ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน คุกตวลสเลง-ทุ่งสังหาร กัมพูชาเป็นมรดกโลก
เมื่อความเจ็บปวดในอดีตถูกจารึกไว้ชั่วนิรันดร์! องค์การยูเนสโกสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ด้วยการประกาศขึ้นทะเบียน "คุกตวลสเลง-ทุ่งสังหารเจืองเอ็ก" ในกัมพูชา ให้เป็นมรดกโลก! นี่ไม่ใช่แค่การรับรองสถานที่ แต่คือการย้ำเตือนถึงโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่เขมรแดงคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์นับล้านคน! การตีกลองทั่วประเทศของชาวกัมพูชาในวันนี้ จะเป็นสัญลักษณ์แห่งการจดจำและไม่ลืมเลือน!
ประวัติศาสตร์อันมืดมิดของกัมพูชา ได้รับการจารึกสู่สายตาชาวโลกอย่างเป็นทางการแล้ว! กับการรับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (World Heritage site) ชิ้นที่ 5 ในปี 2025 ในชื่อ “Cambodian Memorial Sites: From centres of repression to places of peace and reflection" หรือ “อนุสรณ์สถานแห่งกัมพูชา: จากศูนย์กลางการปราบปรามสู่สถานที่แห่งสันติภาพและการไตร่ตรอง” ในสมัยเขมรแดง
มีอนุสรณ์สถานได้รับการขึ้นทะเบียน 3 แห่ง ได้แก่
- 1. สถานกักกัน Former M-13 prison
- 2. พิพิธภัณฑ์ Tuol Sleng Genocide Museum (former S-21 prison) หรือคุกตวลเสลง ใจกลางกรุงพนมเปญ
- 3. Choeung Ek Genocidal Center (former execution site of S-21) หรือศูนย์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เฌออึงเอก (อดีตสถานที่ประหารชีวิต S-21)
โดยการประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีของการขึ้นสู่อำนาจของ "ระบอบคอมมิวนิสต์เขมรแดง" (ปี 1975) ภายใต้การนำของ พล พต ซึ่งเป็นช่วงเวลา 3 ปี 8 เดือน 20 วัน ที่แผ่นดินกัมพูชาต้องจมดิ่งสู่ความโหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
คุกตวลสเลง หรือที่รู้จักกันในชื่อ "S-21" เดิมคือโรงเรียนมัธยมศึกษา แต่ถูกดัดแปลงให้เป็นเรือนจำและศูนย์ทรมานนักโทษที่ใหญ่ที่สุดของเขมรแดง ที่นี่คือสถานที่ที่ผู้บริสุทธิ์นับหมื่นถูกจับกุม สอบสวน ทรมาน และบันทึกภาพ ก่อนจะถูกส่งไปสังหารหมู่ที่ "ทุ่งสังหาร" ทั่วประเทศ ซึ่ง "เจืองเอ็ก" คือหนึ่งในทุ่งสังหารที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ที่นี่คือสุสานไร้หลุมศพของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนับแสนคน ที่ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดด้วยวิธีการอันป่าเถื่อน ไม่เว้นแม้แต่เด็กและทารก เพื่อกำจัด "ศัตรูทางชนชั้น" และผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า "ทรยศต่อการปฏิวัติ"
การขึ้นทะเบียนมรดกโลกในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการยกย่องคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสถานที่ แต่ยังเป็นการย้ำเตือนถึงความเจ็บปวด ความสูญเสีย และความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกันเอง เพื่อให้โลกได้เรียนรู้และไม่ให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ของยูเนสโกถือเป็นการเสนอชื่อครั้งแรกของกัมพูชาในฐานะสถานที่ทางประวัติศาสตร์ยุคใหม่ และถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งของโลกที่มีการบรรจุสถานที่ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความขัดแย้งยุคใหม่เข้าสู่บัญชีมรดกโลก
นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แห่งกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์เชิญชวนให้ประชาชนกัมพูชาทั่วประเทศ ร่วมกัน "ตีกลอง" ในเช้าวันนี้ (13 ก.ค.) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยเยียวยาจิตใจของชาวกัมพูชาที่ต้องแบกรับบาดแผลจากอดีตอันเลวร้าย และเป็นเครื่องเตือนใจให้คนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงคุณค่าของสันติภาพและเสรีภาพ