โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รวมพลังรักษ์พะยูน! กรมทะเลจัดงานใหญ่ คืนชีวิตให้เลตรัง

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงาน “วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ประจำปี 2568” ภายใต้แนวคิด “รักษ์พะยูนคืนถิ่นเลตรัง” เป็นการต้อนรับพะยูนกลับบ้านอย่างอบอุ่น หลังจากที่พะยูนได้อพยพออกจากจังหวัดตรังซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยสำคัญ เพราะแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรมลงอย่างรุนแรงจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในการสำรวจครั้งล่าสุดพบแหล่งหญ้าทะเลกลับมาฟื้นฟู ทำให้เหล่าพะยูนเริ่มกลับมายังจังหวัดตรังอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนงานด้านอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ และบูรณาการร่วมกันของหน่วยงาน องค์กร ชุมชน และประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

‘ฝูงพะยูน 23 ชีวิต’ อวดโฉมเกาะลิบง-มุกด์ สะท้อนความสมบูรณ์แห่งท้องทะเลตรัง

แก้วิกฤต 'พะยูน' ตาย เพราะหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ทดลองวางแปลงผักเป็นอาหารเสริม

วันอนุรักษ์พะยูน เน้นดูแลแนวปะการัง-สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย

โดยการจัดงานในครั้งนี้ เน้นรูปแบบ “Green Event” ลดขยะ งดโฟม และลดบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งจำพวกพลาสติกให้ได้มากที่สุด มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยในพระดำริ รวมถึงเสริมสร้างจิตสำนึกและความเข้าใจในการอนุรักษ์หญ้าทะเลและพะยูนแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและบุคคลทั่วไป พร้อมผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและร่วมกันรับผิดชอบในการอนุรักษ์พะยูนและระบบนิเวศหญ้าทะเล

ในการนี้มี พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงาน และมีนายอุกกฤต สตภูมินทร์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมงาน ณ หอประชุมจังหวัดตรัง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยภายในงานมีกิจกรรมเดินขบวนรณรงค์วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ การประกวดวาดภาพระบายสี ในหัวข้อ "HUG you Dugong" การเสวนาวิชาการ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาอีกด้วย

กำหนดมาตรการเชิงรุกเร่งด่วน 4 ด้านหลัก

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า วันที่ 17 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ เนื่องจากตรงกับวันที่พะยูน “มาเรียม” เสียชีวิต เพื่อเป็นการระลึกถึงและให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของพะยูนที่มีต่อระบบนิเวศชายฝั่งทะเล เกิดกระแสตื่นตัวต่อการอนุรักษ์พะยูนและสัตว์ทะเลหายากในประเทศไทย และร่วมกันดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยพะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล และเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562

จากข้อมูลสถานภาพพะยูนในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 พบพะยูนประมาณ 129 ตัว โดยเป็นประชากรพะยูนในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน 114 ตัว และอยู่ในจังหวัดตรังถึง 52 ตัว เพราะมีพื้นที่แหล่งหญ้าทะเลที่เป็นอาหารและแหล่งอาศัยใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ปัจจุบันพะยูนมีแนวโน้มที่จะลดลง และจากการประเมินของสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) พบว่าพะยูนถูกจัดให้อยู่ในสภาวะเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์

ดังนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้พยายามยกระดับและเร่งรัดผลักดันงานด้านการอนุรักษ์พะยูนให้เพิ่มจำนวนและคงอยู่อย่างสมดุลและยั่งยืน โดยกำหนดมาตรการเชิงรุกเร่งด่วน 4 ด้านหลัก ได้แก่

1.ฟื้นฟูและคุ้มครองแหล่งหญ้าทะเลอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบพะยูนชุกชุมและมีปัญหาความเสื่อมโทรม

2.ควบคุมกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การกำหนดเขตจำกัดความเร็วเรือในแหล่งหญ้าทะเล และลดความเสี่ยงจากเครื่องมือประมง

3.ยกระดับระบบเฝ้าระวังและการช่วยเหลือพะยูนเกยตื้นให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4.เฝ้าระวังโรคและปัจจัยด้านสุขภาพของพะยูน โดยสนับสนุนการตรวจวินิจฉัยโรค สารพิษ และมลภาวะในแหล่งอาศัย รวมถึงพัฒนาอาหารทดแทนสำหรับพะยูนในภาวะขาดแคลนอาหาร

ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา หน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ได้สนับสนุนและร่วมมือกันทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พะยูนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยการมีส่วนร่วมจากชุมชน เครือข่ายอนุรักษ์ อาสาสมัคร และภาคส่วนต่าง ๆ มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการสร้างจิตสำนึกกับกลุ่มเป้าหมายรวมถึงเยาวชน และโรงเรียนในพื้นที่ที่อยู่ติดชายทะเลให้เห็นความสำคัญ ทำให้มีแนวทางบริหารจัดการอนุรักษ์พะยูนและถิ่นอาศัยอย่างชัดเจน และมีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรม

"การอนุรักษ์และดูแลพะยูน ไม่ใช่เพียงเรื่องของภาครัฐหรือจังหวัดตรังเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน ไม่กระทำการที่ส่งผลกระทบต่อพะยูนไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม การที่พะยูนกลับคืนถิ่น คือสัญญาณว่าธรรมชาติกำลังตอบรับความพยายามของมนุษย์ หากเรายังร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งลูกหลานของเราจะไม่ต้องมองหาพะยูนในหนังสือเรียน แต่จะได้เห็นพะยูนในธรรมชาติด้วยสายตาของตัวเอง” ดร.ปิ่นสักก์ กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

‘อดานี-อัมบานี’ แอบบินไปจีน ล่าดีลธุรกิจกับยักษ์แบตเตอรี่ปักกิ่ง

37 นาทีที่แล้ว

'มันเทศ' พืชกินหัว 'ซูเปอร์ฟู้ด' กินเป็นผักก็ได้ ขนมก็ดี

37 นาทีที่แล้ว

สมช. ถกปมร้อนชายแดน ไร้วาระยุบ ศบ.ทก. ด้าน มทภ.2 ชี้ RBC กัมพูชา รอ ผู้นำชี้ขาด

44 นาทีที่แล้ว

"หุ้นไทย"ปิดลบช่วงเช้าที่ 1,254 จุด ทยอยขายทำกำไร-รอปัจจัยใหม่

49 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

HAECHAN วง NCT เตรียมปล่อยอัลบั้มโซโล่เดบิวต์ ‘Taste’ วันที่ 8 กันยายนนี้

THE STANDARD

ดื่มน้ำมันมะกอกเพียวๆ 1 ช้อนโต๊ะทุกวัน ร่างกายเปลี่ยนไปอย่างไร?

sanook.com

'มันเทศ' พืชกินหัว 'ซูเปอร์ฟู้ด' กินเป็นผักก็ได้ ขนมก็ดี

กรุงเทพธุรกิจ

V วง BTS เตรียมเป็นผู้ขว้างบอลในพิธีเปิดสนามการแข่นขันเบสบอลของ Los Angeles Dodgers

THE STANDARD

SWAG จาดดดด น้องแมว Tofu เล่นซนจน เขี้ยวหัก ทาสพาไปรักษา กลับออกมาได้เป็นเขี้ยวทอง

CatDumb

เริ่มแล้ว ซื้อซิมใหม่ ต้องสแกนใบหน้า กฎใหม่ป้องกันมิจฉาชีพ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

“พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย” เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไหร่?

ศิลปวัฒนธรรม

‘สนธิสัญญาพลาสติกโลก’ ล่มอีก ประเทศผลิตปิโตรเลียมไม่เห็นด้วยให้ลดผลิตพลาสติก

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...