ส่องทิศทาง “ราคาทองคำ” (30 มิ.ย.-4 ก.ค.) ผู้เชี่ยวชาญ-นักลงทุน คาดราคาร่วง จับตาข้อตกลงสหรัฐ-จีน
ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดผลสำรวจทิศทาง "ราคาทองคำ" สัปดาห์นี้ (30 มิ.ย.-4 ก.ค.68) ผู้เชี่ยวชาญ-นักลงทุน คาดราคาปรับร่วง จับตาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย.-4 ก.ค.68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey พบว่า
13 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 3 ราย หรือเทียบเป็น 23% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 6 ราย หรือเทียบเป็น 46% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 341 ราย ในจำนวนนี้มี 101 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 200 ราย หรือเทียบเป็น 59% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 40 ราย หรือเทียบเป็น 12% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยสถานการณ์ราคาทองคำนั้น ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 50,600 – 52,550 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 50,600 บาท ต่อบาททองคำ ลดลง 1,650 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 52,250 บาท)
ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องติดตามดังนี้
- ตลาดเงินและตลาดทุนของสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ (Independence Day) อาจส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายทองคำเบาบางลงในช่วงปลายสัปดาห์
- สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล แม้ในช่วงแรกจะมีเหตุปะทะประปรายและการตอบโต้เล็กน้อยจากทั้งสองฝ่าย แต่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิหร่านและอิสราเอลยังคงมีผลอยู่ในทางปฏิบัติ ความคืบหน้าในทิศทางที่สงบมากขึ้นช่วยลดแรงกดดันในตลาดพลังงาน และบรรเทาความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
- ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยสหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการเร่งรัดกระบวนการส่งออก “แร่หายาก” จากจีนไปยังสหรัฐฯ ซึ่งแร่หายากถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด อาวุธ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงสะท้อนความร่วมมือที่ดีขึ้นระหว่างสองชาติมหาอำนาจ
- รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและบริการ, ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชน, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงานเดือน มิถุนายน 2568 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์