คุยกับ ‘ดร.พิเชฐ’ กับภารกิจใต้ร่ม ‘ธนาคารกรุงเทพ’ ในการดัน SMEs ไทยโตไกลในอาเซียน
“คอลัมน์ The Thought Leaders” ของกรุงเทพธุรกิจ ชวนพูดคุยกับ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ หนึ่งในกรรมการบริหารของธนาคารกรุงเทพ เกี่ยวกับมุมมองความเป็นผู้นำของธนาคารฯ ในการผลักดันประเทศไทยและภาคธุรกิจให้ไปเติบโตในระดับภูมิภาค
คำว่าผู้นำในมุมมองของธนาคารกรุงเทพคืออะไร
ผู้นำก็มีหลายระดับ ผู้นำระดับประเทศ ผู้นำระดับองค์กร ผู้นำระดับภูมิภาค ขณะนี้ สิ่งที่เราให้ความสนใจมากก็คือทำอย่างไร ประเทศไทยถึงจะนำในสิ่งที่เราควรนำได้ ขณะเดียวกันทำอย่างไร เราจะสามารถเอื้ออำนวยให้ คนรุ่นใหม่ของไทยเรามีลีดเดอร์ชิพ มีความเป็นผู้นำสามารถที่จะประคองประเทศในยุคที่มีความแตกต่างในยุคที่มีความเหลื่อมล้ำ และในยุคที่มี turbulence ทั่วโลก
ถ้าพูดถึงความเป็นผู้นำของธนาคารกรุงเทพในบริบทของอาเซียนล่ะ
อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญมากในระดับโลก ส่วนหนึ่งเพราะมีความสับสนเกิดขึ้นมากมาย มีเทรดวอร์อย่างที่เราเข้าใจกันดี มีสงครามที่เป็น physical war เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าในภูมิภาคอาเซียนเป็นภูมิภาคที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง มีความก้าวหน้า มีแรงงานที่ยังหนุ่มยังสาว แล้วก็มีระบบเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยซึ่งกันและกัน
หากไม่รวมความขัดแย้งที่เพิ่งเกิดขึ้น อาเซียนเป็นภูมิภาคที่เป็นเศรษฐกิจแข็งแกร่งแห่งเดียวของโลก ณ ขณะนี้ก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นจึงมีความสำคัญที่เราจะต้องพยายามผนึกกำลังกันในประเทศสมาชิก
กลยุทธ์ของธนาคารกรุงเทพในการไปเติบโตในอาเซียนมีอะไรบ้าง
กลยุทธ์ก็คือวิสัยทัศน์ของผู้บริหารธนาคารกรุงเทพตั้งแต่ในยุคแรก ๆ เป็นต้นมา (ยิ้ม)
พวกเขาเล็งเห็นว่าเศรษฐกิจจะต้องขยายตัวออกไปนอกประเทศไทยด้วย ณ ขณะนี้ ธนาคารกรุงเทพมีสาขาอยู่ทั่วโลกถึง 14 ประเทศ ในอาเซียนนี่ครอบคลุมทุกประเทศ ยกเว้นบรูไน นอกจากนั้นก็ยังมีเพื่อนของอาเซียนทั้งญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไปจนถึงนิวยอร์กและลอนดอน
เพราะฉะนั้นทั้งหมดก็เอื้อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถออกไปประกอบการนอกประเทศได้ ในขณะเดียวกันก็จะเป็นตัวดึงดูดให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถเข้าใจแล้วก็มาลงทุนในประเทศไทยด้วย ล่าสุดเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เราก็ได้มีอีกหนึ่งธนาคารเข้ามาในเครือข่ายก็คือธนาคารเพอร์มาตาที่ประเทศอินโดนีเซีย
นอกจากเครือข่ายของธนาคารในประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนแล้ว ที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงเทพเองก็มีทีมที่เรียกว่า AEC Connect ซึ่งสามารถให้บริการได้ทุกประเทศในอาเซียน ตั้งอยู่ที่ถนนสีลม เราก็มีทีมที่จะคอยให้บริการ แล้วก็จะ เชื่อมโยงท่านไปยังสาขาของเราในแต่ละประเทศในอาเซียน
ธนาคารกรุงเทพมีบทบาทยังไงบ้างในการเชื่อมตลาดไทยเข้ากับอาเซียนโดยเฉพาะกับสิงคโปร์
งาน Singapore Regional Business Forum หรือ SRBF เป็นงานที่สภาธุรกิจสิงคโปร์เป็นคนจัดอย่างต่อเนื่องมาประมาณปีที่ 9 แล้ว โดยจัดที่เมืองไทยปีนี้เป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ดี มันมีความสำคัญมากกว่าเรื่องของการจัดงาน นั่นก็คือปีนี้เป็นปีที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสิงคโปร์ ครบรอบ 60 ปี พอดี เราก็มุ่งหวังจากความสัมพันธ์ที่ดีของทั้ง 2 ประเทศทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ ทั้งในแง่ของ people to people แล้วก็ทั้งในแง่ของศิลปวัฒนธรรมทั้งหลาย ก็เป็นโอกาสอันดี ที่งาน SRBF มาจัดที่ประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพก็เล็งเห็นความสำคัญ เพราะนอกเหนือจากจะเป็นการส่งเสริมประเทศไทยเป็นเวทีนานาชาติแล้ว ก็ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง2 ประเทศนี้ด้วย
ธนาคารกรุงเทพมีบทบาทในงานครั้งนี้อย่างไรบ้าง
เรานำการประชุมให้มาอยู่ที่กรุงเทพ นอกจากนี้ทางท่านกรรมการผู้จัดการใหญ่ยังเข้าร่วมในเวทีสัมมนาในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวของมิตรประเทศทั้งหลายทางด้านเศรษฐกิจ
มี insight อะไรในการที่ธนาคารกรุงเทพนำตัวงานประชุมนี้เข้ามาในประเทศไทยไหม
Insight ก็คือการที่เรามีสาขาที่อยู่ที่ภูมิภาคอย่างที่เล่าให้ฟังโดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ที่สิงคโปร์ นอกจากนั้นเราก็ยังมีความใกล้ชิดกับหลายหน่วยงานในประเทศสิงคโปร์ ผมเองก็เคยมีความใกล้ชิดกับภาครัฐของสิงคโปร์มาก ในช่วงที่ทำงานทางด้านดิจิทัลแล้วก็ทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ท่านกรรมการผู้จัดการใหญ่ก็เป็นผู้ที่สนับสนุนอย่างใกล้ชิดให้กับ Singapore Management University หรือ SMU เพราะฉะนั้นด้วยเครือข่ายความร่วมมือเหล่านี้อย่างยาวนานต่อเนื่อง ก็เลยทำให้เราเป็น attraction อันแรกๆ ของการจัดงานทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดงานครั้งนี้
บทบาทของทางกรุงเทพในการเสริมศักยภาพภาคธุรกิจในประเทศไทยให้ไปแข่งในระดับภูมิภาคได้มีอะไรบ้าง
ธนาคารกรุงเทพก็เป็นธนาคารหนึ่งในหลายธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ซึ่งต่างก็มุ่งหวังที่จะทำให้ระบบการเงินของประเทศมีเสถียรภาพ ระบบการเงินของประเทศมีเสถียรภาพประเทศก็มีเสถียรภาพ เพราะการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ ธนาคารกรุงเทพเองก็ตระหนักดีว่าจะต้องพยายามประคองให้ภาคเศรษฐกิจสามารถที่จะเดินไปได้ นอกเหนือจากการให้บริการทางด้านการเงินกับรายใหญ่แล้ว เรายังให้บริการกับผู้ประกอบการรายย่อยอย่าง SMEs ซึ่งค่อนข้างมีความเปราะบางในช่วงที่ผ่านมา
SMEs ไทยขาดอะไรบ้าง ในการที่จะไปเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค
ความเข้มแข็งของผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อย ณ วันนี้ขึ้นกับระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ เพราะเราอยู่ในห่วงโซ่อุปทานซึ่งวันนี้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะผลกระทบของเทรดวอร์ก็ทำให้กระทบกับซัพพลายเชน
ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการให้บริการทางการเงินกับ SMEs ที่มีความต้องการ ซึ่งแน่นอน SMEs ก็ต้องพยายามทำให้สถานะการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ดีด้วย
ขณะเดียวกันการเงินไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ยังมีเรื่องของเครือข่ายความร่วมมือ การยกระดับนวัตกรรม การสร้างกำลังคน ซึ่ง SMEs ก็แน่นอน มีกำลังคนที่ไม่มากเท่ากับรายใหญ่ เพราะฉะนั้นหลายส่วนเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน
SMEs ที่อยากไปโตในตลาดอาเซียนตามแบบธนาคารกรุงเทพ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
นิ่งคิด…
อย่างแรกตรวจสอบดูว่าเป้าหมายของธุรกิจของตัวเองคืออะไร เป้าหมายของบริษัทคืออะไร และมีซัพพลายเชนอย่างไร วัตถุดิบคืออะไร ต้นทุนคืออะไร คู่แข่งคืออะไร
ที่เหลือถ้าหากต้องการข้อมูลท้องถิ่นว่ามีการประกอบการใน sector นั้น ๆ อย่างไร มีใครเป็นผู้เล่นรายใหญ่ กฎกติกาของรัฐบาลหรือของหน่วยงานกำกับทั้งหลายเป็นอย่างไร ทางธนาคารเราสามารถอำนวยความสะดวกให้ได้ด้วยความยินดี