โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

วัยกลางคนไม่ใช่วิกฤติ แต่มีศักยภาพมากที่สุดในการเริ่มสิ่งใหม่

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ใครว่าการก้าวเข้าสู่วัยกลางคน 40-50 ปี จะต้องเป็นวิกฤติที่น่ากังวลเสมอไป? ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า “วัยกลางคน” ไม่ได้หมายถึงช่วงชีวิตที่โรยรา แต่กลับเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการทบทวนเป้าหมายชีวิต สร้างเส้นทางใหม่ และค้นหาความหมายที่แท้จริงของการทำงานและการใช้ชีวิต

ดร.อาร์ต มาร์คแมน (Art Markman) นักจิตวิทยา ศาสตราจารย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนากระบวนการรู้คิด มหาวิทยาลัยเท็กซัสที่เมืองออสติน แนะนำให้เลิกมองวัยกลางคนเป็น “วิกฤติ” แต่ให้มองว่าเป็น “จังหวะชีวิตของการตั้งเป้าหมายใหม่” โดยทั่วไปในสหรัฐอเมริกาวัยกลางคนถูกกำหนดไว้ระหว่างอายุ 45-65 ปี และด้วยอายุขัยเฉลี่ยของผู้คนยุคนี้ที่ยืนยาวขึ้น ทำให้คนที่มีอายุ 40 ในสหรัฐฯ ทุกวันนี้ ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ยาวๆ อีกกว่า 40 ปี

นั่นหมายความว่า ชีวิตในช่วงวัยกลางคนยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่กลับเพิ่งเข้าสู่ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการวางแผนอนาคตใหม่ๆ ทั้งในแง่การทำงานและการใช้ชีวิต

วัยกลางคน 45+ มีความรู้และประสบการณ์ เหมาะจะเริ่มสิ่งใหม่ๆ มากที่สุด

ดร.มาร์คแมน ชี้ว่า วัยกลางคนเป็นช่วงเวลาที่มีศักยภาพสูงมากในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เขาอธิบายว่า ในวัยนี้ผู้คนมักมีความรู้และประสบการณ์สะสมมาก ทำให้มีความฉลาดและการตัดสินใจที่ดีขึ้น แม้กระบวนการรับข้อมูลอาจช้าลงเล็กน้อย แต่ประโยชน์ของความรู้และประสบการณ์นั้นใหญ่กว่ามาก

Art Markman, Ph.D.

ผู้คนในวัยกลางคนยังมีเวลาใช้ชีวิตยาวนานต่อไปข้างหน้า จึงสามารถตั้งเป้าหมายใหม่ๆ ได้ และมักจะมีความรับผิดชอบทางครอบครัวที่น้อยลง และมีความคล่องตัวมากขึ้น (เมื่อเทียบกับวัย 30 ปีต้นๆ ที่เพิ่งสร้างครอบครัวใหม่) จึงทำให้วัยนี้เหมาะแก่การเริ่มต้นสิ่งใหม่หรือเปลี่ยนเส้นทางชีวิต

นักจิตวิทยาคนนี้บอกอีกว่า คนในวัยกลางคนสามารถใช้ความรู้ที่สะสมมาเพื่อจัดระเบียบความคิดและเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้การเรียนรู้สิ่งใหม่และการตัดสินใจมีประสิทธิภาพสูงกว่าวัยเด็กหรือวัยรุ่น ที่ต้องเน้นการเรียนรู้ใหม่อย่างรวดเร็ว

เขายังส่งเสริมให้คนในวัยนี้ใช้เวลาทบทวนชีวิตและตั้งเป้าหมายใหม่ เพื่อสร้างแรงจูงใจและความหมายในชีวิต แทนที่จะยึดติดอยู่กับเป้าหมายเดิมๆ ที่เคยตั้งไว้เมื่อวัยหนุ่มสาว

"เป้าหมายใหม่" ตัวช่วยเติมสีสัน สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิต

การมีอายุยืนยาวขึ้นและเวลาใช้ชีวิตอีกหลายสิบปี หากวัยทำงานเอาแต่ทำสิ่งเดิมๆ มาคตลอด นั่นอาจทำให้หมดไฟในการใช้ชีวิตและการทำงานได้ ดังนั้น การตั้งเป้าหมายใหม่ๆ ในช่วงวัยกลางคนจึงมีประโยชน์อีกอย่างก็คือ "เป็นตัวช่วยเติมสีสันให้กับชีวิตประจำวัน"

เนื่องจากการทำสิ่งเดิมซ้ำๆ มาหลายปี คุณอาจรู้สึกว่าชีวิตสั้นและเวลาผ่านไปเร็วเกินไป การตั้ง “หมุดหมายใหม่” เช่น การเรียนทักษะใหม่ๆ หรือเริ่มโปรเจกต์ที่ใฝ่ฝัน จึงช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณตื่นขึ้นมาพร้อมความตื่นเต้น รู้สึกชีวิตกระชุ่มกระชวยในแต่ละวัน

อีกทั้งเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ภาระเลี้ยงดูครอบครัวจะเริ่มลดลง (ลูกๆ เริ่มโตและรับผิดชอบตัวเองได้) ภาระการเงินก็เริ่มเบาลง ทำให้คุณมีอิสระมากขึ้นในการเลือกว่าจะใช้เวลาและพลังงานไปกับสิ่งใด ช่วงเวลานี้เองคือโอกาสในการ “สร้างสิ่งใหม่” ที่ตอบโจทย์ตัวเองจริง ๆ

ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าคุณพบว่า ตัวเองในวัยกลางคนเริ่มมองคุณค่าต่อสิ่งต่างๆ ในชีวิตเปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่น แต่เดิมในช่วงวัยหนุ่มสาวคุณอาจเคยให้ความสำคัญกับความสำเร็จและการยอมรับจากสังคม แต่พอก้าวเข้าสู่วัยกลางคน คุณอาจหันมาให้คุณค่ากับการช่วยเหลือสังคม หรือการสร้างความหมายให้กับงานอดิเรกมากขึ้น นี่จึงเป็นเวลาที่เหมาะจะปรับเป้าหมายชีวิตและอาชีพ ให้สอดคล้องกับค่านิยมปัจจุบันในวัย 40-50 ปี

การเรียนรู้เชิงรุก-เปิดรับสิ่งใหม่ ช่วยปลุกพลังสมองให้ฉลาดขึ้น

เมื่อรู้แล้วว่า "วัยกลางคน" เป็นช่วงวัยที่มีคุณค่าและไม่ได้แย่ลงอย่างที่หลายคนเคยเข้าใจ แต่มากไปกว่านั้น ยิ่งเราเรียนรู้และเปิดใจต่อสิ่งใหม่ๆ รอบตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีกับคุณภาพชีวิตวัยกลางคนมากขึ้นเท่านั้น สอดคล้องกับความเห็นของ ดร.มาร์กแมน และ ดร. บ็อบ ดู๊ค ศาสตราจารย์ด้านดนตรีและการเรียนรู้ของมนุษย์ ที่เน้นย้ำว่า การเรียนรู้เชิงรุก และการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ คือ กุญแจสำคัญสู่ชีวิตที่ชาญฉลาดและมีความสุขในระยะยาว และต่อไปนี้คือคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับวัยกลางคน เพื่อชีวิตที่มีความสุขในระยะยาว

1. หากรู้สึกเวลาเดินเร็วกว่าเดิม ต้องรีบปักหมุดหมายใหม่:
เมื่อเราอายุมากขึ้นมักจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วขึ้น ทั้งนี้เกิดจาก ชีวิตคนเราในวัยนี้มักจะซ้ำซากจำเจมากขึ้น และสมองก็ให้ความสนใจต่อการกระทำซ้ำๆ เดิมๆ น้อยลง แต่หากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สมองก็จะเกิดการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ กลายเป็น "หมุดหมาย" ที่น่าสนใจของชีวิต ทำให้เวลาช้าลง และรู้สึกสนุกตื่นเต้นในทุกวัน

2. สมองมีประสิทธิภาพ แต่เริ่มขี้เกียจ:
สมองของเราชอบทำในสิ่งที่เคยทำมาแล้ว เพราะมันจะรู้สึกว่า "มีประสิทธิภาพ" แต่พูดอีกนัยหนึ่งคือสมองเริ่ม "ขี้เกียจ" ดังนั้น การเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ จึงมักจะถูกต่อต้านในตอนแรก แต่หากก้าวข้ามความรู้สึกนี้ได้ มันจะนำไปสู่โอกาสมากมายที่เราคาดไม่ถึง ตัวอย่างเช่น เจมส์ ไดสัน (James Dyson) ผู้ประดิษฐ์เครื่องดูดฝุ่นไร้ถุง ที่ได้แรงบันดาลใจจากความรู้เรื่องโรงเลื่อยที่เขาเคยเรียนรู้เมื่อนานมาแล้ว โดยไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์ในภายหลัง

3. ความรู้ที่หลากหลายคือพลัง:
ผู้ที่ประสบความสำเร็จมักจะ "รู้เยอะในหลายๆ เรื่อง" และเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า ความรู้เรื่องไหนจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในอนาคต ดังนั้น อย่ามัวเอาแต่อยู่ในเซฟโซน หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจจะมีปัญหา แต่จงเปิดรับการลองผิดลองถูกให้มากที่สุด

4. ยิ่งเรียนรู้สิ่งใหม่ ยิ่งส่งเสริมความทรงจำ:
แม้ว่าความสามารถในการจดจำของคนเรา จะเริ่มลดลงเมื่ออายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป แต่การลดลงนี้เป็นไปอย่างช้าๆ แต่หากเรามัวไปกังวล กลัวว่าจะสมองเสื่อม นั่นกลับยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการจำแย่ลงจริง วิธีแก้ไข คือ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องจะช่วยสร้างการเชื่อมโยงใหม่ๆ ในสมอง ทำให้เรียกคืนความทรงจำได้ง่ายขึ้น

5. ไม่มีทางลัดสู่ความฉลาด:
การฟังเพลงของโมซาร์ทไม่ได้ทำให้คุณฉลาดขึ้น นักจิตวิทยายืนยันว่าคุณต้อง "ลงมือทำงานหนัก" เพื่อเรียนรู้ ไม่ใช่หาทางลัดให้ฉลาดเร็ว การเรียนรู้ที่ได้ผลจริงต้องใช้ความพยายาม การอ่านหรือรับชมอย่างเดียวเป็นการเรียนรู้แบบตั้งรับ แต่การเขียน การทำกิจกรรม หรือการสร้างสิ่งใหม่ๆ คือ "การเรียนรู้เชิงรุก" ที่แท้จริงเพราะสมองคนเราทำงานอยู่ตลอดเวลา

6. โอบรับความผิดพลาด ก้าวสู่ความสำเร็จ:
ดร. มาร์กแมน และ ดร. ดู๊ค ย้ำว่า การเรียนรู้ที่จะยอมรับและแก้ไขข้อผิดพลาด ทำให้เราฉลาดขึ้นในระยะยาว ผู้ประสบความสำเร็จมักจะเก่งในการระบุข้อบกพร่องของตนเองเพื่อนำไปปรับปรุง การอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรที่มองความผิดพลาดเป็นการเรียนรู้ จะช่วยให้คุณกล้าที่จะยอมรับข้อบกพร่องของตนเองได้ง่ายขึ้น

7. การนอนหลับดี กุญแจสู่สุขภาพกายใจที่ยอดเยี่ยม:
การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่คุณคิด ในขณะที่คุณหลับ สมองจะทำงานอย่างแข็งขันเพื่อ กำจัดสารพิษที่สะสมจากการใช้พลังงานในแต่ละวัน ทั้งยังเสริมสร้างความทรงจำที่สำคัญให้คงทนขึ้น ปรับปรุงทักษะการเรียนรู้ และยังช่วยลบความทรงจำเชิงลบเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ผลกระทบทางอารมณ์จะจางหายไปขณะที่คุณหลับ ช่วยให้วันรุ่งขึ้นก้าวต่อไปในชีวิตได้

วัยกลางคนจึงไม่ใช่ “จุดจบ” แต่คือ “โอกาสครั้งใหญ่” ที่ช่วยให้คุณได้วางแผนใหม่ เริ่มสิ่งใหม่ และค้นหาความหมายของชีวิตในแบบที่ต้องการ เพราะเป็นช่วงที่ชีวิต มีองค์ความรู้และประสบการณ์สะสมมากอย่างพอเหมาะพอดีมากที่สุด ทำให้พร้อมที่จะตั้งเป้าหมายใหม่ พร้อมทั้งมีเวลามากพอที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ ..เมื่อเส้นทางชีวิตยังอีกยาวไกล นี่อาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มเขียนบทใหม่ให้กับตัวเอง

อ้างอิง: Fastcompany, SuccessPodcast, WashingtonIndependent

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ทอท. หนุน 'สุวรรณภูมิ' ฮับโลจิสติกส์ ลุยสร้างแพลตฟอร์มบริการขนส่ง

20 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทยโอกาสแรลลี่ 1,300 จุด การเมืองพลักดัน “สู่การเลือกตั้ง”

23 นาทีที่แล้ว

โฟร์แฮนด์ ดินเนอร์ ฉลอง 60 ปี ไทย-สิงคโปร์ ณ ห้องอาหารไทยศาลาทิพย์

27 นาทีที่แล้ว

'อินเดีย' แสดงจุดยืนท้าทายสหรัฐ ปฏิเสธหยุดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

33 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ประชุมครึ่งวัน แต่ไม่รู้ทำไปทำไม? 5 Meeting Hack ช่วยชาวออฟฟิศให้ไม่เสียเวลาชีวิต!

FinSpace

5 ข้อห้ามทำ! หากตากผ้าในร่ม เสี่ยงก่อให้เกิดโรคร้ายไม่รู้ตัว

Khaosod

เปิดตัวโปรเจ็กต์ดอคคูดรามา ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’

เดลินิวส์

Bottega Veneta แต่งตั้งให้ Vicky Krieps เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่

THE STANDARD

โฟร์แฮนด์ ดินเนอร์ ฉลอง 60 ปี ไทย-สิงคโปร์ ณ ห้องอาหารไทยศาลาทิพย์

กรุงเทพธุรกิจ

เคล็ดลับการกินอาหารเย็นให้ “หลับลึก” ตื่นเช้าสดใสไม่เพลีย!

sanook.com

"ปลาเข็ม อิสสระ" เผยข่าวดีกำลังจะมีตัวน้อย มีความสุขจนน้ำตาไหล!!

Manager Online

MOODY: ลดกำแพงลงมาบ้างไม่แย่อะไร ลองเปิดใจให้คนอื่นเข้ามารู้จักเรามากขึ้น

BrandThink

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...