้งเตือนน้ำทะเลหนุนสูง
ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา จากกรมอุทกศาสตร์ โดยคาดหมายระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นที่ใกล้เคียง ในระหว่างวันที่ 20 - 26 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 17.00 - 20.00 น. เป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยคาดหมายระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นที่ใกล้เคียงอาจมีความสูงประมาณ 1.70 - 2.00 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.30 เมตร
ประกอบกับอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกในบางพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำจะเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม เนื่องจากน้ำทะเลหนุน บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) บริเวณจังหวัด
- สมุทรปราการ
- กรุงเทพมหานคร
- นนทบุรี
- สมุทรสาคร
- นครปฐม
- สมุทรสงคราม
ทั้งนี้สทนช.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือดังนี้
- ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งข้อมูลแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำ นอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำทราบล่วงหน้า
- เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
- ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ และประตูระบายน้ำ เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์