BEM ยึด 3 โครงการรถไฟฟ้าสายหลัก 'น้ำเงิน-ม่วง-ส้ม' คุมเส้นทาง 130 กม.
ระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกำลังขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้ง บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) รถไฟฟ้าลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาสายแรก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขณะนี้กำลังกลายเป็นเอกชนรายหลักที่ได้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายหลัก (Heavy rail) ในประเทศไทย
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ BEM คว้าสัมปทาน “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” ซึ่งได้สิทธิในการเดินรถไฟฟ้าตลอดแนวเส้นทางช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยโครงการนี้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ เข้ากับพื้นที่ฝั่งตะวันออกอย่างสมบูรณ์แบบ เส้นทางดังกล่าวมีระยะทางรวม 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี) 22.5 กิโลเมตร และส่วนตะวันตก (บางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ) 13.4 กิโลเมตร ซึ่ง BEM จะได้รับสิทธิบริหารงานเดินรถเป็นระยะเวลา 30 ปี
ทั้งนี้ การเพิ่มเข้ามาของสายสีส้มทำให้ปัจจุบัน BEM มีระยะทางรถไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้สัญญาบริหารรวมกันถึง 106.9 กิโลเมตร โดยประกอบไปด้วย
โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ระยะทางรวม 48 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย
- ช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ ระยะทาง 20 กิโลเมตร
- ช่วงหัวลำโพง - บางแค ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร
- ช่วงบางซื่อ - ท่าพระ ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร
โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) สถานีคลองบางไผ่ – สถานีเตาปูน ระยะทาง 23 กิโลเมตร
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทางรวม 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็น
- ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร
- ส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร
ขณะที่ล่าสุด รฟม. ได้อกมาประกาศแนวทางจัดหาเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.63 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการ และคาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการภายในปี 2571
โดยนายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงาน คือการพิจารณาจ้าง BEM ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงในปัจจุบัน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดประมูลใหม่ แนวทางนี้ถือเป็น “ทางออกที่เหมาะสมที่สุด” เพื่อให้การบริหารจัดการรถไฟฟ้าสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างต่อเนื่องและไร้รอยต่อ
อีกทั้ง รฟม. ให้เหตุผลว่าการเปิดประมูลเป็นการทั่วไปอาจก่อให้เกิดข้อจำกัดทางเทคนิคและทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในการยื่นข้อเสนอของเอกชนรายอื่นได้ ดังนั้น การใช้รูปแบบสัญญา PPP Gross Cost โดยเจรจาตรงกับ BEM ที่มีความพร้อมทั้งในด้านระบบการเดินรถและประสบการณ์ จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดในเวลานี้ เบื้องต้นคาดว่าสัญญาจ้างจะมีระยะเวลาประมาณ 25 – 30 ปี และจะดำเนินการเป็นสัญญาฉบับใหม่ที่ไม่ผูกพันกับสัญญาเดิม
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานคาดว่าจะมีการเสนอให้คณะกรรมการ รฟม. พิจารณาเห็นชอบภายใน 1-2 เดือน ก่อนจะนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามลำดับ โดยกระบวนการทั้งหมดนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จและได้ตัวเอกชนภายในต้นปี 2569 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ในปี 2571
โดยหากทุกขั้นตอนดำเนินไปตามแผน และ BEM ได้สิทธิบริหารรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เพิ่มเติม จะส่งผลให้เครือข่ายรถไฟฟ้าภายใต้การบริหารของ BEM ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 130.53 กิโลเมตร โดยรถไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้การบริหารของ BEM ล้วนเป็นรถไฟฟ้าสายหลัก (Heavy rail) เป็นระบบรถไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับการขนส่งผู้โดยสารจำนวนมากในเมืองใหญ่