โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“Telling China’s Story Well” ประเทศจีนกลัวอะไรในงานศิลปะ?

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

เรื่องบางเรื่องเวลาเล่าออกไปอาจดูเหมือนเรื่องแต่งเสียดสีเหน็บแนมมากกว่าความจริง

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) มีการถอดและเซ็นเซอร์งานศิลปะจากนิทรรศการกลุ่มชื่อ‘ดาราภิวัตน์ ■ ภูมิทัศน์เงา: สำรวจกลไกระดับโลกของความเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ระบอบอำนาจนิยม’ นิทรรศการซึ่งนำเสนอศิลปะที่พูดถึงจุดร่วมกันของรัฐอำนาจนิยมจากศิลปินผู้เคยอาศัยอยู่หรือถูกเนรเทศออกจากประเทศเหล่านั้น เช่น พม่า อิหร่าน รัสเซีย ซีเรีย มีประเทศอื่นๆ อยู่ในลิสต์ แต่ชื่อเหล่านั้นถูกเทปสีดำปิดทับหายไป

หนังบางเรื่องถูกเซ็นเซอร์ งานบางงานหายไป ธงบางผืนหายไป คำบางคำถูกแปะเทปดำ เช่น ฮ่องกง ทิเบต และอุยกูร์ ไซ คิวเรเตอร์ชาวพม่าผู้ดูแลนิทรรศการนี้กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่ามีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตจีนและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรุงเทพเดิน “เข้ามาในงานแล้วบอกให้ปิดมันลงเสีย” หลังจากนั้นไม่นานก็มีอีเมลส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์สตามมาว่านิทรรศการดังกล่าวถูกตักเตือนว่าจะ ‘เสี่ยงที่จะสร้างแรงเสียดทานทางการทูตระหว่างไทยและจีน’

“นิทรรศการนี้บ่อนทำลายเรื่องที่จีนกำลังผลักดันและเกียรติยศทางการเมืองของประเทศ…การที่ประเทศผู้เกี่ยวข้องจัดการงานเหล่านี้อย่างรวดเร็วแม่นยำแสดงให้เห็นว่าการนำเสนอข้อมูลเท็จเช่น ‘ขบวนการเอกราชทิเบต’ ‘ขบวนการอิสลามเตอร์กีสถานตะวันออก’ และ ‘ขบวนการเอกราชฮ่องกง’ นั้นไม่มีค่าทางการตลาดในสายตานานาชาติและไม่เป็นที่นิยม” กระทรวงการต่างประเทศจีนตอบสำนักข่าวรอยเตอร์ส

การนำงานออกดังกล่าวนำไปสู่บทสนทนามากมายในหมู่คนที่สนใจศิลปะ บทสนทนาเช่น การที่จีนมีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจถอดงานในประเทศอื่นได้หมายความว่ายังไงกับเสรีภาพในการแสดงออกของเรา และ BACC ในฐานะหอศิลป์ระดับท็อปของประเทศยังเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับศิลปะหรือไม่

คำติดปากของเราเวลาที่องค์กรสักอย่างในไทย ‘กระทำตามใจจีน’ คือการบอกว่าประเทศไทยคือ ‘มณฑลไท่กั๋ว’ เป็นเหมือนการอนุมานว่าเหตุที่ประเทศของเราต้องโอนอ่อนตามคำขอของประเทศจีนเป็นเพราะว่าเราเป็นประเทศตัวน้อยที่ไร้อำนาจและต้องเกาะเกี่ยวกับพี่จีนเพื่อผลประโยชน์ เป็นการอนุมานว่าถ้าไม่ใช่ไทย เรื่องราวเช่นการถอดงานศิลปะแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้ว

หนึ่งในบทสนทนาที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้คือ ‘จีนกลัวอะไรศิลปะนัก’ เนื่องจากนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่งานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับจีนที่จัดแสดงต่างประเทศถูกองค์กรจีนกดดันให้เซ็นเซอร์หรือถอดออก แต่มันเกิดขึ้นมาแล้วในหลากหลายพื้นที่ในโลก แม้แต่ในทวีปยุโรปซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางศิลปะของโลก

องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่โฟกัสเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกชื่อIndex on Censorship ทำชิ้นงานรวบรวมข้อมูลเรื่องการเซ็นเซอร์งานศิลปะโดยรัฐบาลจีนเอาไว้เมื่อปี 2022 งานเขียนดังกล่าวพาเราไปมองตั้งแต่วิธีการ ผลกระทบ และเหตุที่จีนต้องคอยจับตางานศิลปะทั่วโลกไว้เสมอ

งานเขียนชิ้นนี้เริ่มต้นที่การพูดถึงสโลแกน“Telling China’s Story Well” หรือที่แปลตรงตัวว่า “เล่าเรื่องจีนให้ดี” สโลแกนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2013 หรือปีแรกที่สีจิ้นผิงขึ้นนั่งตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศจีน การเล่าเรื่องดีๆ ในที่นี้มีอยู่ด้วยกัน 3 องค์ประกอบหลัก คือ:

1. เล่าถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party/CCP) ว่าเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ

2. เล่าถึง ‘ฝันแบบจีน’ (Chinese Dream) นั่นคือฝันที่ประเทศจีนจะยิ่งใหญ่ มั่งคั่ง และมีสุข

3. เล่าถึงวัฒนธรรมและรากเหง้าของจีน CCP เชื่อว่าวัฒนธรรมเก่าๆ ของประเทศคือซอฟต์พาวเวอร์ที่แข็งแกร่งที่สุด

สโลแกนดังกล่าวเป็นการตั้งเป้าหมายการสื่อสารเกี่ยวกับจีนไปสู่โลกภายนอก โดยการส่งสารที่ว่าไม่ได้มาจากเพียงรัฐบาล แต่จากประชาชนทุกคน สำนักข่าวทุกสำนักข่าว และที่สำคัญคือจากศิลปินผู้มาจากจีน ผู้มีเชื้อสายจีน ผู้ทำงานเชื่อมโยงกับจีน กับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของจีน

ข้อสังเกตที่ทาง Index ตั้งขึ้นมาคือการที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนแทรกตัวไปอยู่ในองค์ประกอบของเรื่องเล่าที่ดีนั้นเป็นการบอกกลายๆ ว่าค่านิยมของจีนก็คือค่านิยมของพรรค การวิพากษ์พรรคคือการวิพากษ์จีน การไม่เห็นด้วยกับทิศทางของพรรคคือการหักหลังประเทศจีน และการพูดอะไรที่พรรคตัดสินว่า ‘เป็นเท็จ’ ก็คือการหลอกลวงคนจีน

“ในมุมมองของสีจิ้นผิง ภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ของจีนนั้นเกิดขึ้นจากข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงและความสับสน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้หากประเทศนี้มีศิลปินที่รักและหวงแหนชาติ” Index เขียน เหตุผลหลักที่มหาอำนาจเช่นจีนจำเป็นต้องแคร์วิธีการที่ศิลปินเล่าเรื่องของพวกเขานั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาเข้าใจพลังอำนาจของวัฒนธรรมและเรื่องเล่า

ส่วนสำคัญของรายงานชิ้นนี้โดย Index คือการแจกแจงวิธีการที่จีนใช้เซ็นเซอร์ผลงานของศิลปินผู้ ‘ไม่ได้เล่าเรื่องจีนให้ดี’ นอกประเทศจีน บางคนเป็นศิลปินฮ่องกงผู้ย้ายไปอยู่สหราชอาณาจักรหลังถูกสื่อจีนตีตราว่าสนับสนุนเอกราชฮ่องกง บ้างก็เป็นศิลปินผู้ลี้ภัยอยู่ฝรั่งเศส บางคนก็เป็นศิลปินอินเดียผู้เล่าชีวิตตัวเองในทิเบต

วิธีการที่ถูกใช้นั้นหลากหลาย ทางตรงและทางอ้อม ตัวอย่างของทางตรงก็เช่นBadiucao ศิลปินออสเตรเลียผู้เกิดในจีนถูกตักเตือนว่างานของเขาอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนและอิตาลี ไม่ต่างจากกรณีที่ BACC นัก เพิ่มเติมคือโปสเตอร์โปรโมตงานถูกพ่นสีทับและทำลาย และแม้งานจะได้จัดต่อ ก็มีคนมายืนถ่ายวิดีโองานและผู้เข้าร่วมชมงานเก็บไว้

หรือ Abhishek Majumdar เจ้าของบทละครเรื่องPah-La เกี่ยวกับชีวิตตัวเองในทิเบตช่วงการลุกฮือ เขาเล่าให้ Index ฟังว่าเขาถูกติดตามที่ลอนดอนโดยคนที่เขาคาดว่ามาเป็นคนของรัฐบาลจีน ที่ขอให้เขาขายละครเรื่องนี้ให้โปรดักชันละครที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อเขาปฏิเสธ เขาโดนทำร้ายร่างกายแล้วถูกบังคับให้ดูสารคดีเกี่ยวกับการก่อการร้ายของดาไล ลามะ

ส่วนทางอ้อมคือการ ‘สร้างบรรยากาศให้ศิลปินเซ็นเซอร์ตัวเอง’ ซึ่งอาจทำโดยการติดต่อไปหาญาติมิตรของศิลปิน เพราะแม้ตัวศิลปินจะย้ายไปอย่ต่างประเทศ หลายๆ ครั้งพวกเขาก็ยังเหลือคนใกล้ชิดที่ยังอยู่ใต้เขตอำนาจของจีน และอีกวิธีคือการไม่บอกว่า ‘เส้น’ ที่แสดงออกได้อยู่ตรงไหนแน่ ทั้งสองอย่างนั้นพ่วงเข้าด้วยกันทำให้การทำงานของเหล่าศิลปินต้องอยู่ในลักษณะ ‘กันไว้ดีกว่าแก้’

วิธีการที่ Index ให้ความสำคัญที่สุดคือการเซ็นเซอร์ผ่านการเงิน ตลาดศิลปะประเทศจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นองค์กรของจีนอัดฉีดเงินมหาศาลเข้าไปยังแกลเลอรี่ชั้นนำภายในยุโรป ทำให้การถูกถอดเงินสนับสนุนกลายเป็นคำขู่ที่ใช้ได้จริง หรือมีแม้แต่มีการลงทุนกับเมืองต่างๆ มากพอที่จะให้ศิลปินที่นำเสนอเรื่องราวการประท้วงรัฐบาลจีนไม่สามารถกล่าวสุนทรพจน์ได้

การเซ็นเซอร์แบบต่างๆ นั้นได้ผลเสมอไม่ว่างานจะถูกถอดหรือไม่ ในกรณีของ Abhishek Majumdar ท้ายที่สุดละครของเขาก็ได้แสดงจริงที่ลอนดอน แต่ด้วยความที่มันเป็นบทละครที่ถูกเพ่งเล็งโดยจีนไปแล้ว โรงละครน้อยที่และสปอนเซอร์ผู้ให้เงินก็มักไม่อยากรับมาแสดงเท่าไรนัก

แต่มองในอีกมุม การเซ็นเซอร์เหล่านั้น ‘ได้ผล’ มากขนาดนั้นจริงหรือ?

แม้จะห้ามศิลปินพูดเกี่ยวกับจีนในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามมุมมองของ CCP ได้ การจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกก็อาจขัดกับเป้าหมายในการเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของจีนในสายตาโลก

แน่นอน ณ ขณะนี้นิทรรศการศิลปะที่ BACC เต็มไปด้วยเทปดำ มีงานที่หายไป มีธงที่หายไป และมีวิดีโอที่ถูกถอดออก แต่ว่าการถูกถอดนี้ทำให้คนจำนวนมากได้รับรู้ว่าเราหาวิดีโอนี้ได้ในยูทูบ และแม้งานหลายๆ ชิ้นจะไม่อยู่ให้เราเห็น ร่องรอยการแก้ไขไม่ใช่การ ‘ปิดปาก’ เสียทีเดียว แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของผลงานไปโดยปริยาย โดยเฉพาะงานเกี่ยวกับรัฐอำนาจนิยม

แม้ว่างานจะอยู่ตรงนั้นเพียงสามวันและเรายังต้องการมาตรการที่จริงจังเพื่อปกป้องสิทธิการแสดงออกของเรา เพียงแต่มันก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ศิลปะได้ทำหน้าที่ของมันเรียบร้อยแล้ว

อ้างอิง: indexoncensorship.org, reuters.com, chinamediaproject.org

บทความต้นฉบับได้ที่ : “Telling China’s Story Well” ประเทศจีนกลัวอะไรในงานศิลปะ?

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : plus.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

เพราะอากาศแปรปรวนบ่อย มันทำให้ฉัน…

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

90 Years of Penguin Books สำนักพิมพ์ที่กระจายวรรณกรรมสู่วงกว้าง เพราะเชื่อว่าหนังสือที่ดีไม่ควรแพงกว่าบุหรี่หนึ่งซอง

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

‘KFC ขอท้าคุณมาลิ้มรสความ ‘แซ่บ’ ในเฟสติวัลครั้งใหม่!’

GM Live

'เอกนัฏ' เร่งปฏิรูปอุตสาหกรรม สะสางธุรกิจศูนย์เหรียญ ปูทางเศรษฐกิจยั่งยืน

กรุงเทพธุรกิจ

ถ่อมตัว-เคารพผู้อื่น เบื้องหลังความสำเร็จของ เซเรนา วิลเลียมส์

กรุงเทพธุรกิจ

เหนื่อยล้า ตาคล้ำ ผิวซีด! เมคอัพสไตล์สาวเหนื่อยมาแรง โดนใจเจน Z

กรุงเทพธุรกิจ

ว่างแต่ไม่พร้อมคุย ไม่ได้ละเลยแต่ลืมตอบแชต อะไรทำให้เราเป็นแบบนี้?

The MATTER

90 Years of Penguin Books สำนักพิมพ์ที่กระจายวรรณกรรมสู่วงกว้าง เพราะเชื่อว่าหนังสือที่ดีไม่ควรแพงกว่าบุหรี่หนึ่งซอง

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

ข่าวและบทความยอดนิยม

37 ปี การลุกฮือ 8888 การเลือกตั้งพม่า 2025 จะเป็นเพียงพิธีกรรมสืบทอดอำนาจ

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

มลายู อัตลักษณ์ที่ถูกกดขี่ สนทนากับฟาเดลล์ หะยีฮาระสะ ครูผู้เขียนหนังสือเรียนภาษา-วัฒนธรรมมลายู

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

90 Years of Penguin Books สำนักพิมพ์ที่กระจายวรรณกรรมสู่วงกว้าง เพราะเชื่อว่าหนังสือที่ดีไม่ควรแพงกว่าบุหรี่หนึ่งซอง

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...