เปิดแผนประทุษกรรม “สีกากอล์ฟ” ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินพระ
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 68 เวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวน บก.ปปป. คุมตัว สีกา ก. ผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รวม 4 ข้อหา ได้แก่ สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐยักยอกทรัพย์ ม.147, สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.157, สมคบฟอกเงินและรับของโจร รวมทั้งยังถูกแจ้งข้อหาในส่วนของกองปราบฯ อีก 3 ข้อหา ได้แก่ รีดเอาทรัพย์ ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพ และ ฉ้อโกง ออกจากห้องคุมขัง
โดยทันทีที่ สีกา ก. เจอนักข่าว ได้ยกมือไหว้ 1 ครั้ง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า อยากขอโทษ หรือไม่ สีกา ก. ก็ยกมือไหว้อีกครั้ง และไม่ยอมตอบคำถามใดๆของผู้สื่อข่าวอื่น ทำเพียงแค่ก้มหน้า ท่าทางดูเคร่งเครียด ก่อนถูกพาตัวขึ้นรถตู้ นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางทันที
อย่างไรก็ ตามท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้ มีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก จึงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ทางด้าน พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบปากคำนางสาววิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ในส่วนของคดีข่มขืนใจ และรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ระบุว่า ทางกองปราบได้แจ้งข้อหากับสีกากอล์ฟไป 2 ข้อหา คือ ข้อหารีดเอาทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ซึ่งสีกากอล์ฟให้การปฏิเสธ โดยประเด็นเรื่องเงิน ที่ตำรวจกล่าวหาว่า มีการขู่เอาเงินจากทิดแหล่ ถ้าไม่ให้เงินจะเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์แล้วจะทำให้ถูกปลด สีกากอล์ฟอ้างว่า ไม่ได้ขู่แบล็กเมลเพื่อเอาเงิน เป็นเพียงแค่ขอยืมไปจ่ายค่าเช่ารถ
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพที่ให้ทิดแหล่เขียนร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์นั้น สีกากอล์ฟ อ้างว่า ไม่ได้บังคับให้เขียนร่างหนังสือ แค่ขอให้ช่วยเฉยๆ
ทั้งนี้เรื่องของความสัมพันธ์ จากการสอบปากคำ สีกากอล์ฟให้การความสัมพันธ์ทั้งความสัมพันธ์กับพระรูปอื่นๆ และทิดแหล่ด้วย
ส่วนข้อหาฉ้อโกง ที่กองบังคับการปราบปรามรับผิดชอบอีก 1 คดี คือ คดีของอดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะหากแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ต้องผัดฟ้อง ก็จะทำให้เวลาทำงานน้อย ดังนั้นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ได้ 70-80% ก่อน แล้วจะมีการไปแจ้งข้อหาในภายหลัง เพื่อให้พยานหลักฐานเกิดความสมบูรณ์มากขึ้น
ทั้งนี้ตลอดการสอบปากคำ สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ทั้งในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และประเด็นประกอบต่างๆ
พันตำรวจเอกเอนก ยังบอกถึงแผนประทุษกรรมของสีกากอล์ฟด้วยว่า จากการวิเคราะห์ พบว่าสีกากอล์ฟ ดำรงชีพอยู่ได้จากเงินของพระทั้งหมด และการไปติดต่อกับอดีตพระผู้ใหญ่ เพราะสีกากอล์ฟมีเจตนามุ่งที่จะสนใจในเรื่องทรัพย์สินของพระ โดยการมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง และสีกากอล์ฟอาจจะเคยเห็นเส้นเรื่องเดิมจากพระจังหวัดพิจิตรที่ดูแลสีกากอล์ฟเรื่องทรัพย์สินเงินทองได้ ดังนั้นจึงเห็นช่องทาง ทำให้สีกากอล์ฟไปติดต่อวัดดังๆ เพื่อต้องการเข้าหาเจ้าอาวาส เพราะจะได้มีเงินทองมาดูแลเขาได้ ซึ่งจากพฤติการณ์จะเห็นว่าสีกากอล์ฟเช่าบ้านหรูเดือนละ 3-4 หมื่น และเวลาไปวัดก็จะเช่ารถหรูรุ่นต่างๆ ไป ดังนั้นเมื่อสีกากอล์ฟไปติดต่อพระต่างๆ ก็ไปแบบคนมีเงิน ดูภาพลักษณ์ดี ลงมาจากรถหรู ฉีดน้ำห้องฟุ้ง
ส่วนทำคนเดียวหรือไม่นั้น พันตำรวจเอกเอนก บอกว่า เท่าที่ดูจากพฤติการณ์ยังพบว่าทำคนเดียว ไม่มีคนร่วมขบวนการ และไม่มีคนร่วมรับผลประโยชน์ด้วย เพราะสีกากอล์ฟเห็นช่องทางของการได้มา และหากไปคบคนธรรมดา ก็อาจจะยากที่จะได้เงินแบบนี้ แต่พระผู้ใหญ่มีจุดอ่อนและมีเงิน เขาจึงมองมุมนี้และให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง โดยวิธีเข้าหา ก็มีทุกวิถีทางที่จะเข้าถึงตัวผู้ต้องหาได้ อย่างเคสของวัดโสธรฯ ก็ต้องการจะหาทางเข้าถึงตัวเจ้าอาวาส ซึ่งถ้าเจ้าอาวาสจิตใจไม่นิ่งก็อาจจะเผลอได้
ส่วนกรณีของอดีตพระมหาบุญเลิศ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหม่ยายแป้น ยังไม่ได้มีการมาแจ้งความ หลังเข้ามาให้ปากคำกับ ปปป. ไปแล้วในเบื้องต้น.