ภูเก็ตครึ่งปีหลัง 68 ตลาดคอนโด-วิลล่าหรูสู่จุดปรับสมดุล
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 แสดงสัญญาณการเติบโตอย่างร้อนแรงต่อเนื่องตลอดสองปีที่ผ่านมา ในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตยังคงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 34,986 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของภูเก็ตในฐานะแหล่งลงทุนระดับภูมิภาคและจุดหมายปลายทางยอดนิยม ให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในพื้นที่ เช่น บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด และ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง บางโครงการสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 เดือนหลังเปิดตัว ตอกย้ำถึงความต้องการในตลาดเฉพาะกลุ่มระดับบนที่ยังคงสูง
ข้อมูลจากแผนกวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ระบุว่า มูลค่าการลงทุนรวมในภาคอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตยังสูงถึง 34,986 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อจังหวัดที่เป็นทั้งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและศูนย์กลางที่อยู่อาศัยของผู้ซื้อระดับบน
ในช่วงครึ่งปีแรก มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่เพียง 8 โครงการ รวม 3,006 ยูนิต มูลค่ารวม 17,845 ล้านบาท ลดลงกว่า 38.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ตลาดบ้านพักตากอากาศเปิดใหม่เพียง 25 โครงการ รวม 362 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 12,354 ล้านบาท ลดลงถึง 73.42% จากปีที่แล้ว
แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาด โดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กและผู้ประกอบการรายย่อยที่เผชิญแรงกดดันมากขึ้น บางรายชะลอหรือหยุดโครงการ บางรายเลือกขายกิจการให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีศักยภาพทางการเงินสูงกว่า
แม้แนวโน้มครึ่งแรกของปีจะสะท้อนความชะลอตัวของการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่แผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ยังคงมองเห็น "พลังแฝง" ในตลาดภูเก็ต โดยพบว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ ทั้งในพื้นที่และในตลาดหลักทรัพย์ ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงการใหม่อีกจำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 หรือต้นปี 2569
ทำเลที่ยังคงได้รับความนิยมในการพัฒนาโครงการใหม่ ได้แก่ บางเทา, เชิงทะเล, ราไวย์, ฉลอง และใจกลางเมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อชาวต่างชาติที่มองหาการลงทุนในวิลล่าและคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยระยะยาวหรือปล่อยเช่า
แผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย คาดการณ์ว่าสำหรับปี 2568 ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตจะยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง แต่อุปทานเปิดขายใหม่อาจปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 6,000-10,000 ยูนิต เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีอุปทานเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดมากกว่า 20,000 ยูนิต ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ต เคยมีอุปทานเปิดขายใหม่จำนวนมากในช่วงปี 2555-2556 โดยปี 2555 มีสูงถึง 6,429 หน่วย และปี 2556 อีกประมาณ 5,545 หน่วย เนื่องจากผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพฯ อย่าง บมจ. แสนสิริ จำกัด และ บมจ. ศุภาลัย เข้ามาลงทุน อย่างไรก็ตาม หลังจากปี 2556 คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ลดลงเหลือเพียงปีละ 2,000-3,000 ยูนิต และลดลงอย่างชัดเจนในช่วงโควิด-19
แต่หลังจากรัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ภูเก็ตก็เป็นจุดหมายแรกที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางเข้ามา ทำให้ในปี 2566 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ถึง 8,743 ยูนิต ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และความร้อนแรงยังคงต่อเนื่องมาในปี 2567 ด้วยอุปทานใหม่ถึง 15,351 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขประวัติศาสตร์สำหรับคอนโดมิเนียมในพื้นที่
สำหรับตลาดบ้านพักตากอากาศ แผนกวิจัยฯ คาดการณ์ว่าจะมีโครงการเปิดขายใหม่ประมาณ 1,000 – 1,500 ยูนิตในปี 2568 ซึ่งยังคงเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 2 ปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการปรับตัวของตลาดที่เข้าสู่ระยะ "คัดผู้เล่น" มากขึ้น โดยเปิดโอกาสให้เฉพาะผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูงจริงๆ เป็นผู้นำตลาดต่อไป
ปัจจุบันทำเลหลักของการลงทุนบ้านพักตากอากาศส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณตามแนวชายหาดและในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะอำเภอถลาง ตามแนวชายฝั่งตะวันตกของเกาะ เช่น ย่านหาดบางเทา หาดสุรินทร์ หาดลายัน เชิงทะเล รองลงมาคืออำเภอเมืองภูเก็ต บริเวณอ่าวฉลอง หาดราไวย์ และอำเภอกะทู้ หาดกมลา ป่าตอง ทำเลย่านเชิงทะเลได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะกำลังซื้อชาวรัสเซียเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
แนวโน้มในอนาคต คอลลิเออร์สคาดการณ์ว่าผู้พัฒนาส่วนใหญ่ยังคงนิยมพัฒนาบ้านพักตากอากาศในช่วงระดับราคา 30,000,000 - 50,000,000 บาท เนื่องจากเป็นกลุ่มราคาที่ค่อนข้างได้รับความสนใจจากกำลังซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติ และส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างจากชายหาดมากขึ้น เพราะต้นทุนราคาที่ดินไม่สูง และมีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย เนื่องจากปัจจุบันที่ดินริมทะเลเริ่มหายากและมีราคาที่สูงมาก ประกอบกับการปรับตัวของราคาที่ดินในภูเก็ตที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
คอลลิเออร์ส ประเทศไทย คาดการณ์ว่าตลาดบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตจะยังคงได้รับความสนใจจากกำลังซื้อและผู้พัฒนาอย่างต่อเนื่องในปี 2568 และอาจมีผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพมหานครเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่เกาะภูเก็ตจำนวนมาก ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศ รวมถึงอาจมีผู้พัฒนารายใหม่ให้ความสนใจเข้าลงทุนในจังหวัดภูเก็ตอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ยังคงมองว่าภูเก็ตเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดให้มากที่สุด ทั้งจากกำลังซื้อไทยและกำลังซื้อต่างชาติ โดยเฉพาะกำลังซื้อชาวรัสเซีย ซึ่งคอลลิเออร์ส มองว่ายังคงมีผู้พัฒนารายใหม่จากกรุงเทพฯ เข้าลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในภูเก็ตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี