‘อธิบดีอุทยานฯ’แจงย้าย‘หัวหน้าอุทยานฯแก่งกระจาน’เหตุมีเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 17 ก.ค.นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีการโยกย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่า กรมอุทยานฯ ขอชี้แจงกรณีการออกคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่ 976/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการปฏิบัติงานของกรม
นายอรรถพล กล่าวว่า การออกคำสั่งโยกย้ายข้าราชการจำนวน 38 ราย เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรมอุทยานฯ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์สูงสุดในการปฏิบัติราชการ โดยทั่วไปแล้ว การโยกย้ายในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในหน่วยงานราชการ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างการทำงาน หรือเพื่อการบริหารจัดการกำลังคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ปรากฏชื่อในคำสั่งโยกย้ายนั้น มีเหตุผลเพิ่มเติมที่สอดคล้องกับแนวทางการบริหารงานอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด ได้มีหนังสือแจ้งมายังกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่าได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้ทุกเรื่องร้องเรียนอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และเพื่อให้การตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ เป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และปราศจากข้อครหา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 สาขาเพชรบุรี จึงได้ขอให้กรมอุทยานฯ พิจารณาสับเปลี่ยนหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า การโยกย้ายครั้งนี้ยังเป็นการจัดสรรบุคลากรเพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้พิจารณาแต่งตั้งผู้ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งนี้เป็นบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และมีผลงานในด้านการปราบปราม ด้านการจัดการการท่องเที่ยว และการทำงานร่วมกับชุมชนมาเป็นอย่างดี สำหรับการดำเนินคดีบุกรุกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นเช่นเดิมอย่างต่อเนื่อง และได้มอบหมายให้สำนักป้องกันฯ เข้าไปช่วยติดตามในทุกคดีแล้ว กรมอุทยานฯ ขอยืนยันว่าการดำเนินการโยกย้ายในครั้งนี้เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนราชการ มีความโปร่งใส และมุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารงานอุทยานแห่งชาติและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การดำเนินการเช่นนี้จะช่วยให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างราบรื่น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการปฏิบัติงานของกรม
นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้หากพิจารณาคำสั่งดังกล่าว จากผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ปรับขึ้นไปดำรงตำแหน่งผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 ตาก ยังเป็นการดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น เนื่องจากคำสั่งนี้ยังไม่ถือว่ามีสาเหตุมาจากการร้องเรียนเพราะยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างรอบคอบและรอบด้าน การออกคําสั่งนี้คํานึงถึงประสิทธิภาพ ประโยชน์ของทางราชการ และขวัญกําลังใจของข้าราชการ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ทุกฝ่าย ยืนยันคำสั่งดังกล่าวเป็นการโยกย้ายตามปกติ.