คู่มือพ่อแม่ รอยแมลงกัดต้องทาอะไรถึงจะหายคัน

เมื่อแมลงกัด ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาอักเสบทันที เพราะสารต่าง ๆ ที่แมลงฉีดเข้าไปทำให้เกิดอาการคัน บวม แดง และในบางครั้งอาจเป็นตุ่มใส หากเป็นเด็ก ๆ ที่ผิวบอบบางกว่าผู้ใหญ่ อาการจะรุนแรงขึ้น และที่น่ากังวลคือการที่เด็กเกาไม่หยุดจนเกิดแผล ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเป็นรอยดำตามมา รอยแมลงกัดเหล่านี้จึงต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่ช่วงแรก ๆ

วิธีดูแลรอยแมลงกัดให้หายคันและไม่เป็นรอย

• ใช้น้ำแข็งและของเย็นในช่วงแรก

  การประคบเย็นด้วยน้ำแข็งหุ้มผ้าหรือใช้ช้อนเย็นประคบบริเวณรอยแมลงกัดเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดอาการคันได้ทันที เพราะความเย็นจะชะลออาการอักเสบและทำให้เส้นประสาทรับรู้ความคันน้อยลง หลายคนมองข้ามขั้นตอนนี้แต่จริง ๆ แล้วการทำในช่วง 15-20 นาทีแรกจะช่วยป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับเด็กเล็กที่ยังควบคุมการเกาไม่ได้

• เลือกครีมแก้คันที่เหมาะกับวัย

  ครีมแก้คันที่มีส่วนผสมของ Calamine หรือ Antihistamine เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรอยแมลงกัด แต่สำหรับเด็กควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนและไม่มี Steroid เข้มข้น การทาครีมแก้คันควรทาบาง ๆ และไม่ควรทาบ่อยเกินไป เพราะผิวเด็กจะดูดซึมได้ดีกว่าผู้ใหญ่ หากอาการคันมากจริง ๆ อาจใช้ยาแก้แพ้ทานควบคู่ตามคำแนะนำของเภสัชกร

• ใช้วัสดุธรรมชาติช่วยบรรเทา

  ใบบัวบกสดบุบให้ออกน้ำแล้วทาบริเวณรอยแมลงกัด หรือเจลว่านหางจระเข้แท้ ๆ สามารถช่วยลดอาการอักเสบและคันได้อย่างอ่อนโยน วิธีเหล่านี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากใช้ยาเคมีกับเด็ก แต่ต้องแน่ใจว่าไม่แพ้สมุนไพรเหล่านั้น การใช้น้ำส้มสายชูเจือจางเช็ดเบา ๆ ก็ช่วยฆ่าเชื้อและลดคันได้ แต่ห้ามใช้กับแผลที่มีรอยขีดข่วน

• ป้องกันการเกาและติดเชื้อ

  การตัดเล็บเด็กให้สั้นและสะอาดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะการเกาด้วยเล็บสกปรกเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อ สำหรับเด็กเล็กที่ยังควบคุมตัวไม่ได้ อาจใส่ถุงมือหรือปิดแผลด้วยแผ่นใสกันน้ำ การสอนให้เด็กตบเบา ๆ แทนการเกาเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

• เฝ้าระวังสัญญาณอันตราย

  หากรอยแมลงกัดมีหนองหรือแดงลุกลามออกไป มีไข้ หรือบวมมากผิดปกติ ต้องรีบพาไปหาหมอทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรงหรืออาจเป็นโรคไข้เลือดออก การสังเกตอาการในช่วง 3-5 วันแรกจะช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ได้

การดูแลรอยแมลงกัดไม่ใช่เรื่องยากหากทำถูกวิธีและทำอย่างต่อเนื่อง การประคบเย็น ใช้ครีมแก้คันที่เหมาะสม ป้องกันการเกา และเฝ้าระวังอาการผิดปกติจะช่วยให้อาการคันหายไวขึ้นและไม่เป็นรอยดำ สิ่งสำคัญคือต้องอดทนและไม่ปล่อยให้เด็กเกา เพราะการเกาไม่เพียงทำให้คันมากขึ้น แต่ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเป็นรอยถาวร การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผิวของลูกกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม