สื่อนานาชาติเข้าใจไทยในยุทธวิธีภารกิจเหยี่ยวเวหา F-16
กทม. 26 ก.ค. – สื่อนานาชาติเข้าใจไทยในยุทธวิธี ภารกิจเหยี่ยวเวหา F-16 จำกัดวงเฉพาะพื้นที่ทหาร หลังกัมพูชาถล่มเป้าหมายพลเรือนไทยต่อเนื่อง ยืนยันป้องกันประเทศตามหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศ ขณะที่อินฟลูฯ และนักวิชาการนานาชาติชื่นชมไทยปฏิบัติภารกิจด้วยสุภาพบุรุษทางการทหาร
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ได้สรุปความคิดเห็นของนักวิชาการ สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ต่างแสดงความเข้าใจที่ประเทศไทยดำเนินการทางยุทธวิธี ในกฎการปะทะ โดยปฏิบัติจำกัดวงของภารกิจเฉพาะพื้นที่กำลังทางทหารของกัมพูชาซึ่งเป็นการปฏิบัติต่อต้านการรุกราน รักษาอธิปไตยดินแดนไทย และยืนยันการใช้ F-16 ตอบโต้กัมพูชาเมื่อวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2568 สอดคล้องกับสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ หลังจากกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธหนัก และยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าใส่บ้านเรือนและพื้นที่ของพลเรือนไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ มีการระบุว่าศักยภาพ F-16 เป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อพื้นที่พลเรือน ขณะที่กัมพูชาใช้อาวุธหนักอย่างปืนใหญ่ที่นำมาใช้อย่างไม่เลือกเป้าหมาย
ล่าสุดสื่อต่างประเทศ เช่น CNA ของสิงคโปร์ ได้สัมภาษณ์นักวิชาการด้านความมั่นคงจากมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งยืนยันว่าการตอบโต้ของปองทัพไทยมีความแม่นยำและจำกัดเฉพาะเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เป็นต้นตอของการโจมตี โดยไม่กระทบพื้นที่พลเรือน พร้อมชี้ว่าใช้ยุทธวิธีได้อย่างเหมาะสมในบริบทของความขัดแย้งชายแดน ซึ่งในส่วนของกองทัพอากาศไทยนั้นได้ใช้ F-16 พร้อมอาวุธนำวิถีแม่นยำ เข้าโจมตีฐานยิงจรวดและค่ายทหารของกัมพูชา โดยหลีกเลี่ยงพื้นที่พลเรือนทั้งหมด
นายจิรายุ เปิดเผยว่า กระแสความคิดเห็นจากประชาชนหลากหลายชาติ รวมถึงนักวิชาการสื่อและอินฟลูเอนเซอร์ต่างประเทศชั้นนำ มีการวิเคราะห์ นำเสนอข้อมูลเชิงวิชาการ รวมทั้งความคิดเห็น ทำนองเดียวกันว่า ไทยตอบโต้หลังกัมพูชาที่ได้ละเมิดอธิปไตยและโจมตีประชาชนไทยก่อน โดยเฉพาะพื้นที่พลเรือน โรงพยาบาล ขณะที่กัมพูชายังมีการใช้ภาพ AI ปล่อยข่าวปลอม เช่น สอย F-16 ของไทย หลอกลวงคนของตัวเองไปวันๆ
“ขอขอบคุณคนไทยทุกสาขาอาชีพ พลเรือนจากมิตรประเทศ เหล่า Influencers นักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ช่วยกันออกมาโพสต์ ทำคลิปวิดีโอ ให้ข้อมูลเชิงวิชาการ เผยแพร่ข้อเท็จจริงในโลกออนไลน์ ทำความจริงให้ปรากฏในสายตาชาวโลกว่า “ประเทศไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” นายจิรายุ กล่าว.-319-สำนักข่าวไทย