สปสช. แจงแนวทางบริการสุขภาพบัตรทอง พร้อมดูแลผู้ป่วยไตชายแดนไทย-กัมพูชา
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา ขอแจ้งแนวทางการเข้ารับบริการสาธารณสุขในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ ดังนี้
- กรณีเจ็บป่วยทั่วไป วิกฤต ฉุกเฉิน สามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการทุกแห่ง โดยสปสช.เขต 9 จะแจ้งแนวทางการให้บริการและการเบิกจ่ายชดเชยให้หน่วยบริการทุกแห่งทราบ
ไทยมีความมั่นใจในการชี้แจงต่อ UNSC เพราะข้อมูลของไทยเป็นความจริง
ทภ.2 จี้หากกัมพูชาต้องการหยุดยิง ให้เลิกนำพื้นที่พิพาทขึ้นสู่ศาลโลก
- กรณีผู้ป่วยที่รับบริการล้างไตทางช่องท้อง (CAPD) ในจ. สุรินทร์ ,จ.บุรีรัมย์ หากมีการอพยพ ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยให้ประสานหน่วยบริการเดิม หรือ สปสช.เขต 9 เพื่อแจ้งส่งน้ำยาไปยังที่ผู้ป่วยอาศัยอยู่จริง ได้ถูกต้องรวดเร็วโดยแจ้งชื่อ-สกุล หมายเลขโทรศัพท์และชนิดของน้ำยาที่ใช้อยู่
- กรณีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ให้หน่วยบริการประสานการส่งต่อให้ผู้ป่วยเข้ารับบริการที่หน่วยที่มีศักยภาพ ที่มีความพร้อมได้ทุกแห่ง
ทั้งนี้สำนักงานจะแจ้งให้หน่วยบริการที่ได้รับผลกระทบได้รับทราบแนวปฏิบัติในการดำเนินการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการของหน่วยบริการต่อไป และขอส่งกำลังใจให้ประชาชนและบุคลากรทุกท่านปลอดภัยทุกคน
สปสช. เขต 10 อุบลฯ แจ้งแนวทางดูแลผู้ป่วยฟอกไต-ล้างไตที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 10 อุบลราชธานี กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ และมีรายงานว่าผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องบำบัดทดแทนไตบางส่วนได้รับผลกระทบนั้น สปสช. เขต 10 ขอแจ้งหน่วยบริการถึงแนวทางปฏิบัติสำหรับการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ดังนี้
กรณีผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง (CAPD) หากมีการอพยพคนไข้ไปยังจุดใดจุดหนึ่งและต้องการน้ำยาล้างไต ให้ประสาน สปสช. เขต 10 อุบลราชธานี โดยต้องแจ้งที่ตั้ง (Location) ที่ถูกต้อง ชนิดและจำนวนของน้ำยา พร้อมชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ทีมขนส่งของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น จำกัด จัดส่งได้ถูกต้อง
สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี มีน้ำยาล้างไตที่ไม่สามารถส่งถึงบ้านคนไข้ได้จำนวน 6 ราย ขณะนี้ สปสช. ได้ประสานงานให้นำน้ำยาล้างไตไปไว้ที่โรงพยาบาลอำเภอของ 2 อำเภอ
ในส่วนของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้องรับการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีฟอกเลือด (HD) ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษได้มีการวางแผนการดำเนินงาน โดยในส่วนของโรงพยาบาลรัฐได้ปรับเวลาขยายการเปิดระบบข้อมูลพื้นฐานหน่วยบริการ (CPP) ตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับคลินิกเอกชนได้เพิ่มขยายเวลาแล้วทั้งจังหวัด และได้อนุมัติขยายการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเอกชนเพื่อดูแลผู้ป่วยทั้งจังหวัดด้วย
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากหน่วยบริการเดิมออกนอกพื้นที่ แต่หน่วยรักษาเดิมยังไม่ได้ทำการส่งตัวเพื่อให้หน่วยบริการปลายทางทำการยืนยันตัวตน (Authen) ปิดสิทธิ์ และเบิกค่ารักษานั้น สปสช. ได้เปิดระบบให้มีการคีย์เบิกค่ารักษาได้หลังจากที่มีการส่งตัวแล้วภายใน 360 วัน
สำหรับผู้ป่วยไตที่ได้รับผลกระทบและต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 โทรฟรี 24 ชั่วโมง สำหรับหน่วยบริการประสาน สปสช. เขต 10 อุบลราชธานี ได้ตามหมายเลขโทรศัพท์การประสานเดิม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือเกิดปัญหาในการรับบริการติดต่อได้ที่
- สายด่วน สปสช. 1330
- สปสช. เขต 9 นครราชสีมา 044248871-4
- ประสานงานผู้ป่วยไต 0811703915 , 0901975223