รีวิวกองทุน KKP VIETNAM FUND คัดเน้น ๆ หุ้นเด่นเวียดนาม
ทำความรู้จักกองทุน KKP VIETNAM FUND เปิดโอกาสครั้งใหม่ในตลาดหุ้นเวียดนาม ประเทศแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ High Conviction ในหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตโดยไม่ยึดติดกับดัชนี
ในวันที่แผนที่เศรษฐกิจโลกกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ ชื่อของ “เวียดนาม” ไม่ได้เป็นเพียงดาวรุ่งพุ่งแรงอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “ศูนย์กลางแห่งโอกาส” ที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับจ้อง ด้วยจังหวะการเติบโตที่เร่งเครื่องอย่างไม่เคยมีมาก่อน ประเทศแห่งนี้กำลังเข้าสู่บทใหม่ของการเป็น “เสือเศรษฐกิจแห่งเอเชีย“
ปัจจัยขับเคลื่อน ‘เวียดนาม’ สู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ 1. การปฏิรูปเศรษฐกิจ 2.0 (Doi Moi 2.0)
คาดการณ์ GDP per Capita ของเวียดนามจนถึงปี 2045 | Source: KKPAM, World Bank
เวียดนามกำลังก้าวสู่เวทีใหม่แห่งการเติบโต โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045 ด้วย GDP per Capita ที่ 20,000 ดอลลาร์ และการเติบโตเฉลี่ย 7.3% ต่อปี ซึ่งจะขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนผ่านจากการพึ่งพาแรงงานไปสู่ การเติบโตจากเศรษฐกิจภายในประเทศด้วยการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ
2. พลังแห่งประชากรและ FDI
FDI ของเวียดนาม | Source: KKPAM, Fiinpro, PopulationPyramid, Vietnamnews
เวียดนามมีประชากรในวัยทำงานกว่า 60 ล้านคน พร้อมความมุ่งมั่นด้านการศึกษาที่สูงเป็นพิเศษ ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ให้เติบโตเฉลี่ย 7.5% ต่อปีในทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Samsung, Apple, LG Electronics, Intel เข้ามาลงทุน นี่คือข้อพิสูจน์ถึงความน่าสนใจของเวียดนามในสายตานักลงทุนต่างชาติ
3. การปฏิรูปโครงสร้างภาครัฐ
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองของเวียดนาม | Source: KKPAM, Vietcap Research
รัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างทางการเมืองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน และเร่งกระบวนการอนุมัติให้ไวขึ้น พร้อมออกนโยบายเชิงรุก (Resolution 68) ที่มุ่งเป้าพัฒนาภาคเอกชนให้เป็นกำลังขับเคลื่อนหลักของ GDP ด้วยเป้าหมาย 3 ล้านบริษัทภายในปี 2045
4. โครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต
การพัฒนาด้านดิจิทัล | Source: Vietcap Research, HSC Research
เวียดนามมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลให้มีสัดส่วน 50% ของ GDP ภายในปี 2045 พร้อมทุ่มงบประมาณมหาศาลกว่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ ทั้งท่าเรือ ทางด่วน สนามบิน และรถไฟความเร็วสูง นี่คือรากฐานสำคัญของการเติบโตในทุกมิติ
5. การค้ายุคใหม่ & อสังหาริมทรัพย์ที่ฟื้นตัว
รัฐบาลปฏิรูประบบค้าปลีกให้โปร่งใส ป้องกันการลักลอบทำผิดกฎหมายและเริ่มโครงการ E-Tax เพื่อสนับสนุนการค้าสมัยใหม่ เพื่อหนุนกำลังซื้อผู้บริโภค ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มกลับมาคึกคักจากการปรับปรุงกฎหมายและการสนับสนุนสินเชื่อ
บนเส้นทางสู่ Emerging Market ดึงดูดเม็ดเงินทั่วโลก
แผนในการยกระดับเวียดนามสู่ตลาดเกิดใหม่ | Source: KKPAM, SSI Research
เวียดนามกำลังอยู่ในเส้นทางสำคัญที่จะถูกยกระดับสถานะสู่ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยมีแผนถูกเพิ่มใน FTSE EM Watchlist ในกันยายน 2025 และอัปเกรดสถานะจริงในมีนาคม 2026 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจาก Passive Funds เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามได้ถึง 1,000 – 2,000 ล้านดอลลาร์ และอาจสูงถึง 8,000 – 10,000 ล้านดอลลาร์ หากได้รับการอัปเกรดสู่ MSCI Emerging Market ในอนาคต
นอกจากนี้ การเปิดตัวระบบการซื้อขาย KRX ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับฟีเจอร์สำคัญในอนาคต เช่น Day-trading, Short-selling และ Options รวมถึง Non-prefunding solution กำลังยกระดับสภาพคล่องและสร้างความน่าดึงดูดใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามามากขึ้น
KKP VIETNAM FUND เปิดโอกาสใหม่ในตลาดหุ้นเวียดนาม
Source: KKPAM
กองทุนเปิดเคเคพี เวียดนาม อิควิตี้ (KKP VIETNAM FUND) คือกองทุนหุ้นเวียดนามที่มุ่งเน้นการลงทุนเชิงรุก (Active Management) ซึ่งกำลังจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 23 – 31 กรกฎาคม 2568 นี้
โดยวางตำแหน่งไว้อย่างชัดเจนว่า “Active, High Conviction, Vietnam-Focused”
มุ่งเน้นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต และมีเสถียรภาพทางการเงิน คัดหุ้นคุณภาพเด่นเพียง 10 – 30 ตัว
นโยบายการลงทุน
มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนาม ได้แก่ Ho Chi Minh Stock Exchange, Hanoi Stock Exchange และ UPCoM และ/หรือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่น ที่ดำเนินธุรกิจและ/หรือได้ประโยชน์จากการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประเทศเวียดนาม โดยกองทุนจะคัดเลือกหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตและ/หรือมีความสามารถในการทำกำไรอย่างมีคุณภาพ และ/หรือมีเสถียรภาพความมั่นคงทางสถานะการเงิน โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง
กองทุนมี Net Exposure ในตราสารทุนและที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAVและอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ
ดัชนีชี้วัด MSCI Vietnam Net Total Return USD Index ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคํานวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คํานวณผลตอบแทน
จุดต่างจากกองทุน Passive ทั่วไป คือ กองทุน KKP VIETNAM FUND ไม่ได้ยึดติดการลงทุนตามดัชนีที่กระจุกตัวในหุ้นขนาดใหญ่เช่น กลุ่มธนาคารและ กลุ่มอสังหาฯ เท่านั้น แต่จะลงทุนในอุตสาหกรรมที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของเวียดนามอย่างแท้จริง เช่น กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มที่เกี่ยวข้องการบริโภคภายในประเทศ
กระบวนการคัดเลือกหลักทรัพย์
Source: KKPAM
กองทุน KKP VIETNAM FUND มีกระบวนการคัดเลือกหุ้นที่เข้มข้น เริ่มจากจักรวาลหุ้นกว่า 1,600 บริษัท จากนั้นคัดกรองหุ้นที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) มากกว่า 100 ล้าน USD และใช้ปัจจัยเชิงปริมาณ (เช่น สภาพคล่อง, สัดส่วนการถือครองหุ้นต่างชาติ, ความแข็งแกร่งของงบการเงิน) จนเหลือประมาณ 60 หุ้น ก่อนเข้าสู่การวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งเยี่ยมชมบริษัทและสัมภาษณ์ผู้บริหาร โดยผนวกปัจจัย ESG เพื่อคัดเลือก 10-30 หุ้นคุณภาพ เข้าสู่พอร์ตแบบ High Conviction
สำหรับตัวอย่างกลุ่มอุตสาหกรรม กองทุนจะเน้นลงทุนในภาคส่วนที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากนโยบาย Doi Moi 2.0 ของเวียดนาม อาทิ
- กลุ่มเทคโนโลยี
- กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
- โครงสร้างพื้นฐาน
- อสังหาริมทรัพย์
- ภาคการธนาคาร
จุดเด่นของกองทุน KKP VIETNAM FUND - ผสานความเชี่ยวชาญของมืออาชีพ
ผสมผสานความเชี่ยวชาญของทีมผู้จัดการกองทุนของ KKPAM ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารกองทุนและการวิเคราะห์มากว่า 15 ปี ผนวกกับทีมที่ปรึกษาการลงทุน ของ KKPS ที่มีประสบการณ์ลงทุนตรงในตลาดเวียดนามกว่า 10 ปี และมีเครือข่ายข้อมูลเชิงลึกของบริษัทท้องถิ่นกว่า 60 แห่ง ทำให้การเลือกหุ้นมีพื้นฐานจากความเข้าใจจริง
- กลยุทธ์การลงทุนแบบ High Conviction
กองทุนไม่ได้ลงทุนตามดัชนีแบบกระจายกว้าง แต่เลือก “หุ้นคุณภาพจริง” เพียง 10–30 ตัวเท่านั้น
- การลงทุนที่ไม่ยึดติดกับดัชนีอ้างอิง
มุ่งคัดสรรหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพเติบโตระยะกลาง-ยาว พร้อมกลยุทธ์การบริหารแบบ Active Management มีการติดตามข้อมูลของบริษัท และการปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับภาวะตลาด ณ ขณะนั้น ๆ
กองทุน KKP VIETNAM FUND เหมาะกับใคร
- ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นเวียดนาม ซึ่งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความผันผวนและความเสี่ยงที่สูงตามมา
- ผู้ที่มองหาโอกาสเติบโตในระยะกลางถึงระยะยาว
ด้วย Investment Horizon ที่ 3-5 ปี1 และการอ้างอิงกับนโยบายปฏิรูป Doi Moi 2.0 ที่เน้นการเติบโตเชิงโครงสร้าง กองทุนนี้จึงเหมาะกับผู้ที่สามารถลงทุนได้ในระยะกลางและระยะยาวและไม่หวั่นไหวกับความผันผวนระยะสั้น
- ผู้ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของเวียดนาม
นักลงทุนที่เชื่อมั่นในเรื่องราวการเติบโตของเวียดนาม ทั้งพลังประชากรวัยหนุ่มสาว นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ การไหลเข้าของ FDI และการพัฒนาประเทศสู่การเป็น “ประเทศรายได้สูง” รวมถึงการยกระดับสู่ Emerging Market
- ผู้ที่เชื่อมั่นในพลังของการบริหารเชิงรุก (Active Management)
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เชื่อในความสามารถของผู้จัดการกองทุนในการคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีคุณภาพ และมองหาโอกาสที่เหนือกว่ากองทุนที่เน้นลงทุนตามดัชนี (Passive Fund) โดยไม่จำกัดเพียงหุ้นขนาดใหญ่ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่กระจุกตัว
รายละเอียดอื่น ๆ
- ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
- นโยบายปันผล ไม่จ่าย
- ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งถัดไป 1,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ปัจจุบันยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
- ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 14/07/2025
อ้างอิง: KKPAM
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ กองทุนจึงยังอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนที่ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงไว้จากการลงทุนดังกล่าว | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | โปรดศึกษาคำเตือนที่สำคัญอื่นได้ในหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลกองทุนรวม | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299