โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“พิชัย” ลุ้นกล่อมสหรัฐฯ ลดภาษีทรัมป์

Thairath Money

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว
ภาพไฮไลต์

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า การจัดสรรงบประมาณในส่วนที่เหลือ 42,000 ล้านบาทจากวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท หลัก ๆ จะจัดสรรไปเพื่อรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้การนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เงิน ส่วนความคืบหน้าเรื่องการเจรจาภาษีกับสหรัฐ จะหารือกันอีกรอบในวันที่ 24 ก.ค. นี้ เพื่อตอบคำถามประเด็นสหรัฐฯ สอบถามเพิ่มเติม ส่วนอัตราภาษีตอบโต้ที่ไทยจะได้รับนั้นจะแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนได้หรือไม่ ในฐานะคนทำงานก็ต้องตั้งความหวังแบบนั้นอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนายพิชัย เป็นประธาน โดยจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ 42,000 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการเพื่อรับมือผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ภาษีของสหรัฐฯ โดยเน้นโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอี พยุงการจ้างงาน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย

นอกจากนั้นมีงบประมาณบางส่วนที่จัดสรรในโครงการเกี่ยวกับการเพิ่มทุนมนุษย์ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้จัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ วงเงิน 10,000 ล้านบาท และอีกส่วนจะจัดสรรเพิ่มให้กับกองทุนเพื่อกู้ยืมเพื่อการศึกษา (ก.ย.ศ.) ซึ่งในส่วนของ ก.ย.ศ. จะอนุมัติเม็ดเงินในส่วนนี้ให้กับนักเรียน นักศึกษาในภาคเรียนต่อไปทำให้เม็ดเงินลงกระจายลงไปได้รวดเร็ว ส่วนกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ นั้นเงินทุนจะนำไปใช้ในการดึงดูดการลงทุน ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เพื่อปรับโครงสร้างการผลิตในประเทศ

สำหรับรายการงบประมาณที่ขอจากกระทรวงมหาดไทยเพื่อจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ประชุมให้ความเห็นว่าไม่สามารถที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างได้ทันในวันที่ 30 ก.ย. 2568 และอาจซ้ำซ้อนกับงบประมาณในปี 2569 ที่จะเริ่มออกมาใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2568 นี้ โดยให้กระทรวงมหาดไทยไปทบทวนโครงการและรอจัดสรรงบฯ จากแหล่งงบประมาณอื่นต่อไป

น.ส. ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม กล่าวก่อนการประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจว่าเศรษฐกิจไทยประสบปัญหาเรื่องการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าศักยภาพ และสัดส่วนการลงทุนของภาครัฐและเอกชนเมื่อเทียบกับจีดีพีอยู่ในระดับต่ำทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งได้อีกครั้ง

ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบข้อเสนอโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้วงเงิน 157,000 ล้านบาท โดยงบประมาณถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะผลการเจรจาเรื่องภาษีตอบโต้กับสหรัฐฯ วันนี้ขอให้คณะกรรมการร่วมกันทบทวนและพิจารณาข้อเสนอโครงการตามมติที่ประชุมของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ และสอดคล้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้งบประมาณในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเกิดประโยชน์เต็มที่ต่อระบบเศรษฐกิจบรรเทาผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน

ด้านนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกไทย เดือน มิ.ย. 68 มีมูลค่า 28,649.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 938,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5% เทียบเดือน มิ.ย. 67 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 27,588.2 ล้านเหรียญฯ หรือ 914,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1% ได้ดุลการค้า 1,061.7 ล้านเหรียญฯ หรือ 23,654 ล้านบาท ส่วนช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 68 การส่งออกมีมูลค่า 166,851.9 ล้านเหรียญฯ หรือ 5,578,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เทียบช่วงเดียวกันของปี 67 การนำเข้า 166,914.1 ล้านเหรียญฯ หรือ 5,651,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.63% ขาดดุลการค้า 62.2 ล้านเหรียญฯ หรือ 72,282 ล้านบาท

สำหรับการส่งออกในเดือน มิ.ย. 68 สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 13.5% สินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ฯลฯ ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 17.6% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ ฯลฯ ทางด้านตลาดส่งออก ขยายตัวดีเกือบทุกตลาด โดยสหรัฐฯ เพิ่ม 41.9% ขยายตัวต่อเนื่อง 21 เดือน, จีน เพิ่ม 23.1%, สหภาพยุโรป เพิ่ม 11.9%, CLMV เพิ่ม 9%, อาเซียน เพิ่ม 6.5% ญี่ปุ่น เพิ่ม 3.2% เอเชียใต้ เพิ่ม 20.1% รัสเซียและกลุ่ม CIS เพิ่ม 14.1% เป็นต้น

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกในเดือน มิ.ย. 68 ขยายตัว มาจากการที่คู่ค้าเร่งสต๊อกสินค้าก่อนมาตรการภาษีสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้, ได้แรงหนุนจากการส่งออกกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และการขยายตัวต่อเนื่องของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรสำคัญ อาทิ ผลไม้ มันสำปะหลัง น้ำตาลทราย ส่วนปัจจัยกดดัน ยังเป็นความไม่ชัดเจนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ ความผันผวนของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน

ส่วนการส่งออกในเดือน ก.ค. 68 คาดจะยังคงขยายตัว จากการเร่งนำเข้าก่อนภาษีสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ส.ค. นี้ แต่ช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ส.ค.-ธ.ค.) การส่งออกน่าจะชะลอลง แต่ต้องรอดูผลการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ว่าจะสรุปยังไง หากได้อัตราเดียวกับประเทศในภูมิภาคที่ 18-20% การส่งออกจะไม่ได้กระทบมาก แต่หากไทยถูกเก็บมากกว่านี้ จะกระทบขีดความสามารถในการแข่งขัน

“การส่งออกครึ่งปีหลังชะลอแน่นอน จากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ และเงินบาทที่แข็งค่า แต่ทั้งปีคาดว่า จะยังโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 2-3% เมื่อเทียบปีก่อน โดยในช่วง 6 เดือนที่เหลือ จะต้องมีมูลค่าการส่งออกไม่ต่ำกว่าเดือนละ 23,300 – 23,800 ล้านเหรียญฯ”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “พิชัย” ลุ้นกล่อมสหรัฐฯ ลดภาษีทรัมป์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Money

อาเซียนบนทางแยกเทคโนโลยี AI โอกาสทองระลอกใหม่ 5G โตเร็ว แต่ยังไม่พอ โจทย์ใหญ่พลิกโครงสร้างเศรษฐกิจ

12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทำไม ผู้ว่าฯ ธปท.ต้องเป็น “วิทัย รัตนากร”

12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Love Potion vs La Glace เมื่อ “พลังอินฟลูฯ” คือ อาวุธ สองแบรนด์ไทย เปลี่ยนเกมขายสวยในยุค Gen Z

14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันหยุดยาว 26-28 ก.ค. 68 นี้ สาขาธนาคาร ‘เปิด - ปิด’ วันไหนบ้าง

14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

“พาณิชย์” เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา

สยามรัฐ

เปิดดูรายละเอียด "ญี่ปุ่น" ยอมแลกอะไรบ้าง ทำไม "สหรัฐฯ" ยอมหั่น "ภาษีทรัมป์" เหลือ 15 %

TNN ช่อง16

KLeasing wins Best Automobile Financing award from The Asian Banker

AEC10NEWs

นักลงทุนคิดหนักค้ากัมพูชา เขมรยิงมั่ว-ธุรกิจหายวับ 1.1 หมื่นล้าน

ประชาชาติธุรกิจ

ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/07/68 อัปเดตจาก 4 สถานี

สยามรัฐ

ศุลกากรปราบปรามภาค 2 สกัดกั้นจับกุมตรวจยึดอะโวคาโด อย่างต่อเนื่อง

AEC10NEWs

กูรูเปิดโผ 7 กลุ่มหุ้นไทย รับผลกระทบความขัดแย้งไทย - กัมพูชา ปะทุ

ฐานเศรษฐกิจ

‘คิงเพาเวอร์’ รีเซตธุรกิจ ลั่น 2 ปีขึ้นผู้นำในเกมใหม่

ประชาชาติธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

รัฐผนึกเอกชนดิ้นหนีตายภาษีทรัมป์ 36% หากลดไม่ทันเสียหายยับ

Thairath Money

”วิทัย” ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ “พิชัย” หวังมาช่วยกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-หนี้

Thairath Money

“พิชัย” ลุ้นกล่อมสหรัฐฯ ลดภาษีทรัมป์

Thairath Money
ดูเพิ่ม
Loading...