เกิดอะไรขึ้นกับญี่ปุ่น? คลื่นความร้อนฉุดผลผลิตข้าว พืชผัก ทยอยขึ้นราคา 30% หมูแพงสุดในรอบ 50 ปี
ภัยธรรมชาติ จากคลื่นความร้อนในญี่ปุ่น กำลังคุกคาม ผลผลิตข้าว และราคาอาหาร พืชผักทยอยปรับขึ้นราคาสูงขึ้น 10 – 30% ต่อปี กระทบค่าครองชีพ ส่วนเนื้อหมูทุบราคาสูงสุดในรอบ 50 ปี
สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า จังหวัดนีงาตะ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตและศูนย์กลางการปลูกข้าวสำคัญของญี่ปุ่น กำลังประสบภัยแล้ง ผืนนาที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในพื้นที่ภูเขาแห้งแล้งหนัก
เจเอ เอจิโกะ โจเอ็ตสึ สหกรณ์การเกษตรท้องถิ่น กล่าวว่า “ฝนไม่ตกเลยตลอดเดือนที่ผ่านมา นาข้าวกำลังแห้งเหือด และต้นข้าวก็เหี่ยวเฉาและกลายเป็นฟาง” หากนาข้าวไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพอภายในต้นเดือนสิงหาคม อาจทำให้ต้นข้าวไม่สามารถออกรวง ส่งผลให้ผลผลิตลดลง
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมของญี่ปุ่น สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี พ.ศ. 2441 ปริมาณน้ำฝนตามแนวชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นในภูมิภาคโทโฮคุ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 13% และในภูมิภาคโฮคุริกุ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี พ.ศ. 2489
ปัจจัยหลักมาจากภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 ปริมาณการเก็บเกี่ยวทั่วประเทศต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ 6.69 ล้านตัน และ 80,000 เมตริกตัน เป็นเมล็ดข้าวที่เปลี่ยนสีไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้ ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนและราคาข้าวสูงขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง
จากการสำรวจการเพาะปลูกของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวนาปี จะเพิ่มขึ้น 560,000 ตันในปีนี้ เป็น 7.35 ล้านตัน
โยชิฮิเดะ คันโนะ ชาวนาในเมืองนางาอิ จังหวัดยามากาตะ กล่าวว่า “อากาศร้อนมากจนรู้สึกเหมือนได้อาบน้ำอุ่นในนาข้าว ความเครียดจากความร้อน จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
ขณะเดียวกัน ผักฤดูร้อนได้รับผลกระทบแล้ว ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ราคาขายส่งมะเขือเทศในโตเกียวอยู่ที่ 415 เยน (2.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ราคาฟักทองเพิ่มขึ้น 20% พริกหวานเพิ่มขึ้น 30% และการส่งออกจากผู้ผลิตลดลง 30%
JA ซึ่งเป็นสหกรณ์การเกษตรญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า การเก็บเกี่ยวพริกหวานจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมจะให้ผลผลิตน้อยกว่าปีที่แล้ว 20%
“ผักจำนวนมากมีภาวะชะงักงันเนื่องจากความร้อนและภัยแล้ง การส่งออกน่าจะน้อยกว่าปีปกติตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป” ผู้ค้าส่งผักในตลาดโอตะในโตเกียว กล่าว
ส่วนราคาเนื้อสัตว์และปลาก็สูงขึ้นเช่นกันเนื่องจากความร้อน ราคาเฉลี่ยของเนื้อหมูคุณภาพสูงในประเทศหนึ่งกิโลกรัมในตลาดขายส่งกลางในโตเกียวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยอยู่ที่ 866 เยน ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดในรอบ 50 ปี คลื่นความร้อนทำให้สัตว์กินเนื้อน้อยลง ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นช้าลง ส่งผลให้การขนส่งเข้าสู่ตลาดล่าช้า ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตโดยรวมลดลง
นอกจากนี้ อุณหภูมิน้ำทะเลในน่านน้ำใกล้ญี่ปุ่นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในเดือนกรกฎาคม นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติในปี พ.ศ. 2525 โดยบางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปีละ 5 องศา ในจังหวัดคาโกชิมะ ราคาขายส่งปลาแอมเบอร์แจ็คที่เลี้ยงไว้เพิ่มขึ้น 50% ถึง 60% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เ
กษตรกรรายหนึ่งกล่าวว่า เนื่องจากอุณหภูมิน้ำที่สูงและมาตรการแก้ไขปัญหาการบานของสาหร่าย
“เราไม่สามารถให้อาหารพวกมันได้อย่างเพียงพอ พวกมันจึงเติบโตช้า”
โยชิกิ ชินเกะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของไดอิจิ ไลฟ์ กรุ๊ป คาดการณ์ว่า หากราคาผักและผลไม้เพิ่มขึ้น 20% ต่อปี ครัวเรือนจะต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 2,000 เยนต่อเดือน หากราคาเพิ่มขึ้น 30% ภาระที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ที่ 3,000 เยนต่อเดือน ส่งผลกระทบต่อการบริโภค
รายงานข่าวระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม กระทรวงเกษตรได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อรับมือกับภัยแล้งและอุณหภูมิสูงขึ้นเป็นครั้งแรก หน่วยงานใหม่นี้จะทำงานร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อรวบรวมข้อมูลความเสียหาย อุดหนุนเงิน เพื่อจัดหาเครื่องสูบน้ำ ตามปีงบประมาณ
ขณะนี้ ผู้ผลิตกำลังพยายามต่อสู้กับความร้อนที่รุนแรงเช่นกัน ทาคิอิ บริษัทเมล็ดพันธุ์รายใหญ่ในเกียวโต ได้พัฒนามะเขือเทศพันธุ์ทนความร้อนที่มีแนวโน้มเปลี่ยนสีน้อยลง ส่วน JA Biratori ในฮอกไกโดได้เพิ่มพื้นที่เพาะปลูกมะเขือเทศพันธุ์นี้ขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2568 โดยอ้างถึงรสชาติและคุณภาพที่ดี
ภาพ: Karen Kasmauski/ Getty Images
อ้างอิง: