เคาะไป คุยไป : เคาะ CPALL
#CPALL #ทันหุ้น – ผลประกอบการ 2Q/25 ของ CPALL มีกำไรสุทธิ 6,768 ล้านบาท +8.5%YoY จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 256,574 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.4%YoY จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายในทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงกลยุทธ์ O2O (Online-to-Offline) ที่เข้ามาเสริมการเติบโต แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัวและได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง และสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
ในส่วนของธุรกิจร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นแกนหลัก มีการขยายสาขาใหม่ 165 แห่ง ทำให้มีสาขารวม 15,595 แห่งทั่วประเทศ ส่วนต่างประเทศอยู่ในกัมพูชา 123 สาขา และสปป.ลาว 18 สาขา โดยรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 5.1% มาอยู่ที่ 117,706 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 29.3% เทียบกับปีก่อนที่ 29% จากร้าน 7-11 และ MAKRO เป็นหลัก ส่วนยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิมลดลงเล็กน้อย 0.8% และจำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดเนื่องจากปัจจัยเรื่องสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางภายในประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง แม้จะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย แต่บริษัทยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยคาดหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะช่วยฟื้นฟูการบริโภคและภาคการท่องเที่ยวในระยะต่อไป
แนวโน้ม 3Q/25F คาดว่าโมเมนตัมของผลประกอบการจะยังชะลอตัว QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่อยู่ในช่วงฤดูฝน ภาคการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศ ความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีของทรัมป์ ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บรโภคลดลง สะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ ก.พ. 25 ส่วนภาพ YoY คาดหวังการเติบโตในระดับ Mid-Single Digit ตามการขยายสาขาร้านสะดวกซื้อ และการรักษามาร์จิ้นที่ทรงตัวในระดับสูงเหนือ 29%
ด้าน IAA Consensus ประเมินกำไรสุทธิปีนี้เฉลี่ย 2.79 หมื่นล้านบาท +10%YoY และราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 65.69 บาท โดยในเชิง Sentiment ขานรับผลประกอบการล่าสุดที่ออกมาแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มค้าปลีก (SSSG ชะลอตัวน้อยกว่ากลุ่ม) แต่คาดหวังโมเมนตัมของกำไรใน 4Q ที่จะเติบโตโดดเด่น พร้อมกับ Valuation ปัจจุบันที่ซื้อขายบน P/E ที่ 15.46 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังระยะยาว (32 เท่า) – 2 SD
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นพักหรือปรับตัวลงสร้างแนวรับจุดต่ำแท่งเทียนคู่ 45.75 ยืนเหนือมั่นคงสัญญาณบวกหักล้างรูปแบบ V-Shape กลับหัว และมีโอกาสสร้างกรอบแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยแนวต้านหลักDouble Top รอบก่อนหน้า 48.25-48.50 ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำการผ่านยืน
คำแนะนำASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 48.25-48.50/50
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 45.75/44-43.75 ไม่ควรต่ำกว่า